วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
รายงานพิเศษ : ‘วัคซีน2เข็ม-ATKทุก7วัน’  ภาคธุรกิจโอด‘ยังไม่พร้อม’

รายงานพิเศษ : ‘วัคซีน2เข็ม-ATKทุก7วัน’ ภาคธุรกิจโอด‘ยังไม่พร้อม’

วันพฤหัสบดี ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag : รายงานพิเศษ
  •  

ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าหลายประเทศในโลกเริ่มปรับนโยบายสู่การ “อยู่ร่วมกับโควิด” เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถสร้างสิ่งที่เรียกว่า “ภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity)” อันหมายถึงวัคซีนช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ และเมื่อฉีดให้ประชากรอย่างกว้างขวางก็จะทำให้เชื้อไม่สามารถระบาดได้และหายไปในที่สุด ดังนั้น นอกจากการฉีดวัคซีนเพื่อลดความรุนแรงหากติดเชื้อ ที่ในภาพรวมหมายถึงการลดจำนวนผู้ป่วยอาการหนักและผู้เสียชีวิต รักษาระบบสาธารณสุขให้ทำงานได้ไม่ล่มสลายแล้ว ยังต้องมีมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

เช่น “วัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport)”ที่หลายประเทศออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับใช้ร่วมกับหนังสือเดินทางเมื่อต้องไปต่างประเทศ หรือการเดินทางข้ามเมือง ตลอดจนการเข้าไปใช้บริการในสถานที่บางแห่ง หรือ “แสดงผลตรวจโควิดภายในระยะเวลาไม่เกิน...วัน” (3 วันบ้าง4 วันบ้าง 7 วันบ้าง) ด้วยการ “ตรวจ ATK” กรณียังไมได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดแล้วแต่ยังไม่ครบจำนวนที่วัคซีนชนิดนั้นๆ กำหนด


สำหรับประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงมาตรการ “COVID Free Setting” ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป ว่า ผู้รับบริการต้องมีเอกสารรับรอง หรือCOVID Free Pass ว่าผ่านการรับวัคซีนแล้วครบโดส หรือมีประวัติการติดเชื้อ 1-3 เดือนหรือมีการตรวจเชื้อด้วย ATK ให้ผลเป็นลบ

และอีกครั้งในวันที่ 5 ก.ย. 2564 ซึ่ง นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดส หรือเคยมีประวัติติดเชื้อโควิดมาก่อนอยู่ในช่วง 1-3 เดือน และให้คัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวันด้วยระบบไทยเซฟไทย รวมถึงหา ATK ให้พนักงานตรวจทุก 7 วัน ส่วนผู้ใช้บริการ หากจะใช้บริการในกิจการเสี่ยง ได้แก่ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ตัดผม คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดสหรือประวัติการติดเชื้อมาก่อนในช่วง 1-3 เดือน หรือตรวจ ATK ผลเป็นลบ ระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน

แม้จะเป็นนโยบายที่ดีเพื่อคัดกรองหาผู้ติดเชื้อในเบื้องต้นอันเป็นการลดโอกาสเกิดโรคระบาด แต่ก็มีเสียงสะท้อน “จะทำได้จริงหรือไม่”จากภาคธุรกิจต่างๆ อาทิ สรเทพโรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารเปิดเผยว่า วันนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารกังวลอยู่ 2 เรื่องคือ 1.ข้อกำหนดการฉีดวัคซีนครบโดส (หรือ 2 เข็ม) เนื่องจากคนไทยเองก็ยังฉีดไม่ครบ ขณะเดียวกันธุรกิจร้านอาหารมีลูกจ้างเป็นแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก และหลายคนยังไม่ได้วัคซีนแม้แต่เข็มเดียว

เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลขาดการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อเป็นวงกว้างให้นายจ้างพาลูกจ้างไปฉีดวัคซีน มีเพียงการประสานกับผู้ประกอบการเป็นการภายในผ่านกลไกสมาคมเท่านั้น จึงทำให้ผู้ประกอบการและลูกจ้างอีกจำนวนไม่น้อยไม่ทราบเรื่อง ซึ่งแม้จะเข้าใจได้ว่า รัฐบาลอาจกังวลกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนชาวไทย กรณีคนไทยยังฉีดวัคซีนกันไม่ครบเหตุใดต้องนำไปฉีดให้ชาวต่างชาติก่อนด้วย แต่ก็เชื่อว่าหากรัฐบาลอธิบายอย่างตรงไปตรงมาถึงความจำเป็นในการควบคุมโรคระบาด ประชาชนชาวไทยก็น่าจะเข้าใจ

“ถ้าเราจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการอยู่กับโควิดวัคซีนต้องไม่จำแนกชาติพันธุ์ เพราะเราต้องยอมรับว่าแรงงานต่างด้าวเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยมหาศาล เอาง่ายๆ เลย กรุงเทพฯ สมมุติคนไทยฉีดครบหมด ต่างชาติยังไม่ได้ฉีด ไม่ได้นะ! เพราะเขาเดินอยู่ในกรุงเทพฯ ผมก็ถือว่าเขาหายใจร่วมกับเรา ดังนั้น ก็ควรประกาศออกมาได้แล้ว แล้วผมเชื่อว่าคนไทยไม่มีใครดราม่าหรอก เพราะตอนนี้กรุงเทพฯ คนได้เข็มแรก 80 กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว เข็ม 2 มันเขยิบขึ้นมา 25-26เปอร์เซ็นต์แล้ว ต้องเปิดโอกาสให้เขา ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจมันขับเคลื่อนไปไม่ได้” ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร อธิบาย

กับ 2.การตรวจโควิดพนักงานด้วยชุดตรวจ ATK ทุกๆ 7 วัน ซึ่ง สรเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ประกอบการกังวลมาก เช่น หากพนักงานฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วยังจะต้องตรวจ ATK ทุกๆ 7 วันอีกหรือไม่ เพราะราคาชุดตรวจ 1 ชุดต่อพนักงาน 1 คน อยู่ที่ชุดละ 280 บาท อย่างพนักงานในร้านมี 50 คนก็เท่ากับ 280 คูณด้วย 50 จะเท่ากับตรวจครั้งหนึ่งผู้ประกอบการต้องเสียค่าใช้จ่าย 14,000 บาทแล้ว ดังนั้น หากต้องตรวจทุกสัปดาห์ ใน 1 เดือนก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายถึงกว่า 5 หมื่นบาทร้านอยู่ไม่ได้แน่นอน

“ผมฝากเรียกร้องหน่อยเถอะ รัฐบาล สาธารณสุข หรือ ศบค. จะออกมาตรการอะไรมา กรุณาคำนึงถึงค่าใช้จ่ายผู้ประกอบธุรกิจด้วย คุณเองช่วยเหลือผู้ประกอบการในยามที่ล็อกดาวน์คุณก็ช่วยเหลือน้อยมาก แทบจะไม่ได้รับการช่วยเหลือเลยด้วยซ้ำ ผู้ประกอบธุรกิจบางราย อย่างฟิตเนส ขืนเปิดมา 1 ตุลา คลายล็อก ฟิตเนสเปิดได้แต่ต้องตรวจ ATK ทุก 7 วัน เอาเฉพาะหนี้สินที่พอกพูนมา 2 ปี ก็ตายแล้ว ออกมาตรการต้องใช้ความเป็นจริงได้ อย่าออกมาตรการหรือเอากฎหมายมาซ้ำเติมผู้ประกอบการเลย” สรเทพ กล่าว

ในประเด็นชุดตรวจ ATK ราคาสูงจนกระทบต่อผู้ประกอบการและประชาชนนั้น พิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย กล่าวว่า หลังจากร้านนวดได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดอีกครั้ง ก็พอให้มีค่าข้าว-ค่าน้ำกับพนักงานบ้างแม้จะไม่ได้ดีเท่าใดนักแต่ก็ยังดีกว่าช่วงที่ปิดร้าน แต่ “มาตรการให้ตรวจโควิดด้วยชุดตรวจ ATK พนักงานและลูกค้าหากนำมาบังคับใช้จริง รัฐบาลต้องสนับสนุนชุดตรวจให้กับสถานประกอบการ” และไม่เห็นด้วยกับการบังคับให้ผู้ประกอบการซื้อชุดตรวจเพื่อตรวจพนักงานและลูกค้า

เช่นเดียวกับ สมเพชร ศรีชัยโย นายกสมาคมส่งเสริมพัฒนาอาชีพเสริมสวยและช่างตัดผมไทย ระบุว่า เท่าที่ทราบ ในต่างประเทศต้นทุนชุดตรวจ ATK อยู่ที่ประมาณ 30 กว่าบาทเท่านั้น หากรัฐบาลไทยอยากได้กำไร เชื่อว่าตั้งราคาไว้ที่ไม่เกิน 50 บาทต่อชุด ผู้ประกอบการและประชาชนก็ยังพอมีกำลังซื้อมาใช้ ไม่ใช่ปัจจุบันที่ราคา 200-300 กว่าบาทต่อชุด และผู้ประกอบการก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพราะไม่อยากบังคับพนักงาน ซึ่งพนักงานก็ไม่ได้มีรายได้มากอยู่แล้ว หากต้องมาหักค่าใช้จ่ายส่วนนี้อีก สุดท้ายพนักงานก็อาจจะย้ายไปอยู่กับร้านที่มาตรการไม่เข้มงวด

“เคยนำสินค้าเข้ามาจากจีนหลายปีมาก ก็ลองสั่งมาดูรอบหนึ่งหลายร้อยชิ้น สั่งมาแจกไม่ได้มาขาย สั่งมาตกชิ้นหนึ่ง 34 บาท รวมค่าส่งแล้วอยู่ประมาณ 37 บาท พอเราจะสั่งรอบ 2 ไม่ได้แล้ว เขาห้าม คาร์โกเขาไม่ส่งให้แล้ว เลยรู้ราคา ถ้ารัฐบาลสั่งเป็นหลักล้าน เราสั่งหลักร้อย เขาขาย 50 บาทให้ราษฎรเขาก็มีกำไร ความจริงมันมีอยู่ หลานๆ เขาอยู่อเมริกา เขาถามว่าทำไมอาต้องซื้อ ที่โน่นเขาส่งมาให้ที่บ้านเลย แต่ละบ้านเลขที่ได้รับเลย ฟรี แล้วถ้าเราใช้เยอะ ตามร้านค้าเขาขายตกประมาณ 30 กว่าบาท ถ้าเป็นเกรดดีๆ หน่อยไม่เกิน 45 บาท” สมเพชร กล่าว

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รายงานพิเศษ : เปิด ‘Acceleration Program’ 5 กลุ่ม ปั้น ‘สตาร์ตอัปฯ’ เชื่อมไทยสู่ตลาดโลก รายงานพิเศษ : เปิด ‘Acceleration Program’ 5 กลุ่ม ปั้น ‘สตาร์ตอัปฯ’ เชื่อมไทยสู่ตลาดโลก
  • รายงานพิเศษ : สัมพันธ์แน่นแฟ้น‘เสฉวน-สงขลา’ รายงานพิเศษ : สัมพันธ์แน่นแฟ้น‘เสฉวน-สงขลา’
  • รายงานพิเศษ : พัฒนาระบบแผนที่ความเสี่ยงจากฝน มุ่งเป้า ‘น้ำมั่นคง - ไม่ท่วม - ไม่แล้ง’ รายงานพิเศษ : พัฒนาระบบแผนที่ความเสี่ยงจากฝน มุ่งเป้า ‘น้ำมั่นคง - ไม่ท่วม - ไม่แล้ง’
  • รายงานพิเศษ : ชายแดนไทยรั่ว ปิดช่องโหว่งัดข้อกัมพูชา รายงานพิเศษ : ชายแดนไทยรั่ว ปิดช่องโหว่งัดข้อกัมพูชา
  • รายงานพิเศษ : ​‘ฉลาดซื้อ – ฉลาดใช้’ เตือนภัย! ผู้บริโภค ทางรอดในยุคของการหลอกลวงไม่รู้จบ รายงานพิเศษ : ​‘ฉลาดซื้อ – ฉลาดใช้’ เตือนภัย! ผู้บริโภค ทางรอดในยุคของการหลอกลวงไม่รู้จบ
  • รายงานพิเศษ : ​‘สามเหลี่ยมสมดุล’ สร้างเสริมสุขภาพ ลดปัญหาพัฒนาการเด็กปฐมวัย รายงานพิเศษ : ​‘สามเหลี่ยมสมดุล’ สร้างเสริมสุขภาพ ลดปัญหาพัฒนาการเด็กปฐมวัย
  •  

Breaking News

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้

รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.

'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved