ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ต้องเผชิญความโศกเศร้าอีกครั้ง เมื่อ "ต้าร์สอง" เสือโคร่งเพศเมียวัย 17 ปี สัตว์ที่เป็นที่รักของเจ้าหน้าที่และผู้เข้าชม ได้จากไปอย่างสงบเมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา
สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ และหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิดเผยว่า ต้าร์สองป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจายมาสักระยะหนึ่ง ก่อนจะสิ้นใจอย่างสงบภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมสัตวแพทย์
ต้าร์สองถือเป็นหนึ่งในเสือโคร่งที่มีอายุยืนยาวที่สุดภายใต้การดูแลของศูนย์ฯ ด้วยวัย 17 ปี ซึ่งนับว่าเป็นวัยชราสำหรับเสือโคร่งที่มีอายุขัยเฉลี่ยในธรรมชาติเพียง 10-15 ปี เธอได้ใช้ชีวิตอย่างดีและได้รับการดูแลจากทีมผู้เชี่ยวชาญตลอดมา
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เวลา 10.00-12.30 น. ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการชันสูตรซากต้าร์สองอย่างละเอียด พบว่าโรคมะเร็งได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายรุนแรงกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะในระบบทางเดินหายใจ ที่พบก้อนเนื้อและหนองกระจายทั่วปอด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบก้อนเนื้อแข็งที่ไต และก้อนหนองเล็กน้อยที่ตับ รวมถึงก้อนมะเร็งที่เป็นต้นตอที่เต้านม
ทีมสัตวแพทย์ได้เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อส่งตรวจเพิ่มเติมที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อการศึกษาเซลล์ที่ผิดปกติอย่างละเอียด พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมเสือโคร่งในกรงเลี้ยง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์เสือโคร่งในอนาคต
สรุปได้ว่า ต้าร์สองเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจายที่ทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ซึ่งสอดคล้องกับอาการในช่วงท้ายของชีวิต หลังจากการชันสูตรเสร็จสิ้น ซากของต้าร์สองได้ถูกดำเนินการเผาทำลายตามหลักวิชาการและมาตรฐานสากลเรียบร้อยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี