พนักงานสาวร้านอาหารบุรีรัมย์ผวาไปใช้บริการซักผ้าอัตโนมัติกับแฟนเจอชายสติไม่ดีมาขอเงิน พอบอกไม่มีเงินติดตัวทำทีไม่พอใจเดินตามไปตบขณะขับ จยย.ออกจากร้าน จนหน้าผากเป็นแผล โร่แจ้งตำรวจกลับบอกเป็นคนวิกลจริตเอาผิดไม่ได้ ชี้ถือเป็นภัยสังคมควรมีหน่วยงานนำไปบำบัดรักษา ก่อนจะคนถูกทำร้ายเจ็บหรือตายฟรี
วันที่ 25 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เตือนภัยโดยระบุข้อความว่า "แจ้งเตือน...พอดีไปซักผ้าในซอย มณีวรรณหลังทวีกิจเก่า เหมือนคนสติไม่ดีมาขอเงิน เราปฏิเสธแล้วเดินหนี แล้วเขาเดินตาม พอเราขึ้นรถเสร็จเขาก็ตบมาที่เรากะแฟนไม่รู้ใช้อะไรตบ ตอนนี้กำลังแจ้งความ เตือน!!! ทุกคนระวังด้วยนะค่ะ..น่ากลัวมากๆ" พร้อมลงรูปที่บริเวณหน้าผากมีแผล และรูปของชายสติไม่ในลักษณะเหมือนกับยืนยกมือไหว้ขอเงินใครบางคน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย น.ส.เจนจิรา เจนวิถี หรือปลา อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นพนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.วันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนกับแฟนซึ่งเป็นทอมได้ไปใช้บริการซักผ้าอัตโนมัติที่ร้านด้านหลังทวีกิจเก่า ช่วงจังหวะที่รอเสื้อผ้าในเครื่อง จู่ๆ ได้มีผู้ชายซึ่งน่าจะสติไม่ดีเดินมาขอเงินตนกับแฟน โดยพูดว่า "ขอเงินหน่อยวัยรุ่น" ตนก็ตอบไปว่าไม่มีหรอกค่ะพี่ เพราะไม่ได้พกเงินติดตัวไปด้วย ซักผ้าก็ใช้วิธีสแกนจ่าย แล้วผู้ชายคนดังกล่าวก็พูดว่า "เฮ้ยวัยรุ่น" แล้วใช้มือล้วงกระเป๋าตัวเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ตนก็เลยพูดกันแฟนว่าเราไปเถอะแล้วก็เดินหันหลัง ตอนนั้นก็นึกในใจว่าเขาคงไม่ทำอะไรหรอกเพราะตนเป็นผู้หญิง
ช่วงที่ตนกับแฟนเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ชายคนดังกล่าวก็ยังเดินตามและพยายามดึงแขนแฟนตนเอง แฟนก็เลยบอกว่าพี่อย่าทำแบบนี้เดี๋ยวแจ้งความน่ะ ชายคนดังกล่าวจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจว่าแจ้งเลย โดยจังหวะที่แฟนนั่งคร่อมบนรถจักรยานยนต์ส่วนตนซ้อนด้านหลังเพื่อจะขับหนีชายคนดังกล่าว เพราะไม่อยากจะมีเรื่องก็รู้ว่าเป็นคนสติไม่ดี แต่ชายคนดังกล่าวกลับใช้มือตบตนกับแฟน ตนจึงรีบบอกให้แฟนขับรถออกไป พอมารู้อีกทีตอนหลังว่าที่บริเวณหน้าผากตัวเองมีแผล คาดว่าน่าจะโดนเล็บหรือแหวนของชายคนดังกล่าว
ผ่านไปสักพักก็ขับรถวนกลับมาเพื่อจะมาเอาเสื้อผ้าที่ปั่นอยู่ที่ร้านก็ยังเจอผู้ชายคนดังกล่าวเดินขอเงินคนแถวนั้นไปเรื่อย แต่ตนก็ไม่กล้าที่จะไปบอกใครกลัวจะเขาจะมาทำร้ายอีก หลังจากนั้นจึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถ้าเป็นคนวิกลจริตก็คงเอาผิดอะไรไม่ได้ แต่ถ้าจะเอาผิดก็ต้องพาเขาไปรักษาพอหายแล้วถึงจะเอาผิดเขาได้
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกไม่ปลอดภัย และตนมองว่า ชายคนดังกล่าวเป็นภัยต่อสังคม จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พาชายเร่รอนคนดังกล่าวไปบำบัดรักษา เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้อาจจะไปทำร้ายใครจนเจ็บตัวหรือตายฟรีก็เป็นได้ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี