26 กรกฎาคม 2564 เจ้าของร้านอาหารในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ได้โพสต์เรื่องราวสุดช้ำที่ต้องประสบกับปัญหาพิษโควิด ต้องปิดร้านมานานกว่า 5 เดือน กลับถูกโจรมาขโมยงัดทรัพย์สินภายในร้านหายไปมูลค่าหลายแสนบาท โดยได้นำเสนอภาพพร้อมด้วยข้อความผ่านเฟสบุ๊ค Hatthaya Anongnatwaree เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 18.16 น.
“เข้าใจว่าช่วงนี้ใครก็เดือดร้อน แต่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยการขโมยมันซ้ำเติมกันมากไปมั้ย?? เก่งในทางที่ผิดนะ บิดกล้องหนี ตัดสายและยกเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดออกไปหมดเลย เราไม่สามารถเช็คกล้องได้เลย แงะลิ้นชักเครื่องคิดเงิน แล้วก็ยกจอที่คิดเงินไปด้วย ทีวีที่ฝาผนังก็เอาออกไป เครื่องเสียงที่พ่อซื้อให้ ยกไปหมดเลย เอาไปแม้แต่ไฟติดขอบเวที อยากจับตัวให้ได้ อยากให้ทุกคนช่วยกันแชร์หน่อยค่ะ ขอร้องเลย ฝากถึงร้านรับซื้อเครื่องเสียง รับซื้อของเก่า ละแวกบ้านโป่ง หรือใกล้เคียง ที่ได้รับซื้อของที่เนตรได้พิมพ์ไปข้างต้นในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ติดต่อมาหน่อยนะคะ เดือดร้อนมาก ร้านเปิดไม่ได้ก็แย่แล้ว เจอหัวขโมยในสถานการณ์นี้แย่กว่า หมดคำจะพูดจริงๆ ขอให้เอาไปขายก็ใช้เงินนั้นได้ไม่สงบสุขนะ เสียดายเกิดเป็นคนดีๆไม่ชอบ ดันอยากเป็นขโมย เฮงซวยจริงๆ #สาบานจะหาตัวให้เจอ”
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ร้านอาหารดังกล่าวชื่อ “Hi Bridge”(ไฮ บริดจ์) ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง ถนนสายเขางู - เบิกไพร หมู่ 4 ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ปี พบ นายเมธาวิน แก้วรัตน์ อายุ 35 ปี และ น.ส.หัทยา อนงค์นาฏวารี อายุ 31 ปี เจ้าของร้าน ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปสำรวจภายในร้าน โดยพาไปดูจุดที่คนร้ายงัดกรงเหล็กด้านข้างและเจาะผนังเป็นช่องโหว่ ซึ่งอยู่ติดด้านข้างร้านติดกับเชิงสะพาน และพาไปดูทรัพย์สินต่างๆที่ถูกคนร้ายขโมยเอาไป อาทิ อุปกรณ์ชุดเครื่องเสียง ทั้งไมโครโฟน ตู้แอมป์ มิกเซอร์ ตู้ลำโพง ดอกลำโพง จอมอนิเตอร์ ทีวี เครื่องคิดเงิน และเซิร์ฟเวอร์ บันทึกภาพกล้องวงจรปิด รวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท ซึ่งถูกขโมยเอาไป
นายเมธาวิน แก้วรัตน์ เปิดเผยว่า ตนกับเพื่อนๆ 4 คน ได้ร่วมหุ้นกันเปิดร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นเป็นร้านในลักษณะนั่งชิวๆ แบบมีดนตรีสด ซึ่งเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ นอกเหนือจากงานหลักด้านสื่อผลิตโปรดักชั่นที่ทำอยู่ และร้านของตนเป็นที่รู้จักของนักเที่ยวในอำเภอบ้านโป่ง มีลูกค้าประจำมากมาย แต่หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางร้านจำเป็นต้องปิดตัวลงชั่วคราว ตามมาตรการควบคุมของทางจังหวัดมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งตนก็ต้องกลับไปทำงานที่กรุงเทพ
ส่วนร้านก็ให้ลูกน้องคอยแวะเวียน ผลัดเปลี่ยนกันมาดูแลร้าน กระทั่งเพื่อนร่วมหุ้นร้านได้เข้ามาเปิดร้านและจะมาเอาถังน้ำแข็ง เห็นความผิดปกติในร้าน มีการถูกงัดแงะ จึงได้โทรศัพท์มาแจ้งตนเอง จึงได้เดินทางกลับมาจากกรุงเทพและมาดูที่ร้านก็พบว่า คนร้ายขโมยชุดเครื่องเสียง อุปกรณ์ต่างๆภายในร้านและยังตัดสายเคเบิ้ลขโมยเซิร์ฟเวอร์บันทึกภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญภายในร้านไป
นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินหายไปอีกหลายรายการ ซึ่งตนคิดว่าคนร้ายน่าจะมีความรู้ในเรื่องของเครื่องเสี่ยงเป็นอย่างดีและน่าจะเป็นมืออาชีพ เพราะไม่มีลอยนิ้วมือแฝง ซึ่งทรัพย์สินที่ขโมย เป็นชุดเครื่องเสียง มีราคาสูง คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน เนื่องจากเครื่องเสียงมีน้ำหนักมากต้องใช้แรงคนยกถึง 2 คนและต้องใช้รถยนต์หรือรถกระบะเป็นยานพาหนะขนสิ่งของทั้งหมด ตนจึงได้นำภาพและเขียนเรื่องราวดังกล่าวผ่านสื่อโซเชียลเพื่อให้ร้านค้าที่รับซื้อ และ ใครที่ทราบเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ ซึ่งตนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ไว้เป็นที่เรียบร้อย
นายเมธาวิน แก้วรัตน์ เจ้าของร้านกล่าวอีกว่า อยากจะฝากถึงคนที่เข้ามาก่อเหตุ ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตามแต่ในช่วงวิกฤติแบบนี้ไม่น่าที่จะมาซ้ำเติมกัน แค่ลำพังร้านถูกปิดชั่วคราว ก็ทุกข์มากอยู่แล้วเพราะไม่มีรายได้เลย เรายังคงต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง ซึ่งเราคิดว่าจะกลับมาเปิดร้านอีกครั้งหลังจากโรคโควิด-19 คลี่คลายลง จำต้องเป็นทุกข์หนักเข้าไปอีกเพราะเราต้องลงทุนใหม่ก็ไม่รู้จะหามาจากตรงไหน เพราะอุปกรณ์แต่ละชิ้นราคาค่อนข้างสูง อยากให้เห็นใจกันบ้างไม่ใช่เข้ามาซ้ำเติมกันแบบนี้
ตนอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ หากปล่อยไว้ต้องเป็นภัยต่อสังคมอย่างแน่นอน เนื่องจากมีความชำนาญและมีความรู้ในเรื่องของการไม่ทิ้งลายนิ้วมือแฝง และมีความรู้ในด้านของมุมกล้องและการตัดสายไฟ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี