ใครจะรู้ว่า “โคก หนอง นา โมเดล” ที่ถูกพูดถึงกันอยู่ทุกวันนี้มาจากเส้นทางโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินอ่างเก็บน้ำดอกกราย อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ตั้งแต่ 41 ปีที่แล้ว
“โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง” เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลฯ ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรบริเวณอ่างเก็บน้ำดอกกราย อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ที่มีพื้นที่ถึง 1,300 ไร่ ตั้งแต่ พ.ศ.2523 และ ทรงพระราชทานพระราชดำริว่า อ่างเก็บน้ำดอกรายสามารถส่งน้ำมายังพื้นที่เกษตรกรรมบริเวณโดยรอบได้ และ ทรงแนะนำให้จัดพื้นที่ใกล้เคียงอ่างเก็บน้ำดอกกราย เป็นศูนย์กลางอาชีพการเกษตรและศิลปาชีพพิเศษแก่ราษฎร ส่งผลให้คณะทำงานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ดำเนินงานพัฒนาพื้นที่โดยเน้นการจัดระบบส่งน้ำมายังพื้นที่เกษตรกรรมรอบอ่างเก็บน้ำดอกกราย โดยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชฯ ทรงพระราชทานเงินทุนหมุนเวียน 3 ล้านบาท และ มีผู้ขอพระราชทานน้อมเกล้าฯ ถวายคอกม้า และ คอกแกะ ในศูนย์กลางการพัฒนาแห่งนี้ด้วย
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2523 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชฯ ทรงพระราชทานแนวทางการพัฒนาโครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริไว้ 4 ประการ คือ
1. ให้พัฒนาด้านการเกษตร โดยเฉพาะด้านปศุสัตว์และการประมงเพื่อการบริโภคสำรองอาหารไว้ในยามวิกฤติ มูลสัตว์ทำเป็นเชื้อเพลิงและปุ๋ยปรับปรุงดิน
2. ให้มีศูนย์ปฏิบัติการด้านการประกอบอาชีพ โดยมีแปลงสาธิตของราษฎรตัวอย่าง และ ปลูกพืช รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ควบคู่กันไป
3. ให้จัดเป็นศูนย์กลางส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ โดยให้ราษฎรยืมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดีไปผสม หรือ เลี้ยงแล้วส่งลูกคืน หรือ ขายให้ราษฎรนำไปเลี้ยง
4. ให้มีศูนย์พัฒนาการเกษตร จะได้ศึกษาและเยี่ยมชมเพื่อนำเอาแบบอย่างการดำเนินงานและการจัดการไร่นา ทั้งที่เป็นของศูนย์พัฒนาและครอบครัวเกษตรตัวอย่าง ให้พิจารณาในการตัดสินใจในการปรับปรุงไร่นาของตนเอง
ในปี 2523 นั้น กองทัพภาคที่ 1 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ได้นำแนวทางพระราชดำรินี้ไปดำเนินโครงการ ด้วยการจัดตั้งคณะทำงานบริหารศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริจังหวัดระยอง-ชลบุรี โดยมีพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ (ขณะนั้นดำรงพระยศหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริจักรพันธ์) องคมนตรีเป็นองค์ที่ปรึกษา พลเอกปิ่น ธรรมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานคณะทำงาน มีหน้าที่กำหนดนโยบายและเป้าหมายควบคุมการวางแผนปฏิบัติงาน ติดต่อประสานงาน กำกับดูแลการปฏิบัติงานให้สนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมทั้งติดตามการวางแผนปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายตามพระราชดำริ และ ให้ประธานคณะทำงานมีอำนาจแต่งตั้งอนุกรรมการ เพื่อรับผิดชอบและดำเนินการเป็นเรื่องๆไป และ ใช้ชื่อว่า “ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริจังหวัดระยอง-ชลบุรี” นับแต่นั้นมา นอกจากนี้ ในเวลานั้น ยังมีหน่วยงาน ร.21 รอ.ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี เป็นผู้ประสานงานหลัก
ปัจจุบันโครงการนี้ ผลักดันเกษตรกรให้เดินตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการทำเกษตรพอเพียง โดยมีวิสัยทัศน์เป็น “ศูนย์กลางบริการการฝึกอาชีพแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และ แหล่งท่องเที่ยวด้านการเกษตรในพระราชดำริ จ.ระยอง ขยายผลสู่ความยั่งยืน” ประกอบด้วยเกษตรกรในพื้นที่อำเภอปลวกแดง จ.ระยอง 5 ตำบล 27 หมู่บ้าน พื้นที่ทำการเกษตร 121,029 ไร่ , เกษตรกรในพื้นที่อำเภอนิคมพัฒนา จ.ระยอง จำนวน 4 ตำบล 31 หมู่บ้าน พื้นที่ทำการเกษตร 114,435 ไร่ และ เกษตรกรในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง จำนวน 2 ตำบล 23 หมู่บ้าน พื้นที่ทำการเกษตร 102,798 ไร่
กระแสการทำ “เกษตรพอเพียง” ใน จ.ระยอง นั้นก่อตัว สั่งสมมาตลอดนับตั้งแต่ปี 2523 ผ่านการจุดประกายของโครงการพระราชดำริ ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นเป็นรูปธรรมและประสบความสำเร็จ คือ “ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติสองสลึง” ของผู้ใหญ่สมศักดิ์ เครือวัลย์ ที่ตั้งเป็น “ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ในตำบลสองสลึง อ.แกลง จ.ระยอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 บนเนื้อที่ 50 ไร่ จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน” สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ในปี 2558 และ ยังได้รับรางวัลและประกาศนียบัตรเกียรติคุณด้านการเกษตรอย่างมาก และ ต่อมาผู้ใหญ่สมศักดิ์ได้สวมหมวกสำคัญอีกหนึ่งใบ คือ การเป็น “กรรมการมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ”
แม้ว่าวันนี้ผู้ใหญ่สมศักดิ์จะละจากโลกนี้ไปแล้ว ด้วยวัย 69 ปี ด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2562 แต่ผลงานของผู้ใหญ่สมศักดิ์ ซึ่งได้เดินตามหลักปรัชญาเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง สร้างผลงานด้านเกษตรกรรมที่เป็นเสมือน “เพชรน้ำหนึ่ง” ฝากไว้ให้กับแผ่นดิน โดยผู้ใหญ่สมศักดิ์ยึดหลัก “หัวใจ” ของแศรษฐกิจพอเพียง ไว้เพียง 2 ข้อ คือ 1.ขั้นพื้นฐาน และ 2.ขั้นก้าวหน้า และ เน้นให้เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง
ที่สำคัญ วันนี้ ในปี 2564 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งก่อตัวมาตั้งแต่เมื่อ 41 ปีที่แล้ว ใน จ.ระยอง ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นโมเดลที่เข้ากับประชาชนยุคโซเชียลมีเดีย ภายใต้ชื่อ “โคก หนอง นา โมเดล” โดยเว็บไซต์ของ “สำนักงานพัฒนาชุมชน อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง” ระบุที่มาของโครงการนี้ว่า เป็นโมเดลต้นแบบที่สถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ได้น้อมนำพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้บริหารจัดการน้ำและพื้นที่ทำการเกษตร โดยมุ่งหวังสร้างจุดเปลี่ยนให้กับชุมชน ซึ่งแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน 30 : 30 : 30 : 10 กล่าวคือ 30% แรกสำหรับแหล่งน้ำ ทั้งการขุดบ่อทำหนองและการขุดคลองไส้ไก่ ที่ช่วยระบายน้ำรอบพื้นที่อีก 30 % สำหรับปลูกข้าว และ อีก 30% สำหรับไว้ทำโคกหรือป่า โดยปลูกผักไว้เป็นอาหาร ปลูกไม้ใช้สอย ปลูกยาสมุนไพร ส่วน 10% ที่เหลือ สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย และ เลี้ยงสัตว์
ปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรง “สืบสาน รักษา ต่อยอด” โครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้นำมาใช้ได้จริงกับพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อให้ประชาชนได้นำ “โคก หนอง นา โมเดล” ไปใช้แก้ปัญหาปากท้อง ในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี