ชีวิตสุดรันทดเจอครอบครัวลูกพิการ 2 คนในพื้นที่ตำบลพงสวาย เมืองราชบุรี หลังมีโจรเข้ามาขโมยทรัพย์สินรวม 5 ครั้งจนหมดตัว แต่ตำรวจยังจับตัวไม่ได้ จึงเขียนป้ายติดหน้าบ้านประจานโจร
วันนี้ (14 มิ.ย.65) ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี ปลูกสร้างลักษณะชั้นเดียว มีรั้วเป็นตาข่ายเหล็กล้อมไว้รอบ หน้าบ้านมีป้ายข้อความบนกระดาษเขียนติดไว้ "ถึงคุณโจรขี้เกียจสันหลังยาว ตั้งแต่เดือน พ.ย.64 ถึงเดือน มิ.ย.65 มึงปีนบ้านกู 5 ครั้งแล้ว ตอนนี้กู ลูกเมียกู ไม่มีจะแดกแล้ว แม้แต่เงินสักบาทกูก็ไม่เหลือ สงสารกันบ้าง กูมีลูกพิการ 2 คน ต้องดูแล"
ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสอบถามนายเอกสิทธิ์ จันทร์สนิท อายุ 59 ปี และนางบงกช จันทร์สนิท อายุ 49 ปีสองสามีภรรยาอยู่บ้านท้องถิ่นไทย เทิดไท้องค์ราชัน 84 พรรษา เลขที่ 9849 หมู่ที่ 2 ต.พงสวาย ให้ข้อมูลว่าช่วงแรกเปิดร้านขายของโชห่วยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ถึงเดือนธันวาคม 2564 ช่วง 2 เดือนนี้โดนขโมยเข้าบ้าน 2 ครั้งหมดทรัพย์สินเงินไปรวม 2 แสนบาทจนมาถึงช่วงปีใหม่
ครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.65) มีเงินหายครั้งละ 5,000 - 6,000 บาทและข้าวของทยอยหายไปอีก แม้จะขายเครื่องซักผ้าไปแล้ว เงินที่ขายเครื่องซักผ้าก็ยังโดนขโมยอีก จนตอนนี้ไม่เหลือกอะไรอีกแล้ว จึงอยากวิงวอนโจรซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครขอความกรุณาว่าไม่มีเงิน หมดตัวแล้ว ทุกวันนี้ต้องอาศัยขอข้าววัดมากินประทังชีวิตเลี้ยงครอบครัว เพราะต้องเลี้ยงดูลูกพิการอีก 2 คน พวกโจรหัดทำมาหากินกันบ้าง อย่าอ้างว่าเศรษฐกิจไม่ดี ตนเองมีลูกพิการก็ยังต้องขวนขวายหาเงินมาเลี้ยงดูแลลูกๆ ให้ได้กินดี
ส่วนตัวเองก็ประสบอุบัติเหตุ รถชนจนขาหัก 2 ท่อน สะบ้าเข่าหักและรถจักรยานยนต์พ่วงข้างประกัน พ.ร.บ.ขาดต่ออายุไม่มีเงินรักษาตัว ช่วงนั้นหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดเขาวัง รู้ข่าวจึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเป็นเงินค่ารักษาบางส่วน โดยท่านให้ลูกศิษย์เข้ามาที่บ้านสอบถามถึงอาหารการกิน ความเป็นอยู่ด้วยความเมตตา ซึ่งตามปกติจะไปช่วยกวาดทำความสะอาดพื้นที่ลานวัดอยู่เป็นประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปหาท่านอีกเลยด้วยความเกรงใจพระท่าน
ส่วนภรรยาได้ประสบอุบัติเหตุช่วงที่อุ้มลูกชายคนโตเข้าห้องน้ำลูกตัวสูงกว่าแม่ ขณะช่วงที่อุ้มขึ้นขี่หลัง ลูกได้ใช้เท้าถีบพื้น ทำให้ภรรยาล้มและเห็นลูกล้มด้วยจึงรีบเอาตัวเองลงรับไปแทน ปรากฏว่าลูกทับขา ทำให้บาดเจ็บที่ขา และช่วงหัวเข่า บาดเจ็บเดินลำบาก ตอนนี้ตนเองสมัครเป็นยามรักษาความปลอดภัยเฝ้าบ้านหลังหนึ่ง และจะไปทำงานช่วงเย็น เพิ่งจะทำงานได้ยังไม่ถึงเดือน แม้ว่าการเดินก็ยังไม่หายดี
ส่วนพฤติกรรมของโจรที่เข้ามาขโมยรวม 5 ครั้งนั้น ขณะที่แม่กับลูกนอนกันอยู่ในบ้านไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย สอบถามภรรยามีอาการเหมือนกันรู้สึกมึนงง เหมือนกับโดนวางยา นอนหลับลึกไม่รู้ตัว มีอาการซึม ขมที่บริเวณลำคอ กินน้ำไปยังสำลักน้ำและรู้สึกง่วงนอนมาก ทุกทีจะต้องนั่งดูทีวีก่อน จึงพากันไปนอน และไม่รู้สึกอะไรเลย เป็นแบบนี้ทั้ง 5 ครั้งที่โจรเข้ามาขโมยของ ตนเองก็จะรู้สึกมีอาการแบบนี้เหมือนกัน รูปแบบการกระทำเหมือนเดิมน่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่โจรขโมยไปเป็นเงินประมาณ 3 แสนบาทมาจากเงินเก็บ เงินขายของที่สะสมไว้
ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่บ้านแล้วเมื่อวานนี้โดย 4 ครั้งแรกคนร้ายไม่ได้รื้อค้นสิ่งของ เหมือนกับรู้ว่าเงินซ่อนอยู่ตรงไหน แต่มาครั้งที่ 5 คือเมื่อวานนี้คนร้ายรื้อค้นข้าวของกระจายหมด
สำหรับครอบครัวตนเองและภรรยาไม่ได้รับบัตรสวัสดิการของรัฐที่ช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย สาเหตุตอนที่ไปทำบัตรประชารัฐได้แจ้งกลับมาว่าตนเองไม่สามารถทำได้ เพราะมีบัญชีเกินกว่า 1 บัญชี เพราะตนเองไปเปิดบัญชีที่ 2 และที่ 3 ไว้ให้ลูกเป็นบัญชีคนพิการจึงไม่เข้าข่ายที่จะได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการของรัฐมาจนถึงทุกวันนี้
"ส่วนโครงการคนละครึ่งก็ไม่ได้ใช้ เพราะเราต้องเติมเงินเข้าไปในระบบก่อน แต่เราไม่มีเงินที่จะเติมเข้าไป การเยียวยาของรัฐครอบครัวไม่เคยได้รับอะไรเลยคงมีแต่เบี้ยพิการของลูกคนละ 800 บาทรวม 2 คนที่ได้กินได้ใช้ซื้อแพมเพิสไว้ดูแลลูก ๆ แค่นั้น" นายเอกสิทธิ์ กล่าว
สำหรับผู้มีจิตเมตตาสงสารสามารถโอนเงินช่วยเหลือครอบครัวได้ที่นายเอกสิทธิ์ จันทร์สนิท (ด.ช. ณัฐวัตร จันทร์สนิท) บัญชีเลขที่ 010432431678 ธนาคาร ธกส.สาขาราชบุรี 2001 - บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (ใช้สมุดคู่ฝาก) หรือสอบถามได้ที่นายเอกสิทธิ์ จันทร์สนิท หมายเลข 095-6861732
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี