แน่นอน... ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขณะนี้ อาจทำให้ใครหลายๆคน มีความเครียด และความกังวลใจอย่างแน่นอน แต่เราจะรับมือกับความเครียดเหล่านี้ได้อย่างไร เพื่อที่จะให้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้พร้อมๆ กัน และเชื่อว่าแต่ละคนมีวิธีคลายความเครียดที่ไม่เหมือนกัน เพื่อให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้นท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เช็คตัวเองก่อน! หวาดวิตก ‘โควิด’ เกินไปจนป่วยใจ? จิตแพทย์แนะ ‘เอาเข้าให้น้อย เอาออกให้มาก’
วันนี้ “ทีมข่าวแนวหน้าเฉพาะกิจออนไลน์” ได้สอบพูดคุยกับ “นางสาวจงกล ขันทอง” อายุ 32 ปี ชาว จ.ชลบุรี ถึงการผ่อนคลายไม่ให้ตัวเองเครียดกับสถานการณ์เช่นนี้ว่ามีวิธีการอย่าสงไรบ้าง? ซึ่งนางสาวจงกล ก็ได้เล่าให้ทางทีมข่าวฯ ฟังว่า อันดับแรกเลยเราต้องตั้งสติก่อน และดูสิ่งที่เขาพูดกล่าวหา หรือกดดันนั้น มันสำคัญกับเรามากน้อยแค่ไหน จากนั้นก็แยกแยะปัญหาว่าสิ่งที่สังคมกดดันเกิดจากอะไร หากไม่ก็แค่ปล่อยผ่านเดี๋ยวเรื่องก็เงียบไปเอง เรื่องบางเรื่องสนใจมากก็มากเรื่อง
นางสาวจงกล ยังเล่าอีกว่า ในช่วงสถานการณ์ที่มีโรคระบาดแบบนี้ เราเองก็มีความกังวลมากเวลาออกไปข้างนอก เพราะเรามีลูกน้อยด้วย คือถ้าออกไปข้างนอกก็จะสวมแมสก์ตลอด และพกสเปย์แอลกอฮอล์ พยายามเดินห่างคนอื่นไม่อยู่ในที่คนจำนวนมาก แต่ไม่ถึงกับเครียดจนมากดดันตัวเอง
“เรามีวิธีแก้ปัญหาของตัวเองกันทุกคน ส่วนเรานั้นเลือกที่จะอยู่กับสิ่งที่เรารัก เช่น ตอนนี้เรามีลูกแล้ว ลูกช่วยให้เราหาย เครียดได้เยอะมาก นอกจากลูกก็คงเป็นแมวและหมาที่เลี้ยงไว้ช่วยให้หายเครียดได้เหมือนกันนะ” นางสาวจงกล กล่าว
นางสาวจงกล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตอนนี้ทุกคนอยู่ในสภาวะคล้ายกัน คือ ปัญหาทางการเงินปัญหาหลักของความเครียด เราก็ต้องพึงพาตัวเองให้มากที่สุดก่อน หารายได้ทางอื่นที่สามารถทำได้ก็ทำรอคนอื่นช่วยก็คงไม่ไหว ตอนนี้เงินเยียวยาถามว่าพอไหม? มันก็ไม่หรอก แต่จะทำยังไงได้เราต้องอยู่ให้ได้ โรงงานปิดตัวลงไปเยอะคนตกงานก็เยอะ ตนเป็นที่พึงแห่งตนแล้วตอนนี้ ส่วนเรื่องโรคโควิดที่ระบาดคือต้องรับมือและอยู่กับมันให้ได้แล้ว ใส่แมสก์ล้างมือบ่อยๆ กินอาหาสดใหม่สะอาด อยู่ห่างๆกันไม่อยู่ในที่แออัดคนมากๆ หากเราไม่คิดแบนี้เครียดตายแน่ๆ
ทางด้านของ “นายกิตติคุณ แซ่ฮั่น” อายุ 25 ปี พนักงานบริษัท ชาว จ.นครศรีธรรมราช ได้เล่าให้เราฟังว่า สถานการณ์ช่วงนี้ถือว่าหนักจริงๆ ยิ่งคนที่ตกงาน ถูกจ้างออก น่าเห็นใจพวกเขามาก ส่วนตนถือว่ายังโชคดีมากๆ ที่บริษัทยังจ้างอยู่ ไม่ลดเงิน แต่ก็ใช้ชีวิตได้ยากกว่าปกติ แต่ก็เข้าใจว่าสถานการณ์อย่างนี้ เราต้องปรับตัว และพึ่งตัวเองให้มาก ถามว่าเครียดไหมคงจะบอกว่าไม่เครียดก็ไม่ได้ ต้องยอมรับว่ามีความกังวลบ้าง ไหนจะโรคระบาด ไหนจะเรื่องวัคซีน และที่สำคัญคือเรื่องปากท้อง เพราะคนเราต้องกินต้องใช้ทุกวัน
“วิธีการผ่อนคลายตัวเองของผม กลับจากทำงานได้กินอาหารจากคนที่รักทำให้ ได้เห็นหน้าก็มีพลังขึ้นมาแล้ว และถ้าเราเครียดหรือกังวลมากจริงๆ การออกกำลังกายให้เหงื่อออกบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี และการแต่งรถก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมผ่อนคลายอีกอย่างหนึ่ง เราเลือกอยู่กับสิ่งที่ชอบและรักถือเป็นการผ่อนคลายไม่ให้เราคิดมากหรือวิตก อย่าเจาะจงกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกินไป ปล่อยผ่านมันบ้างก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพจิตใจเรา” นายกิตติคุณ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ไม่ว่าเราจะเครียดหรือวิตกมากแค่ไหนสิ่งที่ทำให้เราผ่อนคลายมันได้คือ ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ บางคนก็ไปลงการการกิน ออกกำลังกาย ฟังเพลง อ่านหนังสือ ทำอาหาร หรือกิจกรรมอื่นๆ เพียงแค่เราเลือกที่จะรับอะไรเข้าไปกระทบจิตใจเรามากกว่ากัน ถ้าเราเลือกได้ก็อยากให้ทุกคนรับสิ่งที่เราทำและผ่อนคลายเข้า และให้คลายสิ่งที่กังวลออก เพียงแค่นี้อาจจะช่วยเราได้ไม่มากก็น้อย...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี