คุณยายวัย 62 ปีชาวบุรีรัมย์ต้องพบกับประสบการณ์สุดช้ำเมื่อแก๊งมิจฉาชีพทำทีเข้ามาขอซื้อหมูที่เลี้ยงไว้ ตกลงราคากันเรียบร้อย แต่กลับใช้ตาชั่งปลอมโกงน้ำหนักไปเกือบครึ่งตัน พยายามวิ่งไล่ตามรถคนร้ายที่บึ่งหนีไปต่อหน้าต่อตา ด้าน ตร.เผยราบเบาะแสแก๊งนี้แล้ว เตรียมเรียกตัวมาสอบสวน

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 เพจ "ศูนย์แจ้งข่าวบุรีรัมย์" ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพโกงตาชั่งหมูออกอาละวาดในพื้นที่บ้านโคกระกา ตำบลสองห้อง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้ก่อเหตุกับคุณยายคนหนึ่งที่เลี้ยงหมูไว้ และขอให้ชาวเน็ตช่วยแจ้งเบาะแสคนร้าย

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและพบกับนางยุพี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ผู้เสียหาย อาศัยอยู่บ้านหมู่ 7 ตำบลสองห้อง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ คุณยายได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านมาเป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นภาพรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า แบบแคป สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับมาจอดหน้าบ้าน

นางยุพี เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.24 น. ของวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา รถกระบะคันดังกล่าวได้นำอุปกรณ์คอกหมูและตาชั่งเคลื่อนที่มาจอด เพื่อจะซื้อหมูที่ตนโพสต์ขายทางออนไลน์ โดยตกลงราคาที่กิโลกรัมละ 70 บาท และจะจ่ายเงินสดกันที่คอกหมูซึ่งห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตร

เมื่อไปถึงคอกหมู มีชายฉกรรจ์ 5 คน ช่วยกันต้อนหมู 9 ตัว เข้ากรงเหล็กที่เตรียมมา จากนั้นกลุ่มชายได้ยกกรงพร้อมหมูมาชั่งทีละตัว รวมน้ำหนักได้ 867 กิโลกรัม แต่เมื่อหักน้ำหนักกรงออกไป 297 กิโลกรัม กลับเหลือน้ำหนักหมูเพียง 570 กิโลกรัมเท่านั้น

คุณยายยุพี เริ่มรู้สึกผิดปกติและไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากหมูที่เลี้ยงไว้แต่ละตัวมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม ทำให้หมูทั้ง 9 ตัว ควรจะมีน้ำหนักรวมกันมากกว่า 900 กิโลกรัม คุณยายจึงบอกว่า "ถ้าแบบนี้ยายไม่ขาย" แต่กลุ่มชายดังกล่าวก็ยังยืนยันว่าชั่งได้เท่านี้

หลังจากนั้น หนึ่งในชายกลุ่มนั้นได้บอกว่าจะขอเอาน้ำสาดหมูก่อน คุณยายจึงบอกให้เลื่อนรถไปจอดใกล้ก๊อกน้ำ ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็บึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว คุณยายวิ่งไล่ตามรถไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร เพื่อขอความช่วยเหลือ โชคดีที่ไปพบพลเมืองดีจอดรถอยู่ จึงได้เล่าเรื่องและขอให้ช่วยแจ้งตำรวจให้สกัดจับ แต่ก็ไม่ทันการณ์

คุณยายยุพีเล่าต่อด้วยความเสียใจว่า เมื่อย้อนกลับมาที่คอกหมู ก็พบเงินสดจำนวน 40,000 บาท วางอยู่บนตาชั่งของตน ซึ่งจากน้ำหนักหมูที่ควรจะเป็น คุณยายควรจะได้รับเงินประมาณ 70,000 บาท คุณยายรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ถูกกระทำเช่นนี้ เพราะตั้งใจเลี้ยงหมูเป็นอาชีพเสริม โดยหมูกว่า 50 ตัวที่เลี้ยงอยู่ ต้องมีค่าอาหารเกือบแสนบาทต่อเดือน

ด้าน นายทอง อัมพรรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านโคกระกาน้อย กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่อง ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชาวบ้านให้ระมัดระวังกลุ่มคนแปลกหน้า หากมีผู้มาติดต่อซื้อสัตว์หรือสินค้าภายในหมู่บ้าน ควรแจ้งผู้นำชุมชนทราบทันที และกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ต่อไป

ล่าสุด พ.ต.อ.สยาม เกียรติบรรจง ผกก.สภ.หนองสองห้อง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อหัวหน้าแก๊งแล้วเป็นชาวบ้านดอนตะแบก อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา และกำลังเตรียมเรียกตัวมาพบพนักงานสอบสวน

สำหรับการที่กลุ่มมิจฉาชีพทิ้งเงินไว้ คาดว่าน่าจะเป็นแผนเพื่อป้องกันการถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ หากถูกจับกุมก็จะสามารถอ้างได้ว่าเป็นการซื้อขายและหากมีการชดใช้เงินที่ค้าง ก็จะจบเรื่องไปได้ง่ายขึ้น ตำรวจคาดว่าแก๊งนี้น่าจะทำเป็นขบวนการและก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วในหลายพื้นที่ - 001