6 เม.ย.65 ส.ศิวรักษ์ นักปรัชญา นักคิด และนักวิชาการชาวไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "Sulak Sivaraksa" ระบุว่า "[แด่เสฐียรพงษ์ วรรณปก]
เสฐียรพงษ์ วรรณปก เป็นสามเณรประโยค 9 รูปแรกในรัชกาลที่ 9 และเป็นรูปแรกแต่เกิดการสอบแบบข้อเขียนแทนการสอบปากเปล่าดังแต่ก่อน เขาเป็นศิษย์ของพระธรรมเจดีย์ (กี มารชิโน) แห่งสำนักเรียนวัดทองนพคุณ
ต่อมาเสฐียรพงษ์ได้ทุนไปเรียนที่วิทยาลัยตรีนิตี้ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ทั้งๆ ที่ยังบวชอยู่ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นพระไทยรูปแรกที่จบจากที่นั่น เสียดายที่กลับมาไม่ทันไร เขาก็สึก
เขาถนัดเป็นนักหนังสือพิมพ์มากกว่าเป็นครูบาอาจารย์ ทั้งที่เขาเคยอยู่มหาวิทยาลัย เดิมเขาเขียนให้หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ต่อมาเมื่อไทยรัฐไม่เล่นงานธรรมกาย เขาจึงย้ายมาอยู่กับมติชน และมีผลงานรวมเล่มมากมาย ทั้งกับสำนักพิมพ์มติชน และกับทางเคล็ดไทย ภาษาไทยเขาดี หนังสือที่มีชื่อเสียงก็เป็นหนังสือตั้งชื่อ ที่เขาสามารถตั้งชื่อคนเพราะๆ
ผมกับเขาเป็นกัลยาณมิตรกันมายาวนาน เมื่อเขาตายจากไป ก็หวังว่าเขาจะไปสู่สุคติในสัมปรายภพ
ส. ศิวรักษ์
6-4-65
ภาพ : ส.ศ.ษ. – เสฐียรพงษ์ วรรณปก เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2557 ในวันคล้ายวันมรณภาพของท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (กี) วัดทองนพคุณ"
ศาสตราจารย์ (พิเศษ) เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิตสาขาศาสนศาสตร์ เกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2482 ที่อำเภอบรบือ (ปัจจุบันคืออำเภอกุดรัง) จังหวัดมหาสารคาม เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนา และภาษาบาลี มีผลงานมากมาย อาทิ คาถาพาหุงคาถาแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์, คิดเป็นทำเป็นตามแนวพุทธธรรม, พระสูตรดับทุกข์, คาถาชินบัญชรพร้อมประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) (แปลและเรียบเรียง), ชีวิตตัวอย่าง : หมอชีวกโกมารภัจจ์, พระพุทธเจ้ากับพระเยซูคริสต์พระพุทธเจ้ามิได้ปรินิพพานด้วยโรคอะไร, สติสมาธิ, บางแง่มุมเกี่ยวกับพระพุทธองค์, มีศัพท์มีแสง และ ไปสืบพระพุทธศาสนาที่ศรีลังกา เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเผยแพร่บทความในวารสารสังคมศาสตร์ปริทัศน์ ตั้งแต่ครั้งเป็นพระภิกษุ โดยการชักชวนของนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ต่อมา เขียนบทความลงในนิตยสารและหนังสือพิมพ์หลายฉบับ อาทิ เช่น ต่วยตูน, แม่และเด็ก, รักลูก, ชีวจิต เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคอลัมน์ประจำในหนังสือพิมพ์ข่าวสด และหนังสือพิมพ์มติชน อีกด้วย
โดยรายงานแจ้งว่า ศาสตราจารย์ (พิเศษ) เสฐียรพงษ์ วรรณปก นักปรัชญาศาสนา ได้เสียชีวิต ขณะเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 18.33 น. วันที่ 6 เม.ย. ญาติแจ้งว่า สาเหตุหลักของการเสียชีวิตเนื่องจากอาการทรุดเพราะเส้นเลือดในช่องท้องกับตรงหัวใจที่ทำไว้แต่เดิมปริ ก่อนหน้านี้ ได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลธนบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.65 ก่อนที่จะย้ายมาที่โรงพยาบาลศิริราช วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยจะตั้งศพไว้ที่วัดตรีทศเทพ และจะสวดอภิธรรมเป็นเวลา 5 คืน และเก็บศพไว้ 100 วัน ก่อนพระราชเพลิง. -008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี