สุดเซ็งไม่รู้อยู่ได้ยังไง! “ผู้เช่าไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” ค้างค่าเช่านับแสน เจ้าของบ้านพยายามทวงสุดท้ายไม่ได้ต้องพึ่งกรมบังคับคดี จนผู้เช่าตัวแสบแอบย่องหนี แถมยังทิ้งขยะไว้เต็มห้องให้ดูต่างหน้า สุดช้ำปล่อยน้ำไฟถูกตัดด้วย
16 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้นำความทุกข์ใจของเจ้าของห้องเช่าคนหนึ่ง อยู่ในพื้นที่ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ถูกผู้เช่าชักดาบเผ่นหนี ไม่ยอมจ่ายเงินค่าเช่ารายเดือน เป็นเงินกว่า 1 แสนบาท แถมยังทิ้งขยะกองโตไว้เต็มห้องให้ดูต่างหน้าอีก แต่ที่ต้องช้ำใจสภาพบ้านที่เป็นมรดกตกทอดหวังมีผู้เช่าที่ดีช่วยดูแลบ้าน ปล่อยบ้านทรุดโทรม ถูกตัดน้ำตัดไฟนานกว่า 4 ปี เจ้าของบ้านรายนี้จึงได้นำเรื่องโพสต์เป็นเครื่องเตือนใจ และไม่คิดว่าตนเองจะโดนเพราะเห็นแต่ในข่าว
เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในกลุ่ม F B ชื่อ ณ โพธาราม ได้เผยแพร่เรื่องสุดเซ็ง เมื่อวันที่ 15 เม.ย.65 เวลา 19.12 น. โดยผู้ใช้บริการชื่อ “Chommanard Lebkhurt” ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพใจความว่า 'ฝากถึงคนมีบ้านให้เช่านะคะ เวลาจะให้ใครเช่าบ้านต้องเช็คประวัติให้ดี สัญญาเช่าต้องมี ขอสำเนาเอกสารให้ครบ...เจอมากับตัวเอง ตอนแรกๆ ก็จ่ายค่าเช่า ต่อมาก็ขอผลัดค่าเช่าไปเรื่อยๆ สุดท้ายคือไม่จ่าย ค่าไฟฟ้าไม่จ่ายโดนตัดไฟ...แจ้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อนัดไกล่เกลี่ยไม่ยอมมา...นัดขึ้นศาลไม่ยอมไป ศาลตัดสินให้ย้ายออกจากบ้านเช่าไม่ยอมออก...กรมบังคับคดีต้องมาถึงบ้านเช่า นำเอกสารมาให้เซ็นต์รับทราบถึงยอมออก... กว่าเรื่องจะจบใช้เวลามากกว่า 2 ปี จ่ายเงินดำเนินการเยอะ...แล้วนี่คือสภาพบ้านเพียงส่วนหนึ่ง ไม่รู้อยู่ได้อย่างไง เคยเห็นแต่ในข่าวไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง...#ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย #คนแย่ๆ ที่ไม่อยากให้อยู่ในโพธาราม #เดี๋ยวก็คงไปทำแบบนี้กับที่บ้านเช่าที่ใหม่ #ได้ข่าวว่าตอนนี้ย้ายไปอยู่บ้านเช่าอีกฝั่งของแม่น้ำ #จากบ้านที่น่าอยู่ กลายเป็นกองขยะ' หลังจากที่โพสต์นี้ถูกแชร์ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ ทราบชื่อคือ น.ส.ชมนาด เล็บครุฑ อายุ 40 ปี ชาวอำเภอโพธาราม เจ้าจองห้องเช่า พร้อมเดินทางไปยังห้องเช่าดังกล่าว เป็นบ้าน 2 ชั้น กึ่งไม้กึ่งปูนเรียงเป็นแถว เลขที่ 17 อยู่ภายในซอยโรงพยาบาล-บ้านฆ้อง 5 เขตเทศบาลเมืองโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
ทันทีที่ผู้สื่อข่าวมาถึง คุณชมนาด ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูในตัวบ้าน ผลปรากฏว่าเมื่อไขกุญแจเปิดประตูห้องเข้าไปถึงกับผงะกับกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วห้อง เต็มไปด้วยกองขยะ ทั้งเสื้อผ้า ที่นอน หมอน แถมยังมีถุงพลาสติก ขวดน้ำดื่มจำนวนมาก มีเศษดิน ทิ้งไว้กระจายเกลื่อนห้อง จนแทบไม่เหลือทางให้เดิน ไม่เพียงเท่านี้ไปตรวจดูในห้องน้ำก็ไม่น้อยหน้า มีสิ่งของเครื่องใช้ที่หมดสภาพแล้วถูกทิ้งไว้เต็มห้อง
แถมพวกเฟอร์นิเจอร์ อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำทองเหลือง พัดลมเพดาน ถูกทอดหายไปจนเกลี้ยงไม่เหลือ ส่วนชั้น 2 ยังพบกองขยะอีกจำนวนมาก ทั้งถังน้ำ ขวดน้ำที่ภายในมีฉี่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง แต่ที่น่าตกใจคือ พบเข็มฉีดยาที่ถูกใช้แล้ววางไว้ตามจุดต่างๆ ทั้งที่พื้น ใต้บันใด ผนังบ้านจำนวนมาก ส่วนไฟฟ้าถูกทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาตัดและยกหม้อไป รวมไปถึงน้ำประปาด้วย
คุณชมนาด เล่าว่า ตนได้บ้านหลังนี้มาจากอาม่าที่มอบมรดกตกทอดมาให้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่สะอาดมาก อาม่าจะรักบ้านแม้กระทั่งเศษผมยังไม่มีตกให้เห็นที่พื้น แต่เมื่ออาม่าเสีย ประกอบกับตนต้องไปเรียนและนำงานอยู่ในกรุงเทพ จึงได้ปรึกษากับทางคุณพ่อ ว่าจะปล่อยให้เช่าเพื่อจะได้มีคนมาช่วยดูบ้านจะได้ไม่ทรุดโทรม เพราไม่มีคนอยู่ แรกๆมีนักศึกษามาเช่าบ้านก็ปกติดี จนกระทั่งนักศึกษาย้ายออกไป ประมาณเมื่อ 7 ปีก่อน ได้มีผู้เช่า เป็น 2 สามีภรรยา ผู้ชาย วัยประมาณ 38 ปี และหญิง วัยประมาณ 23 ปี มีอาชีพค้าขายตามตลาดนัด และทำงานในแผนกส่งของที่บริษัทแห่งหนึ่งในอำเภอโพธาราม
มาขอเช่าอยู่ ตอนแรกๆก็จ่ายค่าเช่าดี จนเข้าสู่ปีที่ 3 เริ่มผลัดค่าเช่าไปเรื่อยๆ สุดท้ายคือไม่จ่าย ตนก็พยายามมาแจ้งให้ออกแต่ทั้ง 2 คนก็ไม่ยอมออก และได้ไปร้องทางศูนย์ดำรงธรรมเพื่อนัดไกล่เกลี่ย ทั้ง 2 คนก็ไม่ยอมมา จากนั้นตนจึงได้ไปฟ้องร้องต่อศาลที่ราชบุรี ศาลได้นัดทั้ง 2 คนมาขึ้นศาลก็ไม่ยอมไป ศาลตัดสินให้ย้ายออกจากบ้านเช่าแต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมออก ดื้อแพ่งอย่างเดียว ตนจึงได้ไปร้องกรมบังคับคดี โดยเจ้าหน้าที่เดินทางถึงบ้านเช่าที่ทั้ง 2 คนอยู่และนำเอกสารมาให้เซ็นต์รับทราบ ทั้ง 2 คนจึงยอมออกจากบ้านดังกล่าว โดยตนต้องเสียเวลานานรวม 4 ปีจึงจะให้ทั้ง 2 คนออกจากบ้านได้
คุณชมนาด เล่าว่า หลังจากนี้คงไม่ปล่อยให้เช่าอีกแล้ว ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ถูก วันนี้ได้นัดคนมาทำความสะอาด หลังจากที่เก็บกวดขยะที่มีทั้งหมดออกจากบ้านก็จะต้องสำรวจความเสียหาย และ ต้องประเมินการซ่อมแซม เพราะเมียหายหนักมาก ทั้งหลังคารั่ว ประตูถูกงัด ข้าวของต่างถูกถอด ขโมยไปขายจนหมด ก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินในการซ่อมแซมอีกเท่าไหร่ ตนเห็นแต่ในข่าวแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง แบบ “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” ตนจึงอยากฝากเตือนคนที่ทำบ้านให้เช่า ก่อนรับคนเช่าต้องตรวจสอบเอกสาร ทำสัญญา และ ดูพฤติกรรมของคนเช่า เพื่อไม่ให้เป็นแบบตนเอง จากบ้านที่น่าอยู่ กลายเป็นกองขยะ ตามที่เห็นในภาพ
ทีมข่าวได้ลองไปพูดคุยกับเพื่อนบ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนก็ไม่ค่อยทราบความเป็นอยู่ของทั้ง 2 คนเท่าไหร่ แต่เราเป็นเพื่อนบ้านกันก็มีอะไรก็แบ่งปันกันไป ทำอาหารก็จะตักแบ่งให้ไปทาน ก็เห็นเขาเป็นคนดี ไม่น่าจะมีอะไร หรือเราไม่ค่อยได้ยุ่งเรื่องส่วนตัวกับเขา หลังๆเขามีลูกก็พาเขาไปคลอดลูก เป็นลูกสาว ก็ใช้ชีวิตอยู่กัน 3 คน จากเดิมที่อยู่กัน 2 คน และหลังๆ มีพ่อมาอยู่ด้วย เรื่องไฟถูกตัด ผู้ใหญ่ก็ใจดีให้เขาต่อไป เราก็รู้อยู่ประมาณนี้ อีกอย่างเราก็ไม่เคยเข้าไปดูในบ้านเขา แต่หลังจากที่เจ้าของบ้านมาเปิดบ้านก็ตกใจไปตามๆกัน เพราะไม่คิดว่าบ้านจะมีสภาพเป็นแบบนี้ ทั้งสกปรก ไม่รู้ว่าเขาอยู่กันได้อย่างไร ทั้งๆที่มีลูกเล็ก. 012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี