เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริงของคุณฟ้า โดยเหตุการณ์นี้ผ่านมาเมื่อ10ปีที่แล้ว ตอนน้ำท่วมใหญ่ปี2554
เรื่องนี้เกิดขึ้นนานมาก ตอนนั้นกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปีที่3 ประมาณเดือนตุลาคม 2554 ช่วงนั้นประเทศไทยเกิดน้ำท่วมใหญ่ ทางครอบครัวของคุณฟ้า คุณแม่ คุณพ่อ น้องสาว และตัวคุณฟ้าเอง ต้องอพยพหนีน้ำไปเช่าตึกแถวเก่าๆอาศัยอยู่ชั่วคราว ย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
โดยตึกแถวมีลักษณะ 3 ชั้นเก่าๆ มีดาดฟ้า อยู่ติดถนนใหญ่กาญจนาภิเษก มีการต่อเติมอาคารเป็นห้องพักราคาถูกให้เช่าอยู่แล้ว ทางครอบครัวคุณฟ้าก็ได้เช่าชั้น 3 ทั้งหมด ซึ่งมี 3 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำรวม โดยชั้นที่ 2 มีครอบครัวคนขายอาหารตามสั่งเช่าอยู่ก่อนด้วย
คืนแรกที่ย้ายมาอยู่นั้น เหตุการณ์ก็ผ่านไปปกติ ไม่มีอะไร แต่ทุกคืนตอนตี 1 จะมีเสียงดังตุ๊บๆคล้ายๆใครทุบอะไรบนดาดฟ้า เพราะห้องที่คุณฟ้านอนอยู่นั้น เพดานข้างบนก็คือดาดฟ้า ซึ่งก็ได้ยินสียงแบบนี้แทบทุกคืน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ในแต่ละวันช่วงน้ำท่วม ออกไปไหนไม่ได้ วันๆดูแต่ทีวี อินเตอร์เน็ตก็ไม่มี และน่าเสียดายที่ช่วงนั้นยังไม่มีโทรศัพท์ที่เล่นอินเตอร์เน็ตได้ ทำให้ไม่มีอะไรทำน่าเบื่อมาก ทำให้คุณฟ้าต้องไปนั่งเล่นรับลมชมวิวน้ำบนดาดฟ้าช่วงเย็นกับน้องสาวเสมอๆ
จนวันหนึ่งคุณฟ้าตากผ้าไว้ แล้วลืมไปเก็บผ้าตอนเย็น เวลานั้นเป็นช่วงโพล้เพล้ ใกล้ค่ำแล้ว ตะวันกำลังจะตกดิน คุณฟ้าก็เดินขึ้นไปบนดาดฟ้ากับน้องสาว กำลังเก็บผ้าปกติ ในระหว่างนั้นหางตาคุณฟ้าเห็นเหมือนมีใครยืนอยู่บนดาดฟ้าตึกข้างๆ ที่มีเหล็กลูกกรงกั้นอยู่ จึงหันไปมองก็เห็นเป็นผู้ชายวัยกลางคน รูปร่างใหญ่ ผิวดำแดง ไม่ใส่เสื้อ ยืนมองเขม่นจ้องตาไม่กระพริบ
นาทีนั้นคุณฟ้ารู้สึกตกใจ คิดว่าลุงคนนี้อยู่ๆมาไม่ให้สุ้มให้เสียง มองอะไรแปลกๆอีก แต่คุณฟ้าก็ไม่ได้สนใจอะไร รีบเก็บผ้าต่อ แต่เชื่อมั้ยเพียงแค่ไม่ถึง 2 วินาที คุณฟ้าก็หันกลับไปมองอีกครั้ง ปรากฎว่าไม่เจอลุงคนนั้นแล้ว ใช่แล้วลุงหายไปเลย เร็วมาก เมื่อถามน้องสาวว่าเห็นลุงคนนั้นมั้ย น้องสาวก็เห็นเหมือนกัน
หลังจากเก็บผ้าเสร็จด้วยความอยากรู้อยากเห็น คุณฟ้าจึงเดินไปดูใกล้ๆมองลอดผ่านลูกกรงเหล็ก ก็เห็นประตูไม้ปิดสนิท ก็ยังคิดในใจอีกว่า ลุงแกลงไปเร็วจัง ปิดประตูเร็วด้วย ไม่ยักจะได้ยินเสียงปิดประตูเลย
เวลาผ่านไปกลางดึก คืนนั้นคุณฟ้ากับน้องสาวยังไม่นอนและได้ยินเสียงเหมือนเดิมอีกแล้ว คือเสียงตุ๊บๆ คล้ายๆค้อนปอนด์ทุบตึก หรืออะไรหนักๆตกบนดาดฟ้า ในใจตอนนั้นคุณฟ้าก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อช่วงเย็นที่เจอลุงคนนั้น พลางคิดสงสัยว่า ลุงคนนั้นเป็นคนหรือผีนะ ก็นอนพูดคุยกับน้องสาวจนหลับไป
เมื่อตื่นมาคุณฟ้าก็เล่าให้คุณแม่ฟัง ถึงเรื่องลุงข้างตึกและเสียงดังบนดาดฟ้าช่วงตี1 ซึ่งคุณแม่ก็บอกว่าคงเป็นคนที่อยู่ตึกข้างๆล่ะมั้ง คงขึ้นมาเดินเล่นหรือป่าว ไม่น่าจะเป็นผีหรอก คุณฟ้าก็เลยอยากรู้ ให้แม่ถามครอบครัวป้าตามสั่งที่อยู่ชั้น2 เพราะว่าป้าแกก็อยู่มานานแล้ว
หลังจากนั้นไม่กี่วัน แม่คุณฟ้าก็เจอครอบครัวคนขายอาหารตามสั่ง ที่อยู่ชั้น2 ก็เลยถามสารทุกข์สุขดิบและถามอะไรไปเรื่อยเปื่อยไป และไม่พลาดที่จะถามเรื่องนั้นด้วย
ป้าคนขายอาหารตามสั่ง บอกว่า ทั้งชั้นนี้ที่เช่าอยู่ก็มีครอบครอบของคุณฟ้าและครอบครัวของเขาเช่าอยู่ ส่วนตึกข้างๆนั้นไม่มีใครเช่าอาศัยอยู่เลย และตึกอีกฝั่งนึงก็เป็นตึกร้างอยู่แล้ว คงไม่มีใครมาเช่าอยู่หรอก คนที่เคยเช่าอยู่ก็หนีน้ำท่วมกลับต่างจังหวัดไปหมดแล้ว
เมื่อคุณฟ้ารู้เช่นนี้ ตั้งแต่วันนั้นคุณฟ้าก็ไม่กล้าไปนั่งเล่นรับลมบนดาดฟ้านั้นอีกเลย หรือหากจะเก็บผ้าที่ตากไว้ ก็จะรีบเก็บก่อนช่วงเย็นและชวนน้องไปด้วยทุกครั้ง แต่เชื่อมั้ยว่า ทุกกลางดึกช่วงตี 1 ก็ยังได้ยินเสียงปริศนาดังบนดาดฟ้าแทบทุกคืน จนกระทั้งคืนสุดท้าย ที่ครอบครัวคุณฟ้าย้ายออกไป หลังจากน้ำท่วมลดลงกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
คุณฟ้าบอกว่า เรื่องนี้อาจจำรายละเอียดได้ไม่หมด เพราะเหตุการณ์ก็ผ่ามานานมากแล้ว แต่ก็อยากเล่าแบ่งปันประสบการณ์ขนหัวลุกให้ฟังแบบกระชับที่สุด ปัจจุบันทุกครั้งที่ขับรถผ่านถนนกาญจนาภิเษก ก็ยังมองเห็นตึกแถวติดถนนตรงนั้นเสมอ แถมยังขนลุกไม่หายกับการเจอผีบนดาดฟ้า แม้ว่าผีจะไม่ได้หลอกหลอนให้น่ากลัวมากมายนัก แต่มันก็ยังจำได้ติดตาและฝังใจมาตลอดจนถึงวันนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี