‘แรมโบ้’ช่วยด้วย!2ผัวเมียร้องทวงคืนที่ดินบรรพบุรุษ หลังถูกล้มต้นปาล์มกลางดึก
14 พฤศจิกายน 2564 นายภพ และนางสายใจ สกุลสวน สองสามีภรรยา อยู่ ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมด้วยครอบครัว และตัวแทนสภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีถูกยึดพื้นที่โค่นทำลายต้นปาล์มน้ำมันในที่ดินทำกินที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ นับ 100 ปี รวมเนื้อที่ 17 ไร่เศษ หลังทราบว่านายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเปิดศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้ารับเรื่องร้องเรียน สนับสนุนภารกิจนายกรัฐมนตรี ในการประชุม ครม.สัญจร 15-16 พฤศจิกายน นี้ หลังจากที่เคยยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมไว้แล้ว แต่เรื่องเงียบ
นายภพ และนางสายใจ กล่าวว่า สำหรับที่ดินแปลงนี้ เดิมเป็นที่ดินมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ทำกินมา 3 อายุคน รวมกว่า 100 ปี ก่อนจะตกทอดมาถึงตน 2 คน ครั้งแรกที่จำความได้ที่ดินแปลงนี้มีการทำนา และต่อมาปลูกปาล์มน้ำมันจนหมดอายุเก็บเกี่ยว ประมาณ 30 ปี และก็ได้โค่นทิ้งและปลูกใหม่มีอายุได้ 13 ปี ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปปักป้าย ยึดที่ดินและนำรถแบกโฮทำลายต้นปาล์ม เมื่อช่วงเดือนพฤศภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองมองว่าผิดวิสัยของเจ้าหน้าที่ที่เข้าทำลายผลอาสินของชาวบ้านในยามวิกาล แล้วยังข่มขู่ห้ามไม่ให้แสดงตัว จึงได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมให้ระงับการดำเนินการและสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้เตรียมรวบรวมหลักฐาน ยื่นฟ้องศาลปกครองต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการถือครองที่ดินของนายภพ และนางสายใจ พบว่า เดิมที่ดินเป็นของนายเฟื่อง เนื้ออ่อน เป็นตาของภรรยา ซึ่งนายเฟื่องได้ครอบครองและทำประโยซนในที่ดินดังกล่าวมาก่อนพ.ศ.2485 ซึ่งเป็นการครอบครองและทำประโยชน์มาก่อนที่จะมีประกาศของรัฐ ประกาศให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร ประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และประกาศให้เป็นเขตป่าขายเลน นายเฟื่อง ได้ทำประโยชน์ในที่ดินทำกินโดยการทำนามาอย่างต่อเนื่อง และประมาณปี 2530 จึงเปลี่ยนลักษณะการทำประโยชน์มาเป็นสวนปาล์มน้ำมัน และได้ปลูกปาล์มน้ำมันเป็นรายแรกๆในจังหวัดกระบี่
ผู้เสียหายได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อจากนายเฟื่อง และได้ชำระภาษีบำรุงท้องที่ รวมถึงได้จดทะเบียนเกษตรกร และทำกินในที่ดินตลอดมา จนถึงปัจจุบัน และไม่มีสภาพเป็นป่า นอกจากนี้ที่ดินติดกันล้อมที่ดินของผู้เสียหายมีที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง มีถนน และไฟฟ้า มีทะเบียนบ้าน เป็นชุมชนมีราษฎรอยู่อาศัยหลายครัวเรือนและทำกินกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เบื้องต้นทางผู้ช่วยรัฐมนตรีมนตรีประจำสำนักนายกฯได้รับเรื่องไว้ และสั่งการให้ทางจังหวัดกระบี่ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับ 2 สามีภรรยา ต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี