21 มกราคม 2565 เมื่อเวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง ที่บ้านเลขที่ 2 บ้านหนองสอ หมู่ 7 ต.หนองสอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการจัดงานมงคลสมรสของคู่บ่าวสาววัย 5 ขวบขึ้น ถือเป็นการแต่งงานที่แปลกประหลาด ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่ โดยเฉพาะคู่บ่าวสาวนั้นเป็นพี่น้องชายหญิงฝาแฝด มีขั้นตอนการแต่งงานที่ปฏิบัติตามประเพณี เหมือนชาวบ้านทั่วไป ซึ่งได้สร้างความสนใจให้กับชาวบ้านและเด็กๆในวัยเดียวกัน สังเกตจากการเข้าร่วมขบวนแห่ขันหมาก และแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้การจัดงานเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด มีการตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ติดตามบรรยากาศ
โดยสีสันเริ่มที่ขบวนแห่ขันหมากของเจ้าบ่าว ซึ่งมีญาติผู้ใหญ่ พ่อ ญาติๆ เพื่อนร่วมรุ่น ถือสินสอด ธนบัตร แบงค์กาโม ต้นกล้วย ต้นอ้อย ซึ่งเจ้าบ่าวคือน้องภูผา หรือเด็กชายภูมิภัทร อิ่มประเสริฐ วัย 5 ขวบ แต่งกายด้วยชุดผู้ไทสุดหล่อ กับเพื่อนเจ้าบ่าวเดินนำขบวน โดยมีญาติผู้ใหญ่สูงวัยโห่ขันหมากนำขบวน และมีญาติตั้งขบวนฟ้อนรำด้วยความสนุกสนาน
ทั้งนี้ พอขบวนขันหมากเคลื่อนมาถึงบ้านเจ้าสาว มีญาติของฝ่ายเจ้าสาวล้างเท้าให้เจ้าบ่าว จากนั้นก่อนที่เจ้าบ่าวจะเข้าไปทำพิธีสู่ขวัญบายศรีกับเจ้าสาว ก็จะต้องผ่านประตูเงินประตูเงินประตูทอง ซึ่งเจ้าบ่าวจะต้องจ่ายค่าผ่านประตูตามธรรมเนียม ในขั้นตอนนี้เจ้าบ่าวอาจจะงงๆอยู่บ้าง ว่าต้องจ่ายเงินค่าอะไร เนื่องจากยังอยู่ในวัยเด็กและไม่เคยมีประสบการณ์ร่วมงานแต่งงานมาก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อน้องภูผา เจ้าบ่าววัย 5 ขวบ และเพื่อนเจ้าบ่าวเข้าไปบ้านและนั่งลงตรงหน้าขันหมากเบ็ง หรือพานบายศรีสู่ขวัญที่ทางฝ่ายเจ้าสาวเตรียมไว้แล้ว ทางญาติฝ่ายเจ้าสาวก็ได้แจ้งให้ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวนำสินสอดทองหมั้น ที่ตกลงกั้นไว้แล้วออกมานับ
โดยเป็นเงินค่าสินสอด จำนวน 3 ล้าน 9 บาท ซึ่งธนบัตรจริงจำนวนหนึ่งและแบงค์กาโม นอกจากนี้ยังมีสร้อยทองคำ แหวนทอง น้ำหนักรวม 19 บาท หลังจากนับสินสอดครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้ และมีของขวัญคู่บ่าวสาวเป็นตุ๊กตาบาบี้และรถของเล่นแม็คโคร ซึ่งทางฝ่ายเจ้าสาวจึงได้จูงมือเจ้าสาว คือน้องแพรไหม หรือเด็กหญิงภัทรลดา อิ่มประเสริฐ วัย 5 ขวบ ซึ่งแต่งกายด้วยชุดสาวผู้ไทแสนสวย และเพื่อนเจ้าสาว มานั่งข้างเจ้าบ่าว เพื่อร่วมพิธีสู่ขวัญบายศรีตามประเพณี โดยมีพ่อพราหมณ์ประกอบพิธีอย่างสมจริง
นางกัญญาภัค เกี่ยวพันงาม อายุ 32 ปี มารดาเจ้าบ่าวเจ้าสาว กล่าวว่า การจัดงานแต่งงานให้กับลูกสาวลูกชายฝาแฝดในวันนี้ เนื่องจากเมื่อคืนของวันที่ 25 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ตนฝันร้าย โดยฝันเห็นคนแก่ผู้หญิงขี่เครื่องบินมา บอกว่าจะมาเอาลูกสาวลูกชายฝาแฝดของตนไปอยู่ด้วย ซึ่งในฝันนั้นตนรู้สึกตกใจมาก และได้โต้ตอบกลับไปว่าไม่ยอมยกลูกให้อย่างแน่นอน โดยภาพในฝันคืนนั้นมีการพูดจาโต้ตอบกันหลายประโยค ซึ่งฝ่ายผู้หญิงคนนั้นยืนยันที่จะเอาฝาแฝดของตนไปให้ได้ ในที่สุดตนก็ตกใจตื่นและเล่าความฝันให้สามีฟัง ทั้งนี้ ถือว่าเป็นฝ้ายร้ายและไม่เคยฝันในลักษณะนี้มาก่อน
ด้านนายพงษ์เทพ อิ่มประเสริฐ อายุ 33 ปี สามีนางกัญญาภัค บิดาเจ้าบ่าวเจ้า กล่าวว่า หลังจากได้ฟังภรรยาเล่าความฝันให้ฟัง ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน จึงตกลงกันว่าจะนำความฝันนี้ไปบอกเล่าให้คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านฟัง เพื่อจะได้หาวิธีการแก้เคล็ด เพื่อจะได้สบายใจ ทั้งนี้ เมื่อ 6 ปีก่อน ก่อนที่น้องภูผาและน้องแพรไหมจะมาเกิดเป็นลูกฝาแฝดชายหญิงนั้น นางกัญญาภัทภรรยา ก็เคยฝันเห็นผู้หญิงสูงอายุเอาของมาฝาก พอฝันเห็นผู้หญิงสูงอายุจะมาเอาลูกไปอยู่ด้วย ก็เป็นเหตุให้ใจคอไม่ดี จึงได้ปรึกษาผู้สูงอายุในชุมชน และได้รับคำแนะนำให้จัดพิธีแต่งงานให้ลูกสาวลูกชายดังกล่าว เพื่อแก้เคล็ดและรับโชค นอกจากนี้ยังเกิดความเป็นสิริมงคลต่อทุกกคนในครอบครัว หวังให้อายุมั่นขวัญยืน เรียนเก่ง เป็นที่พึ่งของพ่อแม่ในอนาคต
ขณะที่นางพนมวรรณ์ ศรีคิรินทร์ ผู้อำนวยการ รพ.สต.หนองสอ ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวว่า เกี่ยวกับการกำเนิดของเด็กฝาแฝดชายหญิง หลายตำราซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อของตนเฒ่าคนแก่ คือชาติปางก่อนหรือในอดีตอาจจะเป็นหนุ่มสาวที่มีความรักมั่นต่อกัน แต่กลับไม่ประสบความสมหวังในรัก อาจจะมีอุปสรรคถูกกีดกันหรือต่างคนต่างไปมีคู่รักใหม่ แต่อาจจะเคยอธิษฐานรักและมีสัญญาใจต่อกัน ที่จะเป็นคู่รักกันในภพหน้า กลับมีวาสนาได้พบกันแค่ความเป็นพี่น้อง และมีวาสนาได้มาเกิดเป็นฝาแฝดหญิงชาย
ทั้งนี้ ครอบครัวใดที่กำเนิดลูกฝาแฝดชายหญิงดังกล่าว ก็จะแก้เคล็ดโดยจัดพิธีแต่งงาน มีการจำลองขั้นตอนเหมือนจริงเกือบทุกประการ โดยในพิธีแต่งงานของน้องภูผาและน้องแพรไหมในวันนี้ ที่บอกว่ามีสาเหตุจากฝันร้ายก็ทำนองเดียวกัน เมื่อทำพิธีแต่งงานดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นการแก้เคล็ดและรับโชคตามความเชื่อ
อย่างไรก็ตาม สำหรับค่าสินสอดทองหมั้น 3 ล้าน 9 บาท และทองหนัก 19 นั้น เป็นธนบัตรจริงและทองคำจริงจำนวนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นแบงค์กาโมและทองคำเทียม นับรวมกันแล้วได้ตามจำนวนที่ฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวตกลงกัน โดยได้เงินผูกแขนเจ้าบ่าวเจ้าสาว ซึ่งเป็นธนบัตรจริงและแบงค์กาโมจำนวน 2 แสน 9 หมื่นบาท ซึ่งทางญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ก็จะได้มอบให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นทุนตั้งต้นชีวิตคู่ เหมือนการแต่งงานจริงต่อไป. 012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี