วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เจ้าของไร่อินทผลัมมาลัยทรัพย์ อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี เตรียมเนรมิตไร่รับนักท่องเที่ยวชิม ชม แชะ ช้อป จิบกาแฟ แลตะวัน พบอินทผลัมหลายสายพันธุ์ที่ได้ปลูกไว้นำมาตั้งชื่อเป็นมงคลของไร่ ปฐมฤกษ์เปิดไร่วันที่ 11 ก.ค.นี้
ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปจะเป็นช่วงที่ลูกอินทผลัมกำลังเริ่มแก่และสุก เตรียมรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบรับประทานผลสดกันแล้ว ด้วยคุณสรรพของลูกอินทผลัมซึ่งดีต่อสุขภาพมากมาย เช่น ป้องกันความจำเสื่อม ลดการเกิดมะเร็งต่อลูกหมาก ลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แก้ปวดเมื่อย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการแผลติดเชื้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้มีเกษตรกรหลายรายคิดหันมาปลูกกันมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตราคาดี สู้ทนแดดฝน อายุยืนยาว ปลูกได้หลายสภาพผืนดิน
อย่างที่ ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ของนางสุประวีณ์ รัศมีตรีเนตร อายุ 64 ปี อดีตข้ารายการครูบำนาญ เจ้าของไร่มาลัยทรัพย์ ตั้งอยู่เลขที่ 143/1 หมู่ 7 ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา ที่ได้ปลูกต้นอินทผลัมสายพันธุ์ต่าง ๆ มาปลูกไว้กว่า 1,000 ต้น พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้เป็นมงคลมีทั้งผลที่มีสีแดง สีแดงอมส้ม และสีเหลือง การปลูกจะขุดร่อง 4 มุมแล้วปล่อยน้ำไว้ให้ขังอยู่ในร่องเพื่อสร้างความชุ่มชื้นระหว่างติดผล โดยไร่แห่งนี้ยังปลอดสาร สังเกตจากการเลี้ยงชันโรงไว้จำหน่ายน้ำผึ้ง ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดพื้นที่ปลอดภัยจากสารเคมีของการปลูกด้วย ส่วนชื่อไร่เป็นชื่อที่มารดามอบที่ดิน ซึ่งถือเป็นทรัพย์มอบให้ตัวเองและครอบครัวไว้ทำกิน

นอกจากนี้ที่สวนยังมีอินทผลัมหลายสายพันธุ์ที่น่าสนใจ เช่น พันธุ์พลอยทับทิมเพาะเมล็ดจากพันธุ์โคไนซี่ กินผลสดแต่ฝาดเล็กๆ กินผลสุก หวานค่อนไปทางหวานมัน พันธุ์พลอยโกเมน เพาะเมล็ดจากพันธุ์ฮายานี่ กินผลสุก รสหวาน ละมุน ไม่หวานมาก พันธุ์พลอยไพลินเพาะเมล็ดซักห์ลูล กินผลสด หวานนำ ติดฝาดเล็กๆ กินผลสุก หวานนำ เนื้อแน่น เนื้อเยอะ พันธุ์กินบ่เซียง เพาะเมล็ดอัจวะห์ กินผลสุก เนื้อเหนียวนุ่ม ไม่หวานมาก พันธุ์บาฮี เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ UAE กินผลสด รสชาติหวาน กรอบ พันธุ์พลอยมุกดา เพาะเมล็ดแม่อะบูบาเดียร์ กินผลสุก หวานนำ เนื้อเยอะ พันธุ์พลอยเพทาย เพาะเมล็ดอัมเอ็ดดาฮาน กินผลสด หวานนำ ติดฝาก10เปอร์เซ็นต์ กินผลสุก หวานนุ่ม พันธุ์พลอยมรกต เพาะเมล็ดฮัสซาวี กินผลสุก รสหวานนุ่ม อร่อยมาก นอกจากนี้ยังมีพันธุ์เพชรจรัสและสายพันธุ์อื่นๆ รวมมากกว่า 9 สายพันธุ์
นางสุประวีณ์ รัศมีตรีเนตร เจ้าของไร่มาลัยทรัพย์ กล่าวว่า ปลูกอินทผลัมมาเป็นปีที่ 6 แล้ว ก่อนหน้านี้ได้ศึกษาเรียนรู้มาประมาณ 3 ปี เพราะเป็นพืชยังใหม่ของประเทศไทย ซึ่งสามีไปทำงานอยู่ตะวันออกกลางเห็นผลอินทผลัมและเกิดความชอบจึงคิดว่าในบ้านเราปลูกหน้าจะปลูกได้ พอกลับมาเมืองไทยจึงพยายามศึกษาเรียนรู้ และทดลองปลูกในไร่นี้มีมากกว่า 10 สายพันธุ์ จะคัดสายพันธุ์เด่น ๆ จากประเทศตะวันออกกลาง มีทั้งอินโดนีเซีย จอร์แดน ยูเออี ถือเป็นแปลงแรกเป็นสายพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเมล็ด เป็นเมล็ดที่นำเข้า เมื่อสายพันธุ์อินทผลัมที่ได้จากการเพาะเมล็ดเวลานำมาปลูกจะเกิดการกลายพันธุ์ ที่ไร่จึงได้ตั้งชื่อเป็นเฉพาะในสวนแห่งนี้ ประมาณ 9 สายพันธุ์ โดยจะเปิดสวนในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ จากการคำนวณแล้วว่าจะมีผลผลิตรองรับนักท่องเที่ยวมากพอ นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วจะไม่ผิดหวัง เปิดให้เข้าเยี่ยมชมฟรี จุดเด่นจะมีอินทผลัมที่หลากหลายสายพันธุ์

ที่สำคัญยังเป็นแปลงเกษตรอินทรีย์ได้รับใบรับรองเป็นแปลงเกษตรอินทรีย์ใช้กระบวนการของอินทรีย์เข้ามาบริหารจัดการไร่ จะเปิดให้นักท่องเที่ยวชิมด้วย อยากให้ทุกคนรู้ว่าอินทผลัมไม่ใช่มีแต่ผลสด แต่มีกินได้ทั้งผลสดและผลสุก และผลแห้ง แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปจะให้นักท่องเที่ยวชิมก่อนให้ถูกใจแล้วถึงค่อยช้อปกลับบ้านกัน วันเปิดงานจั่นไหนที่สามารถเด็ดแล้วชิมได้เราจะเปิดให้ชิมกันสดๆ
สำหรับเรื่องราคาขายที่หน้าไร่จะมีที่เป็นสายพันธุ์ และขนาดไซส์ ในไร่ไม่ว่าจะต้นไหน ไซส์ไหน ตั้งไว้ที่กิโลกรัมละ 400 บาท สำหรับแขกที่มาเยี่ยมชม แต่หากเป็นการขายส่งออนไลน์จะขึ้นอยู่กับไซส์และขนาดมีตั้งแต่ 400 - 600 บาท

สำหรับการปลูกและการให้น้ำนั้นต้นกำเนิดอินผลัมจะอยู่ในทะเลทราย ทนร้อน แต่ไม่ทนแล้ง การปลูกต้องการน้ำมาก โดยเฉพาะช่วงการให้ผลผลิตจะขาดน้ำไม่ได้ ปัญหาเรื่องหนึ่งที่ชาวสวนอินทผลัมเจอคือลูกแตก ลูกร่วง ทำให้ต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอด โดยอินทผลัมจะแยกเพศชัดเจน ในหนึ่งแปลงจะต้องมีทั้งตัวผู้และตัวเมีย ตัวผู้แทงจั่นก่อนประมาณ 1 เดือน จากนั้นต้องเก็บจั่นตัวผู้ไว้เพื่อที่ต้นตัวเมียแทงจั่น จากที่เราเริ่มเห็นจั่นออกมาจากต้นใช้ระยะเวลา 10 วันเมื่อจั่นบานก็จะเอาเกสรตัวผู้ผสมให้ ซึ่งมีเกสรตัวผู้เองก็จะผสมสดเขย่าใส่ต้นตัวเมีย ถ้าบางแปลงเกสรตัวผู้ไม่พอก็ต้องผสมแห้ง เอาเกสรที่เก็บไว้ไปพ่นใส่ จากนั้นก็จะห่อเอาไว้เพื่อกันฝน กันลม กันผึ้งแมลงขโมยเกสรไป
อย่างที่ไร่จะมีเกสรตัวผู้มากพอ ปีนี้เราส่งขายเกสรตัวผู้ไปที่สวนต่างๆได้กว่า 4 กิโลกรัมขายราคากิโลกรัมละ 30,000 บาทโดยจะใช้ระยะเวลาตั้งแต่ผสมเกสรจนถึงตัดได้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ตั้งแต่ 130 วัน - 150 วัน สนใจเข้าไปที่เพจอินทผลัมไร่มาลัยทรัพย์ เปิดทุกเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. –15 ส.ค.ตั้งแต่ 6 โมงเช้า - 6 โมงเย็น อยากให้นักท่องเที่ยวมารับบรรยากาศดีๆลักษณะ "จิบกาแฟ แลตะวัน" ที่ไร่พร้อมจัดมุมให้และยังมีกาแฟคั่วมือ จัดมุมจิบกาแฟให้เพื่อดูตะวันขึ้นทางทิศตะวันออกเลยพ้นต้นอินทผลัมขึ้นมาตอนเช้า และจะปิดสวนช่วง 6 โมงเย็น เผื่อนักท่องเที่ยวไปที่อื่นมาแล้วกลับมาดูตะวันลับขอบฟ้าที่เชิงเขาตะนาวศรีอยู่ทางทิศตะวันตกของไร่

ส่วนมาตรการเรื่องป้องกันโควิด - 19 นั้น วันเปิดงานจะตั้งเป็นเต็นท์เล็ก ๆ เช่น นักท่องเที่ยวมากัน 6 คนก็จะจัดเต็นท์ให้จะตรวจคัดกรองอุณหภูมิตั้งแต่เข้าสวน โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากอำเภอบ้านคามาคอยดูแล กำหนดเปิดงานเวลา 9 โมงเช้า นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังได้เพลิดเพลินให้เดินเก็บมัลเบอร์รี่สด ๆ จากต้นเก็บไปกินไปสบายใจ ชมการสาธิตพร้อมร่วมกันทำ น้ำมัลเบอรี่ สมูทตี้มัลเบอรรี่ ไอศรีมมัลเบอรี่ และยังมีน้ำมะขามป้อมสดๆจากต้น กิจกรรมถามมา ตอบไป ตอบได้ มีรางวัล
นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่ไกลจากไร่มาลัยทรัพย์มากนัก เช่น แวะสักการะวัดป่าพระธาตุเขาน้อย ไหว้พระธาตุ กราบอัฐิหลวงปู่เทสก์เทสรังสี เสริมสิริมงคลและตามรอยพระบาท รัชกาลที่ 9 ชมต้นไม้ทรงปลูก ซึ่งผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ 081-8806584 หรือ สนใจมาเป็นหมู่คณะในวันธรรมดาก็ได้ จะมีวิทยากรนำชมพาเที่ยว ขอให้ติดต่อมาล่วงหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี