ประเทศไทยนั้นได้ชื่อว่ามีถนนที่เป็นอันตรายอันดับต้นๆ ของโลก ตั้งแต่รายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2558 ที่ระบุว่า ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับ 2 ของโลก และแม้ในปี 2561 จะลดลงมาอยู่ในอันดับ 9 แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงเพราะติด 1 ใน 10 ประเทศแรก ซึ่งในแต่ละปีนั้นมีผู้สังเวยชีวิตบนถนนในไทยหลักหมื่นคน ยังไม่ต้องนับจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้พิการที่มีเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ทั้งนี้ การลดความเสี่ยงเจ็บ-ตาย-พิการบนท้องถนน “ท้องถิ่น” มีบทบาทสำคัญอย่างมากเพราะมีความเข้าใจสภาพภูมิประเทศ และเข้าถึงประชาชนสามารถสร้างความตระหนักได้ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยกตัวอย่างจากการถอดบทเรียน “ตำบลวังน้ำเขียว” พื้นที่ที่ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงจัง
ตำบลวังน้ำเขียว อยู่ในพื้นที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ที่ผ่านมาเป็นหนึ่งในพื้นที่ประสบปัญหาอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง และมีชาวบ้านในชุมชนเสียชีวิตทุกปี โดยเฉพาะที่จุดเสี่ยงบริเวณสี่แยกตำบลวังน้ำเขียว ซึ่ง ชรินทร์ ศรีศิริวัฒน์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) นครปฐม อธิบายว่า บริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเนื่องด้วยเป็นแยกหลักของชุมชน ทำให้มีรถสัญจรเป็นจำนวนมาก และมักทำผิดกฎจราจรคือไม่เดินรถไปตามเส้นทางจราจร
“มติที่ประชุมได้ลงความเห็นว่า ควรสร้างวงเวียนเพื่อกำหนดทิศทางการเดินรถให้ถูกต้องตามหลักการ เราได้ปรึกษากับทีม รพ.สต. และกำนันผู้ใหญ่บ้านว่า เราจะทำอย่างไรให้มีความปลอดภัยในชุมชนของเราจึงได้พูดคุยกันและลงความคิดเห็นว่าสร้างวงเวียนหลังจากมีการสร้างขึ้นมา เราก็พบผลลัพธ์คือสามารถลดอุบัติเหตุลงได้ ความปลอดภัยก็ดีขึ้น” สจ.ชรินทร์ กล่าว
ด้าน สุดใจ มอนไข่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) วังน้ำเขียว กล่าวว่า การขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุ เริ่มขึ้นในปี 2559 ซึ่งขณะนั้น อ.กำแพงแสน ได้งบประมาณสนับสนุนจาก สสส. จึงเริ่มจัดทำแผนที่ยุทธศาสตร์ของตำบล นำเรื่องอุบัติเหตุยกมาเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ของกองทุนโดยหลักการทำงาน คือ เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตรวจสอบ ซึ่งเมื่อได้รับการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและงบประมาณจาก สสส. ผ่านสมาคมหมออนามัย ก็ได้ทำการวิเคราะห์จุดเสี่ยง
“มีการเชิญตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เข้าร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อสะท้อนปัญหาในพื้นที่ของตนเองว่ามีจุดเสี่ยงตรงไหนบ้าง แล้วนำมาทำแผนที่จุดเสี่ยงร่วมกัน พร้อมระบุแนวทางแก้ไขเอาไว้ร่วมกัน จากนั้นนำไปเสนอ นายก อบต. ให้ช่างโยธาฯ ลงพื้นที่สำรวจอีกครั้ง เราพบว่ามี 42 จุดที่เสี่ยงอุบัติเหตุ จึงค่อยๆ ดำเนินการดูแล ปรับภูมิทัศน์ เช่น ติดป้ายสัญญาณเตือน ทาสีถนนจุดเสี่ยง จนในปีล่าสุดไม่พบอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว นับเป็นจุดเริ่มต้นของ รพ.สต. ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องอุบัติเหตุ จากที่ในอดีตเคยมองว่าเป็นงานของตำรวจ” ผอ.รพ.สต.วังน้ำเขียว ระบุ
ขณะที่ รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า ความสำเร็จของตำบลวังน้ำเขียว ถือเป็นต้นแบบ
ความสำเร็จของการทำงานด้านการลดอุบัติเหตุทางถนน ที่ สสส. เข้ามาร่วมสนับสนุนทำให้เกิดเครือข่ายแกนนำหมออนามัยรุ่นใหม่ โดยงานที่สำคัญคือเขาต้องหาต้นเหตุของปัญหาให้เจอ ปัญหาที่กระทบกับสุขภาพ
“ที่ตำบลวังน้ำเขียว พบว่า ก่อนเริ่มโครงการมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 6 ศพ ทำให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้ โดยหมออนามัยเชื่อมการทำงานกับเครือข่ายสหสาขาวิชาชีพ เชื่อมโยงกับหน่วยงานท้องถิ่น นำมาสู่แผนการออกแบบจัดการประจำปี และลงมือปฏิบัติจริงจัง” รุ่งอรุณ กล่าว
การร่วมมือร่วมใจกันของคนในชุมชนตำบลวังน้ำเขียว ส่งผลให้เป็น “ต้นแบบตำบลขับขี่ถนนปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ” ที่สำคัญประสบการณ์ต่างๆ ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุของชุมชนแห่งนี้ ได้ถูกถอดรหัสกลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญขับเคลื่อนความปลอดภัยทางท้องถนนให้กับชุมชนอื่นต่อไป!!!
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี