แรง “ข้าวเหนียวมะม่วง” ที่เด็กรุ่นใหม่ “มิลลิ” ดนุกา คณาธีรกุล นำมาโชว์การกินบนเวที เทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella รัฐ California สหรัฐอเมริกา นอกจากปลุกกระแส “ข้าวเหนียวมะม่วงฟีเวอร์” ให้ขนมหวานไทย “สุดปัง” เป็นที่รู้จักแพร่หลาย (เพิ่มขึ้น) ยังทำให้คำว่า Soft Power มาอยู่ในความสนใจ “ข้าวเหนียวมะม่วง” ขนมหวานคลาสสิกเมนูนี้ เดิมก็ไม่ได้ “ขี้เหร่” ชาติใดได้ชิมไม่เคยมีใครไม่ชอบ แม้คนในอเมริกาจะโชคร้าย ไม่ได้กินตำรับโบราณสูตร Original ที่เป็น “ข้าวเหนียวมูน”อย่างดี คัดจากข้าวเหนียวเขี้ยวงู (อ.แม่จัน จ.เชียงราย)ทุกเม็ด
“กะทิ” คั้นจาก “มะพร้าว” ที่คัด (อีกเหมือนกัน) ความอ่อนแก่และเจาะจงใช้ “มะพร้าว” จากจังหวัดชุมพร แหล่งอุดมสมบูรณ์ด้วยผลิตผลธรรมชาติ
นี่เป็น “ข้าวเหนียวมะม่วง” ก.พานิช จานที่ให้ 5 ดาว จะให้ “ยาง” ยี่ห้อใด มาชิมไม่ว่าจะเป็นมิชลิน โยโกฮามา โอตานิ ฯลฯ ก็ต้องยกย่องเป็นรางวัล “กูร์มองต์”
ในสหรัฐอเมริกา ยิ่งโชคร้ายไม่ได้ลิ้มรส “มะม่วงอกร่อง” ที่เป็น “นางเอก” ของเมนูนี้ ต้องไปอาศัย “มะม่วงเม็กซิกัน” จากประเทศเพื่อนบ้านด้วยนโยบายกักกันพืชผลต่างแดน เหตุที่เขาก็เป็นประเทศที่ทำมาหากินกับ ผลิตผลการเกษตร หากมี “แมลง” ต่างแดนติดมะม่วงเข้าไปสักตัว มลรัฐ California คงลุกเป็นไฟ
มะม่วงชาติไทยจะเข้าสหรัฐได้ต้องผ่านการฉายกัมมันตภาพรังสี เหมือนประเทศญี่ปุ่นที่มีมาตรการกักกันมะม่วงไทย แต่เหี้ยมกว่าจะเข้าได้ต้องขออนุญาตเป็นพันธุ์เฉพาะเข้าไป และต้อง “อบไอน้ำ” (ญี่ปุ่นทำเครื่องอบไอน้ำขายเกษตรกรไทย)
ที่ตลกคือ ตอนนี้ “มะม่วงน้ำดอกไม้” ได้ผ่านเข้าไปขายในญี่ปุ่น (3 ใบ 1,000 เยน) แต่พันธุ์อื่นอย่าง “อกร่อง” ช้าก่อน เข้ายังไม่ได้
การเกษตรเขาคงอ้างว่า มะม่วงต่างพันธุ์ มีแมลงต่างพันธุ์ (ฮา)
คุณพาณี เฉียบฉลาด ผู้สืบทอดร้านข้าวเหนียวตำนาน ก.พานิช จากคุณย่าลี้ ซึ่งเป็น “ลูกมือ” ในห้องเครื่องรัชกาลที่ 6 บ่นเสียดายเสน่ห์ของอกร่องที่ไม่ได้ไปโชว์ตัวในต่างแดน
“เมื่อก่อนมะม่วงกินกับข้าวเหนียวให้อร่อยต้อง “อกร่อง” ของดำเนินสะดวก รสเขาจะแหลม แต่ถ้าเป็นคนจีนจะชอบ “น้ำดอกไม้” เนื้อแยะ (ฮา-พฤติกรรมผู้บริโภคของแต่ละชาติที่ไม่เหมือนกัน)
แต่ฉันว่า “รสหวาน” จะอ่อนกว่า “อกร่อง” แต่อกร่องเนื้อจะเป็นเสี้ยนหน่อย...”
“ข้าวเหนียวมะม่วง” และเพลงแร็พของสาววัยรุ่น“มิลลิ” ทำให้มีการพูดถึง Soft Power มีการพูดกันตูมตามตามกระแสแบบ “ไทยๆ” (คือเห็นอะไรดีๆ ก็ขอลอกมาก่อนไม่ได้สนใจปรัชญา รายละเอียด (ฮา)
ที่พูดถูกพูดผิดก็มีให้เห็น
บางคนเข้าป่าไปนึกว่าเขาพูดถึง Software
บางคนติดว่า ข้าวเหนียวก็นุ่ม มะม่วงก็อ่อนนี่แหละคือ Soft Power ของไทย(ถูกส่วนหนึ่ง ฮา)
มาฟัง Professor Joseph NYE แห่งมหาวิทยาลัย Harvard ผู้ต้นคิด Soft Power ให้คำจำกัดความ
“A country’s ability to influence the preferences and behaviours of various actors in the international arena (states, corporations, communities, publics etc.) through attraction or persuasion rather than coercion.”
“เป็นความสามารถของประเทศที่จะ “โน้มน้าว” ให้ผู้คนในประเทศ มิตรประเทศ ชอบประเทศของตน ด้วยการเสนอสิ่งที่ “น่าสนใจ” “ชักจูง” มากกว่า การใช้กำลังบีบบังคับ”
เขามีดัชนี KPI สากลวัดค่า Soft Power ของประเทศและประกาศให้ทราบทุกปี โดยหลักๆ ดูอยู่ 3 เรื่อง
Familiarity Reputation และ Influence
Familiarity ถ้าผู้คนในประเทศอื่น รู้เกี่ยวกับประเทศของคุณ ความสามารถ การดำเนินธุรกิจ ทรัพยากรคุณก็จะได้คะแนน Soft Power สูง
Reputation ชื่อเสียง ประเทศที่ผู้คนสนใจและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประเทศอื่นได้ จะแข็งแกร่งและเป็นบวก
Influence ประเทศคุณมีอิทธิพลในความคิดต่อประเทศอื่นๆ หรือไม่ หรือ Soft Power ของคุณจำกัดอยู่แค่ประเทศตนเอง ภูมิภาคเล็กๆ ของตนเอง
บรรพบุรุษผู้หลักผู้ใหญ่ ปู่ย่าตายายของเราได้สร้าง Soft Power มาช้านาน
“เด็กรุ่นใหม่” ถ้าให้โอกาสที่ดี ก็ได้แสดง ความสามารถให้นานาประเทศได้ชื่นชม
อย่าได้ปิดกั้นโอกาสอันดีของเยาวชนที่จะได้พัฒนาไปเป็นทรัพยากรบุคคลของประเทศของโลก
เพียงเพราะ “คนแก่” บางคน ยัง “ยักแย่ยักยัน”“ตามัว หูตึง” หลงใหลกับ “อำนาจ”
Soft Power ได้มาจาก “การสร้างสรรค์” หาได้มาจากการกำกับ จับผิด ปิดกั้นไม่
กฤษณ์ ศิรประภาศิริ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี