หิ้วถังปูนขาว-ย่ำโคลนทราย จับจองริมหาดแห่‘ยอนหอยหลอด’ วิถีคนสตูล
19 มกราคม 2565 ที่หาดหน้าบ้านหัวหิน หมู่ 1 ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล ชาวบ้านกว่า 200 คน มุ่งหน้าหิ้วถังปูนขาว และก้านมะพร้าว ออกล่าหอยหลอด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ยอนหอยหลอด” กันเต็มหาด
ทันทีที่ฟ้ายังไม่สาง ชาวบ้านหัวหิน ตำบลละงู บ้างก็นั่งเรือออกไปก่อนน้ำทะเลจะลดตั้งแต่เวลา 02.00 น. บ้างก็เดินเท้าย่ำโคลนทรายไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร ในช่วงเวลา 05.00 น.ที่น้ำลด เพื่อจับจองพื้นที่ยอนหอยหลอด
สำหรับฤดูการหาหอยหลอดของชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้จะออกหาหอยหลอด เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงลมมรสุมตะวันออกที่พัดน้ำทะเลลดลงทำให้การหาหอยได้ง่ายๆขึ้น
ขณะที่วิธีการหาหอยของคนที่นี่ ยังคงเป็นการหาแบบอนุรักษ์หาตามวิถีคนพื้นถิ่น คือ ใช้ก้านมะพร้าวจิ้มปูนกินหมากเพื่อแย่ลงไปในรู ที่คิดว่ามีตัวหอย จนตัวหอยเด้งขึ้นมาและรีบใช้มือจับไว้ เพราะมิฉะนั้นหอยหลอดจะดันตัวกลับเข้าไปในรูดังเดิม
นางสาวฐิติรัตน์ ใจดี อายุ 33 ปี ชาวบ้านหัวหิน กล่าวว่า ตนมาหาหอยในยามว่างในช่วงที่อ่านหนังสือเตรียมสอบเพื่อรองาน ไว้เป็นกับข้าวในครอบครัว หากเหลือจากกินก็คิดว่าจะนำไปขาย ในยามเศรษฐกิจแบบนี้การออกมาหาหอยก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้หลายอย่าง ได้ทานอาหารทะเลสดๆ และยังสามารถเป็นรายได้เสริม
ส่วนนางจำปี บุญเพิ่ม อายุ 61 ปี ชาวบ้านหัวหิน หนึ่งในผู้ยอนหอยหลอดที่มีความเชี่ยวชาญ บอกว่า ออกมายอนหอยมากกว่า 20 ปีแล้ว เคยได้หอยมากสุด 4-5 กิโลกรัมในเวลาเพียง 2 ชั่วโม หลังเหลือจากกับข้าวก็จะนำไปขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อในราคากิโลกรัมละ 150 บาทถึง 200 บาท แล้วแต่ขนาดของตัวหอยก็เป็นอีกหนึ่งรายได้ให้กับตนเองและผู้สูงอายุหลายคนในหมู่บ้านได้มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว
“หอยหลอด” ในหาดแห่งนี้ จริงๆแล้วสามารถหาได้ตลอดทั้งปี แต่ด้วยธรรมชาติของน้ำทะเลที่ไม่ลดลง ทำให้เป็นข้อจำกัดไม่สามารถลงไปหาได้ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการอนุรักษ์โดยธรรมชาติ เป็นตัวกำหนดทำให้หอยหลอดบริเวณนี้มีตัวใหญ่สุดขนาด 10-17 ตัว 1 กิโลกรัม และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรในท้องทะเลแห่งนี้ยังมีปูปลาและอาหารทะเลมากมายให้รับประทาน
องค์การบริหารส่วนตำบลละงู ทุกปีได้จัดเทศกาลยอนหอยหลอด แต่ปีนี้ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 มีการปรับเปลี่ยนกิจกรรมมาเป็น การแข่งขันหายอนหอยหลอดในหมู่บ้านแทน โดยจะให้รางวัลกับชาวบ้านที่หาได้น้ำหนักเยอะ และขนาดตัวใหญ่ โดยเน้นการอนุรักษ์ไม่เก็บเอาตัวหอยหลอดตัวเล็กมา จะได้เงินรางวัลรางวัลที่ 1 (2,500 บาท) รางวัลที่ 2 (1,500 บาท) รางวัลที่3 (1,000 บาท) โดยวันนี้นายกอเฉ็ม เร่สัน ได้น้ำหนักเยอะสุด คือ 10.5 กิโลกรัม รางวัลที่ 2 นางวิไล โต๊ะหมาด ได้ 9.5 กิโลกรัม และรางวัลที่ 3 นางสะนี วังสุปิเยาะ ได้ 8.2 กิโลกรัม
นอกจากนี้นายจำรัส ฮ่องสาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละงู ยังได้ส่งเสริม ให้ชาวบ้านหาหอยหลอดแบบอนุรักษ์โดยไม่เก็บหอยที่มีขนาดเล็ก เพื่อให้ขยายพันธุ์ พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน โดยมีชาวบ้านเป็นไกด์ในการนำเที่ยวทดลองการหาหอย การตกปลา และหาปู โดยจะได้สัตว์น้ำเหล่านี้กลับไปเป็นของฝากด้วย นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลละงู
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี