วันที่ 18 ก.ย.64 นายวีรชาติ เขื่อนรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีเปิดการปลูกกัญชงต้นแรกใน จ.เชียงราย โดยมีนายแพทย์เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา ประธานบริษัทไทยเฮมพ์ เวลเนส จำกัด ดร.เสฐียรพงศ์ แก้วสด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ พล.อ.สุทัศน์ จารุมณี และ ดร.เพิ่มศักดิ์ สุภาพรเหมินทร์ กรรมการมูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ นายยืนยง โอภากุล หรือ "แอ๊ดคาราบาว" ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตและศิลปินแหงชาติและผู้บริหารในเครือคาราบาวกรุ๊ป รวมทั้งเอกชนที่เกี่ยวข้องและเกษตรกรเข้าร่วม ณ พื้นที่หมู่ 3 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย
สำหรับแปลงกัญชงแปลงแรกดังกล่าวมีจำนวน 5 ไร่ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงแล้ว โดยรายแรกเป็นแปลงของนายศิริชัย ใจแปง ตามเลขที่ใบอนุญาต ชร 171/2562 (ป) พื้นที่หมู่ 3 ต.ดงมะดะ โดยใช้เวลาเพาะปลูก 4 เดือนจึงเก็บผลิตแลจะส่งจำหน่ายให้บริษัทเพื่อนำไปสกัดสาร CBD และส่งให้กับเอกชนรายต่างๆ ที่ต้องการนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายเริ่มเก็บผลิตแปลงแรกในเดือน พ.ย.นี้และนำไปสกัดให้ได้ผลผลิตในปี 2565 ชุดแรกนำร่องประมาณ 4.5 ตันและจำหน่ายให้กับเอกชนที่จะนำไปเป็นผลิตภัณฑ์ตันละประมาณ 100,000-150,000 บาท
โดยนายวีรชาติ กล่าวว่า ภาคเอกชนมีการขับเคลื่อนเชิงรุกที่รวดเร็วและเชื่อว่าการขับเคลื่อนในลักษณะนี้มาถูกทางแล้วซึ่งในนามหน่วยงานภาครัฐก็จะช่วยส่งเสริมให้ได้รับการอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะกรณีนี้เป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อตั้งมาร่วม 125 ปีแต่เกษตรกรไทยก็ยังไม่มีรายได้แบบก้าวกระโดดดังนั้นโครงการนี้จึงถือเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์และเป็นต้นแบบเพื่อการนำร่องต่อไป
ด้านนายแพทย์เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า พื้นที่ จ.เชียงราย ถือเป็นแห่งแรกที่มีการปักหมุดเพื่อปลูกต้นกัญชงในเชิงพาณิชย์ โดยบริษัทมีแผนจะส่งเสริมการปลูกในช่วงแรก 1,600 ไร่ก่อนจากนั้นภายใน 5 จะเพิ่มให้เป็นประมาณ 100,000 ไร่ ลักษณะเป็นการร่วมกับเกษตรกรแต่รายๆ ละประมาณ 5 ไร่ ซึ่งเกษตรกรสามารถเก็บผลผลิตขายได้ไร่ละ 100,000 บาทต่อปี แต่ละปีจะปลูกได้ 2 ครั้ง จึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ดี โดยเมื่อเปรียบเทียบมูลค่าผลผลิตกัญชง 1 ไร่เทียบเท่ากับข้าวโพดถึง 100 ไร่ และการปลูกข้าวโพดยังต้องเผาหลังเก็บผลผลิตจนทำให้มีปัญหามลภาวะหมอกควันเป็นประจำทุกปีอีกด้วย ขณะเดียวกันการปลูกกัญชงยังทำให้อย่างยั่งยืนเพราะเกษตรกรจะผลิตเพื่อส่งให้บริษัทที่เป็นผู้สกัดสาร CBD และบริษัทก็ส่งต่อให้กับเอกชนที่นำไปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อไปอย่างยั่งยืน
นายแพทย์เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า เป็นที่น่ายินดีว่าพื้นที่ทั่วประเทศไทยสามารถปลูกกัญชงได้ดีโดยเฉพาะภาคเหนือที่มีคุณภาพดินดีอย่างมาก ทั้งนี้ หลังจากได้ผลผลิตในปีแรกและปลูกได้ 1,600 ไร่แล้ว ในปีที่ 2 จะเพิ่มการปลูกเป็น 30,000 ไร่ ปี่ 4 เพิ่มเป็น 40,000 ไร่ ปีที่ 4 เพิ่มเป็น 60,000 ไร่ และปีที่ 5 เพิ่มเป็น 100,000 ไร่ดังกล่าว และเมื่อยังไม่มีการอนุญาตให้นำเข้าสารสกัด CBD ทำให้ยังมีโอกาสขยายการปลูกออกไปได้อีกมากโดยเกษตรกรจะมีรายได้อย่างต่อเนื่องด้วยกรณีมีราคารับซื้อที่กิโลกรัมละประมาณ 40 บาท ก็จะมีรายได้ต่อไร่ 50,000 บาทต่อฤดูกาลเพาะปลูกอย่างแน่นอน
ด้าน ดร.เสฐียร์พงศ์ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานนี้ว่า การนำกัญชงมาพลิกฟื้นธุรกิจนั้น เพื่อเริ่มให้กัญชงสามารถเป็นพืชเศรษกิจ เพิ่มรายได้เพื่อให้เกษตรกรจะมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการที่ให้กัญชงเข้ามามีบทบาทกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงพาณิชย์ เพราะ กัญชงเป็นพืชที่มีดอกและใบที่ผ่านการวิจัยสาร CBD คือสารสกัดที่ดีต่อสุขภาพ เหมาะแก่การนำไปอุปโภคบริโภค และเมล็ดกัญชงสกัดนำไปผสมอาหาร เพื่อให้รสชาติและคุณประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มมากขึ้น
จึงมั่นใจว่าการจัดงานปลูกกัญชงต้นแรก1600 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ครั้งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานของทางบริษัท และเป็นที่รู้จักในกลุ่มเกษตรกรพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้ทราบแนวทางของการผลักดันทางด้านของภาคธุรกิจ เพื่อเตรียมรณรงค์ปลูก ผลิต สกัด และส่งออกทั้งใน และต่างประเทศ ณ ขณะนี้ มูลค่าของความต้องการกัญชง ณ ปัจจุบัน มีความต้องการ สูงถึง 6,500 ตัน/ต่อปี เชื่อมั่นปี 65 ความต้องการจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 7,500 ตัน คิดเป็นอย่างแน่นอน อีกทั้งในประเทศไทย ณ ขณะนี้ ภาครัฐ และภาคเอกชน ล้วนให้ความสนใจเพราะเป็นอีกพืชเศรษฐกิจที่ จะสามารถช่วยแก้ปัญหาเชิงเศรษฐกิจ พลิกวิกฤต เพิ่มรายได้ ให้กับเหล่าเกษตรกร ให้ได้เปลี่ยนวิถีชีวิต และได้รับรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลในด้านบวก พร้อมเป็นห่วงโซ่แก่ธุรกิจที่จะเป็นการเติบโตของกัญชงในเชิงพาณิชย์อย่างแน่นอน
การวิจัยกลุ่มพืชที่นับว่าเป็น กลุ่มพืชทองคำ และได้รับอนุญาตให้เพาะปลูกในปีนี้ ดร.เสฐียร์พงษ์ กล่าวต่อว่า ณ ตอนนี้กลุ่มพืชที่สามารถอนุญาตให้ทำการเพาะปลูกได้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โดยเกษตรกรสามารถทำการเพาะปลูกได้ มี 2 ชนิด คือ 1.กัญชง มี สาร CBD สูง และถูกต้องตามกฎหมายรับรอง 2.กระท่อม ภาครัฐให้การปลดล๊อคเมื่อเร็วๆนี้ มีสาร เมตาซานิน สามารถสกัดทำเป็นรูปแบบของเครื่องดื่มได้ ยังต้องวิจัยและศึกษาสารสกัดเพิ่มเติม
โดยในเรื่องของการนำไปสกัดเพื่อผลิตเครื่องดื่ม ณ ตอนนี้ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ ที่มีการร่วมเซนต์ MOU เพื่อขอใช้สารสกัดในการผลิตสินค้ากับทางบริษัท ไทยเฮมพ์ เวลเนส จำกัด มี คาราบาวแดง SEPPE เซ็ปเป้ และกลุ่ม รพ.ยันฮี และโรงงาน OEM ทั้งกลุ่มเครื่องสำอางและอาหารเสริม ณ ตอนนี้ ทางเราจึงเร่งผลิตสารสกัดเพื่อส่งมอบให้กับองค์กรเหล่านี้ รวมทั้งบทบาทของภาครัฐ ที่กำลังร่วม MOU ในบทบาทด้านการวิจัยและศึกษาสารสกัดของกัญชง กับทางบริษัท ไทย เฮมพ์ เวลเนส จำกัด มีมหาวิทยาลัยภาครัฐทางภาคเหนือ ให้ความสนใจกับสารสกัดกัญชงในด้านของ เคมีพฤกษศาสตร์ เป็นองค์ความรู้ และ นับเป็นการตอบรับว่า กัญชงเป็นอีก 1 พืชเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง เพราะมีสารสกัดดีและมีประโยชน์ อีกทั้งการนำไปใช้ สู่กลุ่มธุรกิจกลุ่มอุปโภค บริโภค ยาปศุสัตว์ ได้เป็นอย่างดี
ในแง่มุมของการทำวิจัยและพัฒนากัญชง บริษัท ไทย เฮมพ์ เวลเนส จำกัด มีการพัฒนาและวิจัยต่อเนื่องโดย ทางบริษัทฯ มีแปลงปลูกกัญชงเพื่อวิจัยโดยเฉพาะ จำนวน 53 ไร่ ตั้งอยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อทำการศึกษาวิจัยในด้านของ สายพันธ์ การขยายพันธ์ และ เพื่อทำการจดทะเบียนพัฒนาสายพันธ์ของกัญชง
สำหรับผู้ที่สนใจสารสกัดซีบีดี (CBD) และผลิตภัณฑ์จากกัญชง ใบสด ใบแห้ง ใบชา และสนใจร่วมปลูกกัญชง หรือพัฒนาสายพันธุ์ร่วมกับบริษัทฯ สามารถติดต่อกับทางบริษัท ไทย เฮมพ์ เวลเนส จำกัด CONTACT 0619262466 Line at : @thaihempwellness และ ttps://www.thaihempwellness.com/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี