วันนี้ (14 ก.ค.64) เพจ "ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้เผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับเสือโคร่งสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก ก่อนที่จะมีการจัดเสวนาแบบออนไลน์ ในหัวข้อ "มองสถานการณ์เสือโคร่งปัจจุบันสู่อนาคตฯ" ในวันที่ 29 กรกฎาคม- 27 สิงหาคม 2564 นี้ โดยมีเนื้อหาดังนี้
รู้หรือไม่...ทั่วโลกมีเสือโคร่งทั้งหมด 9 สายพันธุ์ สูญพันธุ์ไปแล้ว 3 สายพันธุ์ แล้วประเทศไทยจะเป็นอย่างไร 29 ก.ค.นี้ เรามาร่วมมองสถานการณ์เสือโคร่งไปพร้อมกันทั่วประเทศ...
29 กรกฎาคมของทุกปีจะตรงกับวันเสือโคร่งโลก (Global Tiger Day) โดยในปีนี้ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืชจะมีการจัดนิทรรศการเสือโคร่ง ในรูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม - 27 สิงหาคม 2564 ทาง www.globaltigerday2021.com
โดยในวันที่ 29 กรกฎาคม จะมีการเสวนาแบบออนไลน์ ใน 2 ช่วงเวลา ดังนี้ เวลา 10.30 น. เสวนาในหัวข้อ “TIGER TALK” และในเวลา 13.00 น. เสวนาในหัวข้อ “มองสถานการณ์เสือโคร่งปัจจุบันสู่อนาคต : Thailand’s tigers forever : Moving forward to the future”
แต่ก่อนที่จะถึงวันสำคัญดังกล่าว เรามาทำความรู้จัก "เสือโคร่ง" กันก่อน ซึ่งทางสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าได้เผยแพร่ไว้ใน BIG 7 หรือ 7 สัตว์ป่าผู้ยิ่งใหญ่ แห่งป่าห้วยขาแข้ง ตอน : 'เสือโคร่ง' ผู้ยืนอยู่บนยอดพีระมิดแห่งพงไพร
เสือโคร่ง (Tiger) คือชนิดพันธุ์ที่เรียกว่า umbrella species การดำรงอยู่ของเสือโคร่ง เท่ากับ การดำรงอยู่ของสัตว์ป่านานาชนิดในผืนป่า
การเป็น umbrella species ยังหมายถึง การเป็นเป้าหมายหลักในการอนุรักษ์และคุ้มครอง เท่ากับว่า สัตว์ป่าน้อยใหญ่ในพื้นที่ของเสือโคร่ง ล้วนได้รับการอนุรักษ์และปกป้องไปพร้อม ๆ กัน
เสือโคร่ง อยู่ในวงศ์ Felidae เป็นสัตว์กินเนื้อ (canivora) ขนตามลำตัวสีน้ำตาลเหลืองหรือเหลืองอมส้ม มีลายสีดำพาดขวางตลอดทั้งลำตัว...แน่นอนว่า แต่ละตัวมีลายไม่ซ้ำกันเช่นเดียวกับลายนิ้วมือของคน
ทั่วโลก มีอยู่ 9 สายพันธุ์ : บาหลี, ชวา, แคสเปียน, อินโด-ไชนีส, เบงกอล, ไซบีเรียน, เซาท์ไชน่า, สุมาตรา และมลายู 3 สายพันธุ์แรก สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้วโดยสิ้นเชิง เหลือไว้เพียง 6 สายพันธุ์หลัง
เสือโคร่งในผืนป่าไทย เป็นสายพันธุ์อินโด-ไชนีส บ้างก็เรียกสั้น ๆ ว่า อินโดจีน มีลำตัวขนาดกลาง นน. 130-200 กก. นอกจากจะอยู่ในป่าไทยแล้ว ก็ยังอยู่ในพม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และทางตอนใต้ของจีน
ในประเทศไทย มีรายงานประชาเสือโคร่ง (ปี 2563) จำนวน 130-160 ตัว กระจายตัวในป่าอนุรักษ์ที่สำคัญ เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติปางสีดา ผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งถือเป็นบ้านแห่งความหวังในการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งอินโดจีนอีกแห่งหนึ่ง
อาณาเขตของเสือโคร่งเพศผู้ กินพื้นที่ราว ๆ 200-300 ตร.กม. ในขณะที่เพศเมียจะอยู่ที่ 60 ตร.กม. ล่าเหยื่อตั้งแต่หมูป่า เก้ง กวาง วัวแดง และกระทิง และนิยมล่าเหยื่อที่มีช่วงอายุโตเต็มวัย
การล่าแต่ละครั้ง จะใช้เวลาในการกินเหยื่อนาน 3-6 วัน เสือโคร่ง 1 ตัว กินเนื้อประมาณ 3,000 กก./ปี เทียบเป็นกวางประมาณ 50 ตัว หากจะผลิตกวาง 50 ตัวเพื่อเป็นเหยื่อ ต้องดำรงประชากรกวางให้ได้ประมาณ 500 ตัว
ทำไมเสือโคร่งจึงมีความสำคัญ ทำไมจึงมุ่งเป้าการอนุรักษ์ไปที่ 'เสือโคร่ง' ท่านใดที่น้อยใจแทนสัตว์ป่าชนิดอื่น น่าจะพอหาคำตอบได้
เว็บไซต์ WCS Thailand กล่าวถึงความสำคัญของเสือโคร่งต่อระบบนิเวศไว้ว่า "เสือโคร่งมีความสำคัญที่โดดเด่นในฐานะผู้ล่าสูงสุดในห่วงโซ่อาหาร มีบทบาทและหน้าที่ในการควบคุมประชากรของสัตว์กินพืชไม่ให้มีจำนวนมากเกินไป"
รวมทั้งรักษาสายพันธุ์ที่ดีของประชากรสัตว์ที่เป็นเหยื่อ เพราะสัตว์ที่อ่อนแอมักตกเป็นเหยื่อของเสือโคร่ง นอกจากนี้ปริมาณและชนิดเหยื่อของเสือโคร่งก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชากรเสือโคร่งอยู่รอดได้เช่นกัน
ด้วยความสัมพันธ์นี้จึงกล่าวได้ว่า 'เสือโคร่ง' สามารถเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่มีสัตว์ป่าดำรงอยู่ได้อย่างชัดเจน" เสือโคร่ง จึงได้ชื่อว่าเป็น ‘7 สัตว์ป่า ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง’
สถานภาพปัจจุบันของเสือโคร่ง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ไอยูซีเอ็น (IUCN) จัดให้อยู่ในประเภทใกล้สูญพันธุ์ (EN)
“สัตว์ป่า แต่ละชนิดล้วนแต่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน พวกมันทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเข้มแข็งเพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลในระบบ ทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า ดังนั้น ไม่ว่าจะเหตุผลกลได้ก็ตาม สัตว์ป่าย่อมมีคุณค่ามากที่สุดเมื่ออยู่ในผืนป่า มิใช่ในกรงเลี้ยง หรือแขวนประดับไว้ตามบ้านเรือนของใคร” สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี