สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สนับสนุนการประชุมวิชาการ เหลียวหลัง-แลหน้า งานวิจัยมุ่งเป้า “การพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร จากล่างสู่บน ปีที่ 2” ให้แก่ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อนำเสนอสรุปผลการดำเนินการของโครงการวิจัยภายใต้แผนการทำกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัย การบริหารจัดการแผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคมแผนงานระบบบริการสุขภาพ : การพัฒนาระบบบริการเพื่อการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร เป็นปีที่ 2
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในรูปแบบ Hybrid เมื่อวันที่ 31 มีนาคม-1 เมษายน 2565 ที่สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) เป็นประธานเปิดการประชุม และ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปราศรัยพิเศษ “บทบาทของ อว. กับการวิจัยและพัฒนาด้านระบบบริการสุขภาพ”
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า อว. ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนากำลังคนในทุกๆ มิติทั้งในด้านการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูงบุคลากรทางด้านสาธารณสุขเพื่อทำการวิจัยในระดับพื้นที่และระดับประเทศ รวมถึงการสร้างนวัตกรรมที่ส่งเสริมระบบการบริการสุขภาพให้มีประสิทธิภาพในส่วนที่เกี่ยวกับระบบการบริการสุขภาพ “การวิจัยพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านการดูแลภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร” เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ โดยหวังว่าการพัฒนาระบบบริการเพื่อการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์ในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบการบริการสาธารณสุข
ทั้งนี้ วช. ได้มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจรจากล่างสู่บนปีที่ 2 อย่างต่อเนื่องและครบวงจร ร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่สามารถขับเคลื่อนนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ภายใต้หน่วยงานการบริหารจัดการทุนวิจัยการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยใช้องค์ความรู้เพื่อพัฒนาและต่อยอดลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนและลดความสูญเสีย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานการวิจัย “Spearhead” จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมส่งผลการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อประเทศชาติต่อไป
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีบทบาทสำคัญในการให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยหลักของประเทศ และเป็นหน่วยงานกลางที่ประสานเชื่อมโยงทุกภาคส่วนบนฐานงานวิจัยให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งงานวิจัยมีความสำคัญกับการพัฒนาในทุกมิติงานวิจัยที่ดีจะสามารถช่วยให้การพัฒนาบรรลุเป้าหมายได้ดีขึ้นมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกิดความรู้ใหม่ และแนวทางใหม่
โดย วช. มีกลไกในการส่งเสริม สนับสนุนทุนวิจัย และนวัตกรรม ในรูปแบบต่างๆ ครอบคลุมทุกด้าน ทุกสาขาวิชาการ เพื่อการพัฒนาและแก้ปัญหาระดับชาติ จากการดำเนินงานของแผนงาน Spearhead “การพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร จากล่างสู่บนปีที่ 2” เป็นรูปแบบใหม่ของการสนับสนุนการพัฒนางานวิจัยระบบบริการสุขภาพ : การพัฒนาระบบบริการเพื่อการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร การทำงานเพื่อให้เกิดระบบบริการสำคัญ เป็นเป้าหมายหนึ่งทางยุทธศาสตร์แผนทางด้านสังคมที่ทาง วช. ได้ให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาอย่างต่อเนื่อง วันนี้จะเห็นภาพของการทำงานที่มีระบบมาตรฐานที่เกิดขึ้นได้จริงในเรื่องของระบบบริการสุขภาพโดยเฉพาะในเรื่องภาวะฉุกเฉิน
สิ่งที่มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตัวแผนงานดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ทางด้านสาธารณสุข โดยใช้ในเรื่องของการทำงานด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเข้าไปผสมผสานได้อย่างสอดคล้องและสามารถทำให้เกิดผลการปฏิบัติจริง เราอาจจะคุ้นเคยการทำงานในเรื่องของตัวแผนงานโครงการที่ผ่านทางด้านวิชาการหรือด้านการแพทย์แต่อันนี้จะเห็นภาพของ Action Research ที่เห็นภาพทางปฏิบัติที่ตัวบุคลากรทางการแพทย์ทั้งท่านคณาจารย์ทั้งแพทย์ และบุคคลของสาธารณสุขเข้ามาร่วมในการทำงานโดยใช้มิติของความเชี่ยวชาญตามความหลากหลาย
“นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของระบบสารสนเทศเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ในการที่จะประยุกต์ให้เกิดระบบการทำงานให้มีการเชื่อมโยงตรงนี้ ถือว่าเป็นผลสำเร็จพื้นที่ต้นแบบในพื้นที่ภาคเหนือ ที่เชียงใหม่ก็สามารถเดินหน้าได้กับพื้นที่จังหวัดโดยรอบในช่วงปีแรก แต่พอเข้าปีที่ 2 เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจมากเพราะจะทำให้เห็นภาพของการทำงานที่ไม่เฉพาะในเรื่องของพื้นที่ภาคเหนืออีกต่อไป เราเห็นภาพของประเทศที่ใหญ่ขึ้นข้ามไปสู่ภาคใต้ ข้ามไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในอนาคตมองถึงระบบของประเทศที่จะสามารถใช้ฐานจากความรู้ความสามารถจากตัวผลสำเร็จของงานในแผนงานการยุทธศาสตร์เป้าหมาย Spearhead สังคมในระบบบริการสุขภาพในภาวะฉุกเฉินนี้เกิดขึ้น วช.อยากจะให้การสนับสนุนในส่วนของงานตรงนี้อย่างต่อเนื่อง” ผู้อำนวยการ วช. กล่าว
ดร.วิภารัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากจะให้ทางสื่อมวลชนได้ช่วยสื่อให้เห็นภาพของความสำเร็จของโครงการเม็ดเงินที่ลงทุนไปภายใต้แผนงานทั้งปี 1 และ ปี 2 แล้วก็ถัดไปปีที่ 3 เห็นความคุ้มค่าเกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งถือเป็นงานวิจัยที่มีการกำหนดเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาการบริการสุขภาพของคนไทยในประเทศชาติร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ที่สำคัญคือชีวิตและความปลอดภัยของคนไทยทั้งประเทศ
ศ.เกียรติคุณ ดร.นายแพทย์สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยคณะสาธารณสุขศาสตร์ ภายใต้โครงการวิจัยแบบบูรณาการยุทธศาสตร์เป้าหมายด้านสังคม ที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก วช. มาขับเคลื่อนให้เกิดงานวิจัยที่มีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในการเข้าถึงบริการระบบบริการสุขภาพ ที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยมุ่งเป้าไปที่
“การพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านการดูแลภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร จากล่างสู่บนปีที่ 2” เป็นการพัฒนาระบบทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องทั้งภาวะฉุกเฉินที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและการบาดเจ็บและจากโรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะกลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่งถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากปัจจุบันระบบยังมีช่องว่างของตัวระบบบริการสุขภาพที่ต้องการการวิจัยพัฒนาในหลายประเด็น
ทั้งนี้ หวังว่าผลของโครงการวิจัยจะเป็นประโยชน์สำคัญในการช่วยลดช่องว่างของระบบบริการที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพสำหรับประชาชนทุกระดับ และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ในการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร การจัดการระบบข้อมูลสารสนเทศมาใช้ในการจัดการบริการสุขภาพตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service plan) สู่การยกระดับมาตรฐานระบบบริการสุขภาพให้กับหน่วยบริการสาธารณสุขทุกระดับทั่วประเทศ ให้มีมาตรฐาน มีความปลอดภัย มีกลไกในการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานสร้างเครือข่ายวิชาการ ด้านสังคม แผนงานระบบบริการสุขภาพ : การพัฒนาระบบบริการเพื่อการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจรและก้าวสู่ในปีที่ 3 การพัฒนาระบบการเชื่อมต่อข้อมูลด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความมั่นคงและปลอดภัยต่อไป
สำหรับโครงการ “การพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านการดูแลภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร จากล่างสู่บนปีที่ 2” การพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินสร้างความตระหนักรู้ด้านการแพทย์ให้กับประชาชนและนำไปสู่การพัฒนาทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้และมีส่วนร่วมในการเข้าถึงระบบการบริการสาธารณสุข การนำองค์ความรู้ที่จะได้รับจากโครงการวิจัยในการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง และการดูแลคนไข้หลังพ้นระยะฉุกเฉิน เป็นการนำไปสู่แนวทางในการป้องกันลดการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาวะการเจ็บป่วยที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่
โดยระบบบริการสุขภาพจะเป็นเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ การเข้าถึงบริการสุขภาพที่เหมาะสมเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาต่อประเทศชาติต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี