1. ประชาชนจำนวนนับหมื่นคนที่มีอาการของโควิด 19 กำลังรอตรวจยืนยันการติดเชื้อไวรัสตัวนี้ ด้วย PCR (Polymerase chain reaction) เพื่อนำใบรับรองผลบวกที่ได้รับ (การันตีการติดเชื้อโควิด-19) มาเป็นใบเบิกทางเข้าสู่โรงพยาบาลสนาม เพราะกฎเหล็กของทางสาธารณสุขได้กำหนดเอาไว้ว่าถ้าผู้ป่วยไม่มีผลตรวจ PCR ยืนยัน ก็ไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมได้
แต่สถานการณ์ในวันนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อคนป่วยที่ผลตรวจ PCR เป็นบวก ต้องนอนรออยู่ที่บ้าน เพราะเตียงในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนามเต็ม จนสาหัสไปถึงขั้นที่คนป่วยต้องพยายามหารถขับพาไปส่งที่บ้านเกิดในต่างจังหวัด เพื่อหวังจะได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามในพื้นที่นั้นๆ โดยเร็ว และปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งได้นอนตายอยู่ที่บ้าน ในขณะที่รอเตียงของโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามไม่ไหว ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าก็คือ จำนวนคนป่วยที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ และอาจต้องตาย จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากหลักสิบเป็นหลักร้อย จากหลักร้อยเป็นหลักพัน และขยับตัวเลขขึ้นไปเรื่อยๆ ตามอัตราอันจำกัดในการเข้ารับการรักษา ภาพที่เราเห็นในอินเดีย บราซิล หรือแอฟริกา ผมหวังว่าจะไม่เกิดขึ้นที่ประเทศไทย
2.ปัญหาอันเป็นหัวใจสำคัญประเด็นหนึ่งของวิกฤตินี้ คือ “การเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาล” ผมมั่นใจว่า ถ้าผู้ป่วยสามารถไปถึงมือแพทย์ได้ พวกเขาจะปลอดภัย เพราะแพทย์และพยาบาลของเรามีประสิทธิภาพในการรักษา และมีประสบการณ์อย่างช่ำชองตลอดช่วงเวลาไวรัสระบาดที่ผ่านมา
ดังนั้น ถ้าการเข้าถึงการรักษาของแพทย์และพยาบาท ไม่ได้หมายถึงการเข้าไปเป็นเจ้าของเตียงในโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามเท่านั้น แต่เป็นการรักษาโดยให้ยาเพื่อประคับประคองอาการในระหว่างที่รอเตียง หรือรอเข้าไปนอนในโรงพยาบาล ก็เชื่อว่า จะช่วยยืดเวลาของคนป่วยให้ต่อสู้กับความเจ็บไข้ตามอาการได้อย่างยาวนานขึ้น จนกว่าจะได้รับการเคลื่อนย้ายเข้าไปอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาล ที่โรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามอย่างใกล้ชิด
เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า อาการของโควิด-19 นั้นเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะมีไข้เจ็บคอ หายใจไม่สะดวก จมูกไม่ได้กลิ่นหรือลิ้นไม่รู้รส อาการเหล่านี้ล้วนมียาในการรักษาอยู่แล้วทั้งสิ้น คำถามคือ ทำไมไม่ปรับแผนให้แพทย์จ่ายยา (ตามอาการ) ในระหว่างที่คนไข้รอเตียง
3.วันนี้ “กรมแพทย์แผนไทย” และ “องค์การอาหารและยา” (อย.) รวมทั้งอาจารย์แพทย์สายงานวิจัยสมุนไพรไทยต่างให้การยืนยันแล้วว่า สารออกฤทธิ์(Andrographolide) ของ “ฟ้าทะลายโจร” นั้นสามารถช่วยรักษาอาการของโรคโควิด-19ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืออย่างน้อยก็สามารถยืดเวลาไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้นจนเพียงพอที่จะรอรับการรักษาอย่างเต็มรูปแบบที่จะมาถึงในเวลาที่ระบบเตียงพร้อมได้นานขึ้น แต่แพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขก็ยังคงไม่ยอมให้ยาฟ้าทะลายโจรแก่ผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการแล้ว เช่น เมื่อผู้ป่วยรับการตรวจ PCR ผลเป็นบวก และมีอาการ ก็ให้ยาฟ้าทะลายโจรไปทานที่บ้านระหว่างรอการส่งตัวเข้าโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามทันที และสำหรับคนไม่มีอาการ แต่ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 รวมไปถึงคนที่มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสเชื้อโควิดก็ควรได้รับยาฟ้าทะลายโจรในปริมาณอันเหมาะสมเช่นกัน
เหตุผลที่สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้น ซึ่งผมคิดได้ในตอนนี้ ก็คือ “อคติทางวิชาชีพแพทย์” ที่ยังไม่ยอมรับยาอันมีที่มาจากสมุนไพร
4.ผมจะไม่โต้แย้งกับแพทย์ในประเด็นนี้ถ้าสมุนไพรดังกล่าวไม่ผ่านการวิจัย และทดลองใช้ในมนุษย์มาแล้ว ที่สำคัญมันได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ รวมไปถึงหน่วยงานและบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือก็ให้การการันตีในการรักษาอาการอันเกิดจากโควิด-19 ได้ ตามที่อ้างอิงกันไปแล้วในตอนต้น
ย้อนให้หลังไป 30 ปี ผมยังจำได้ดี ที่แพทย์แผนปัจจุบันปฏิเสธการฝังเข็ม และการนวดแผนไทย แต่ในที่สุดก็ต้องยอมรับ เพราะประชาชนที่เข้ารับการบำบัดรักษามาช่วยยืนยันถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการนวดและฝังเข็มที่เกิดขึ้น ถึงตรงนี้ ฟ้าทะลายโจรก็เช่นกันอย่าให้อคติทางวิชาชีพมา “ปิดใจ” จนไม่สามารถมองเห็นประโยชน์ของฟ้าทะลายโจรอีกต่อไปเลยครับ เพราะวิกฤติที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้ มีชีวิตของคนไทยนับหมื่นเป็นเดิมพัน อย่าปล่อยให้คนป่วยต้องไปหาฟ้าทะลายโจรมาทานเองแบบผิดบ้าง ถูกบ้าง ในขณะที่รอระบบสาธารณสุขกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง ดังนั้น การเปิดใจของแพทย์แผนปัจจุบันในการนำสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาเป็นยาร่วมในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเป็นทางการ โดยผ่านคำแนะนำจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญ จึงเป็นหนทางในการลดอัตราการตายของผู้ป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่รอเข้ารับการรักษาได้อย่างแท้จริง
ที่สำคัญที่สุด ผมหวังว่า ศบค. หรือนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า ศบค. จะกรุณารับฟังผลการวิจัย และคำยืนยันประโยชน์ของการใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาอาการจากโควิด-19 อย่างละเอียดเพื่อพิจารณาตัดสินใจสั่งการให้นำฟ้าทะลายโจรมาใช้ในการรักษาชีวิตคนไทยทันทีครับ
กนก วงษ์ตระหง่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี