รื้อแล้ว! เจ้าของรีสอร์ทแพหรูกลางแม่น้ำมูลค่า 20 ล้าน เคลื่อนย้ายพ้นเขต อช.ไทรโยค

วันพฤหัสบดี ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 11.57 น.

เจ้าของรื้อถอนเคลื่อนย้ายแพพักหรูค่า 20 ล้าน พ้นเขต อช.ไทรโยค แล้ว ทำแม่น้ำแควน้อยกลับมาสวยงามตามธรรมชาติ  ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการที่เหลือมีหนาว เหตุคดีไม่มีหมดอายุความ แนะก่อนลงทุน ตรวจสอบแปลงที่ดินได้ที่ สบอ.3(บ้านโป่ง)

19 ส.ค.64 ความคืบหน้ากรณี กรมอุทยานฯนำโดย นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค นำป้ายประกาศคำสั่งไปติดตั้งที่แพพักหรูระดับ 5 ดาว "ไทรโยคโฟลทเทล" ที่สร้างรุกเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค กลางแม่น้ำแควน้อย ท้องที่หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อให้นายวสันต์ สดใส เจ้าของรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักที่มีมูลค่าร่วม 20 ล้านบาท ออกไปให้พ้นเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าวที่เกี่ยวข่้อง : อช.ไทรโยคปิดป้ายสั่งเจ้าของรีสอร์ทเคลื่อนย้ายแพพักกลางแม่น้ำแควน้อยใน 30 วัน


 

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ 19 ส.ค.64 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง) พร้อมด้วยนายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค นายจิรายุ พูลทวี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค และเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติไทรโยค กว่า 10 นาย ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าในการรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักข้างต้นออกไปให้พ้นเขตอุทยานฯได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าของผู้ประกอบการแพพักได้ยินยอมที่จะเร่งดำเนินการรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักทั้งหมดออกไปให้พ้นเขตอุทยานฯไทรโยค ด้วยตนเอง

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3(บ้านโป่ง) กล่าวว่า คดีนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นนโยบายโดยตรงที่ให้อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ดำเนินการป้องกันและปราบปรามกลุ่มนายทุนที่บุกรุกแผ้วถาง ก่นสร้าง เพื่อหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นสมบัติส่วนรวมของชาติ อย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว

 

 

โดยหลังจากที่ได้นำป้ายประกาศคำสั่งให้เคลื่อนย้ายหรือรื้อถอนได้เพียงแค่ 13 วัน ปรากฎว่านายวสันต์ สดใส เจ้าของ ได้นำคนงานเข้าทำการรื้อถอนแพพักบางหลังออกไปเพราะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เนื่องจากแพบางหลังมีความสูง ไม่สามารถลากลอดใต้สะพานได้ แต่แพส่วนใหญ่ไม่สูงมากนักจึงสามารถลากเคลื่อนย้ายลอดใต้สะพานได้ ภาพรวมการรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักทั้งหมดเสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว หลังจากแล้วเสร็จจะทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวกลับมามีความสวยงามตามธรรมชาติเช่นเดิม

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า การที่ผู้ประกอบการยินยอมรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักออกไปให้พ้นเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยคด้วยตนเองในครั้งนี้นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเจ้าของเอง เพราะหากเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการรื้อถอน จะทำให้เจ้าของผู้ประกอบการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนให้กับภาครัฐเป็นเงินจำนวนมากถึง 500,000 บาท และจะต้องจ่ายค่าดำเนินการรายวันไปจนกว่าเจ้าหน้าที่จะทำการรื้อถอนแล้วเสร็จวันละ 10,000 บาท ที่สำคัญอาจจะต้องถูกดำเนินคดี ฐานฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ พ.ศ. 2562  มาตรา 35 (1) ที่ได้กำหนดโทษเอาไว้ว่า จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วย

ดังนั้นตนในฐานะผู้อำนวยการสำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) รับผิดชอบอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี และ จ.สุพรรณบุรี อยากจะฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงกลุ่มนายทุน เจ้าของผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท รวมทั้งเจ้าของบ้านพักตากอากาศหรู ทั้งหลาย ที่รู้ตัวว่าได้มีการได้กระทำผิดกฎหมายข้างต้น หากถูกจับกุมแล้วอย่าคิดว่าจะหลุดพ้นจากคดี เพราะถึงแม้ว่าอัยการจังหวัดจะพิจารณาสั่งไม่ฟ้องทำให้คดีอาญาต้องยุติไป

 

 

แต่พื้นที่ที่ที่ถูกบุกรุกยังอยู่ในเขตอุทยานฯรวมทั้งเขตห้ามล่า และเขตรักษาพันสัตว์ป่านั้น ไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกไปไว้ที่อื่นได้ ดังนั้นผู้ประกอบการและนายทุนทุกรายที่กระทำผิด จะต้องถูกคำสั่งให้รื้อถอนทุกราย โดยไม่มีคำว่าหมดอายุความเมื่อนำไปเทียบเคียงกับคำพิพากษาฏีกาที่ 18918/2555 แล้วเจ้าหน้าที่ยังคงสามารถ ประกาศคำสั่ง ขับไล่ ให้รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง พืชผล อาสินหรือสิ่งอื่นใด ออกไปให้พ้นจากเขตสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ได้ตลอดเวลาถึงแม้ท่านจะมีอายุมากถึง 100 ปี 1,000 ปี หรือมากกว่านั้นก็ตาม 

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3(บ้านโป่ง) กล่าวว่า สุดท้ายนี้ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มนายทุนที่กำลังคิดจะหาซื้อที่ดินทำเลสวยติดแม่น้ำติดภูเขา รวมทั้งพื้นที่ที่เป็นป่าที่มีความเป็นธรรมชาติ เพื่อนำไปสร้างโรงแรมหรือรีสอร์ท รวมทั้งบ้านพักตากอากาศส่วนตัว ถึงแม้เอกสารที่ผู้ขายนำมาแสดงจะเป็นโฉนด หรือ น.ส.3 น.ส.3 ก.และเอกสารอื่นๆก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อ สามารถนำเอกสารที่มีนำมาที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพิกัดที่ตั้งของพื้นที่นั้นๆให้ เพื่อความสบายใจว่าหากลุงทุนไปแล้ว จะไม่เป็นคดีในภายหลัง เพราะพิกัดที่ดินที่ตรวจสอบนั้นจะรู้ความจริงได้ทันทีว่าอยู่ในเขตพื้นที่ของรัฐหรือไม่

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top