วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ย่ำถิ่นชายแดนใต้ส่องไร่‘กาแฟ’ ปั้นสู่พืชเศรษฐกิจ-พลิกวิกฤตสร้างรายได้

ย่ำถิ่นชายแดนใต้ส่องไร่‘กาแฟ’ ปั้นสู่พืชเศรษฐกิจ-พลิกวิกฤตสร้างรายได้

วันอังคาร ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 21.32 น.
Tag : กาแฟใต้ นราธิวาส ยะลา กาแฟ ชายแดนใต้ ไร่กาแฟ
  •  

ย่ำถิ่นชายแดนใต้ส่องไร่‘กาแฟ’ ปั้นสู่พืชเศรษฐกิจ-พลิกวิกฤตสร้างรายได้

 “กาแฟ”


ถือเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นิยมปลูกกันมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้ส่งเสริมอาชีพการปลูกกาแฟให้กับเกษตรกรในพื้นที่เป็นอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟกว่า 2,160 ไร่ นิยมปลูกในสวนที่ผสมผสานกับพืชชนิดอื่น ตามพื้นที่ว่าง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อำเภอเบตง อำเภอธารโต จังหวัดยะลา

ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ และฝ่ายธุรกิจคาเฟ่อเมซอน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) บูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาการปลูก และการผลิตกาแฟโรบัสต้าให้ครอบคลุมอย่างครบวงจร สามารถสร้างอัตลักษณ์กาแฟโรบัสต้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีตลาดรองรับที่แน่นอนและมั่นคง ภายใต้ระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามแนวทางพระราชดำริฯ

สำหรับในการดำเนินการนั้น ศอ.บต. ได้จัดเก็บข้อมูลของเกษตรกรที่สนใจและมีพื้นที่ ปลูกกาแฟที่เหมาะสม จำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ พื้นที่อำเภอเบตง และอำเภอธารโต จังหวัดยะลา อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส รวมถึงจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร ผ่านหลักสูตร “จัดการกาแฟ โรบัสต้า” โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก Amazon เกษตรกรต้นแบบในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกร เพื่อให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ อีกทั้งยังได้คัดเลือกสายพันธุ์กาแฟโรบัสต้า พันธุ์พื้นเมืองที่เหมาะสมกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำรวจผลผลิตที่มี “ผลดก ก้านยาว ข้อถี่ เมล็ดใหญ่ เปลือกบาง” แต่ละข้อมีผลสุกพร้อมกัน และดำเนินการนำร่อง 1 พื้นที่กาแฟ 1 จุดเรียนรู้ เพื่อขยายผลสู่พื้นที่อื่น

นายชัชนนท์ เต็มนา นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรยะลา เปิดเผยว่า การปลูกกาแฟในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สายพันธ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด คือ สายพันธ์ชุมพร 2 เนื่องจากสามารถปลูกร่วมกับสายพันธ์พื้นเมืองได้ เพราะจะทำให้ มีการเจริญเติบโตที่ดีกว่าพันธุ์อื่นๆ รวมถึงเป็นสายพันธ์ที่ต้านทานต่อโรค สามารถปรับตัว ให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศของพื้นที่ได้ อีกทั้งยังปลูกในพื้นที่ราบ หรือพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 700 เมตร แต่เกษตรกรจะต้องเพิ่มขั้นตอนในการดูแลรักษามากกว่าพืชชนิดอื่น นอกจากนี้ทางกรมวิชาการเกษตรพืชสวนธารโต จังหวัดยะลา ยังได้ส่งตัวอย่างของกาแฟโรบัสต้า ไปทดลอง พบว่า กาแฟโรบัสต้าในพื้นที่มีรสชาติของบราวชูก้า ซึ่งจะมีความหอมหวานในตัว เป็นจุดเด่น ทำให้กาแฟมีความแตกต่าง และมีรสชาติเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของพื้นที่อีกด้วย

ด้านนางซารีฮะ สามาวี มูหัมมัดลุตฟี สะมาวี อยู่หมู่ 5 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส  หนึ่งในเกษตรกรที่ปลูกกาแฟ ในพื้นที่อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการปลูกกาแฟในครั้งนี้ ว่า ที่ผ่านมาตนได้ปลูกผลไม้ชนิดอื่น แต่เนื่องจากมีผลผลิตไม่ดี ประกอบกับราคาผลไม้ตกต่ำ จึงลองหันมาปลูกกาแฟ ศึกษาวิธีการปลูก ขั้นตอนต่างๆ รวมถึงมีวิทยากรมาให้ความรู้ในเรื่องของดูแลต้นกาแฟ สอนวิธีการตัดแต่งกิ่งกาแฟ การขยายพันธุ์ เพื่อให้ได้กาแฟที่มีผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ จากการเรียนรู้ พบว่าในปีแรกกาแฟมีผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ จนต่อมาได้ขยายพื้นที่ปลูกผสมผสานกับผลไม้ชนิดอื่น ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี กาแฟมีผลผลิตออกเป็นจำนวนมาก

“ตนจึงนำไปแปรรูปสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่าย เป็นของตนเอง โดยใช้ชื่อว่า “สามาวี คอฟฟี่” จำหน่ายในกิโลกรัมละ 500 บาท นอกจากนี้ตนยังได้เตรียมขยายพื้นที่สวน เพื่อปลูกกาแฟอีก 2 แปลง ซึ่งเชื่อว่ากาแฟจะเป็นผลผลิตทางการเกษตรอีกชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรในพื้นที่เป็นจำนวนมากได้ในอนาคต”

อย่างไรก็ตามเป้าหมายหลักที่สำคัญของศอ.บต. เพื่อต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบูรณาการขับเคลื่อนร่วมกับทุกภาคส่วน ส่งเสริมและผลักดัน ให้เกษตรกรหันมาปลูกกาแฟ ซึ่งถือเป็นพืชอัตลักษณ์ชนิดใหม่ในพื้นที่ที่อนาคตจะสร้างงาน สร้างรายได้ ให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

-005

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'มังคุด\'ในสายหมอก อร่อยปลอดสารพิษ ชาวสวนยะลาเตรียมยื่นขอเป็นพืชGIชนิดใหม่ 'มังคุด'ในสายหมอก อร่อยปลอดสารพิษ ชาวสวนยะลาเตรียมยื่นขอเป็นพืชGIชนิดใหม่
  • \'ไก่สับเบตง\' เมนูแสนอร่อยขึ้นชื่อ ใต้สุดแดนสยามแห่งจังหวัดยะลา 'ไก่สับเบตง' เมนูแสนอร่อยขึ้นชื่อ ใต้สุดแดนสยามแห่งจังหวัดยะลา
  • แม่สุดอาลัยกอดภาพถ่ายลูกชาย เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ชายแดนภาคใต้ แม่สุดอาลัยกอดภาพถ่ายลูกชาย เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ชายแดนภาคใต้
  • กลุ่มรถ6ล้อสายบุญ! ขน\'ทราย-ดิน-ปรับหน้าดิน\'ให้มัสยิดชายแดนใต้ฟรี กลุ่มรถ6ล้อสายบุญ! ขน'ทราย-ดิน-ปรับหน้าดิน'ให้มัสยิดชายแดนใต้ฟรี
  •  

Breaking News

สกู๊ปแนวหน้า : ‘เรื่องใหม่-เข้าใจยาก’พางง มองไทยยุคแรกเริ่มใช้‘PDPA’

‘วิว’ ติดไวรัสโควิดต้องถอนตัวแบดมินตันเสือเหลือง

รปภ.ช้ำรักเห็น'กิ๊ก'อยู่กับ'ผัว' ซดเบียร์ย้อมใจ พอเมาขับรถป่วนชาวบ้าน

สุดช็อก! สจ.ชื่อดัง 2 สมัยน่าน เจอกระบะเลี้ยวตัดหน้าชนสนั่นดับอนาถ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved