วันที่ 28 เมษายน 2564 นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าว ได้โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า วันที่ผมถูกจำคุก รับโทษตามคำพิพากษา ผมนึกถึงประโยค อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ พูดง่าย แต่ทำยากเหลือเกิน โดยเฉพาะทำใจผมพยายามมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยมันก็จบเสียทีวันหนึ่งผมจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในคุก ผมพยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ทั้งกับเรือนจำ ทั้งกับเพื่อนๆ ผู้ต้องขัง
แม้กระทั่งกับตัวผมเองเพื่อให้เวลามันผ่านไปได้ในคุกไม่เคยมีความสุข ขอแค่ทุกข์พอประมาณก็ดีถมไปแล้วผมได้รับมอบหมายให้ทำ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ” ให้ความรู้เรื่องโควิด 19 เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกจนนำไปสู่เหตุวุ่นวายผมเสนอทำรายการ “กำลังใจสู่ชาวเรือนจำ” เพราะผมอยากเห็นเพื่อนๆ มีกำลังใจรอวันเวลาออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีกแน่นอน ผมต้องให้กำลังใจตัวเองด้วยให้อดทนก้มหน้ารับโทษตามคำพิพากษา
กระทั่งผมได้รับการพักการลงโทษตามกฎเกณฑ์ ได้ออกมาใช้ชีวิตในโลกภายนอกอีกครั้งผมดีใจที่แฟนข่าวไม่ลืมกันโลกเปลี่ยนไปมาก สังคมข่าวสารก็เปลี่ยนไปเยอะงานข่าวคืออย่างเดียวที่ผมทำเป็นและการทำงานคือชีวิตของผมผมต้องหยุดใช้ชีวิตของผมมานาน ตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ทุกวันตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้ไปใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็น ทุกข์ที่สุดจริงๆ ครับ วันที่ผมได้รับการพักการลงโทษ ผมได้รู้ในสิ่งที่ผมเองคาดไม่ถึงจากช่องทางการสื่อสารในโลกยุคใหม่ทุกคนแสดงออกได้ บอกความรู้สึกได้ผมได้รู้ว่ามีแฟนข่าวรอคอยการกลับมากลับมาทำหน้าที่หน้าจออีกครั้งหลายคนรับผมเป็นคนในครอบครัวจริงๆ
หลายคนบอกว่าดูผมตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเรียนจบ ทำงานทำการ มีลูกมีเต้า คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมากมายที่ลูกๆ หลานๆ ออกมาบอกว่าท่านรออยู่นะวันแรกที่ผมเดินเข้าคุก ผมไม่ได้ร้องไห้แต่วันแรกที่ผมได้พักการลงโทษ ผมกลับบ้านไปร้องไห้ผมได้อ่านข้อความต่างๆ เสมือนได้พบครอบครัวใหญ่ของผมเสมือนญาติๆ สนิทของผม พากันมารับผมออกจากเรือนจำหลายคนบอกน้ำตาไหล และผมก็น้ำตาไหลพวกเขาน่าจะอยากให้ผมได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กลับไปทำหน้าที่พูดคุยกับพวกเขาทุกเช้าพวกเขาอยากให้ผมกลับไปทำรายการ เป็นคนมานั่งบอกเล่าข่าวให้ฟังทุกๆ วัน
บางวันฟังแล้วเขาอาจจะชอบใจ บางวันอาจจะไม่ชอบใจ เหมือนที่เคยเป็นมาเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง เป็นลูกเป็นหลาน เป็นลุงเป็นอา ยามที่เขาทำกิจวัตรตอนเช้าหรือแม้แต่เป็นนาฬิกาปลุกไม่มีใครรู้ว่ารายการที่ผมกลับมาทำจะประสบความสำเร็จหรือไม่
โลกเปลี่ยนไป สังคมเปลี่ยนไป แต่ผมเชื่อของผมว่า ครอบครัวข่าวของผม แฟนข่าวของผม ยังอยากพบอยากเจอกัน ความผูกพันที่เกิดขึ้นจากความจริงใจต่อกันมายาวนานวันนี้ ผมอยากจะกลับมาทักทาย พูดคุย เล่าเรื่อง อยากจะร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างที่เคยเป็นมาขอบคุณที่ติดตามเป็นกำลังใจให้เสมอมาครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี