3 กรกฎาคม 2565 พระครูมงคลวรวัตร เจ้าอาวาสวัดเทพมงคล และอีกตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ปกครองพระสงฆ์ 16 รูป สามเณร แม่ชี ไม่มี มรรคนายก 5 คน สังกัด มหานิกาย ถือว่าเป็นแหล่งศูนย์รวมจิตใจ ปฏิบัติธรรมที่สำคัญอีกแห่ง ซึ่งพุทศาสนิกชนเดินทางเข้ามาทำบุญ ทำทานและฝึกปฏิบัติธรรม สมาธิ ฟังเทศนา คำสอน เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงาน ดำรงชีวิต ได้อย่างลงตัว และเป็นสิริมงคลอยู่เย็นเป็นสุขอีกด้วย
โดยบริเวณพื้นที่ 43 ไร่ ภายในวัดเทพมงคล ยังแบ่งเป็นสัดส่วน ให้พุทธศาสนิกชน ได้เดินชมสัมผัสธรรมชาติ ที่ร่มรื่นเงียบสงบ สำหรับผู้นิยมนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม รองรับบนเนื้อที่ 1 ไร่ ทั้งแบบภายในอาคาร หรือนั่งสมาธิท่ามกลางธรรมชาติสวยงาม ก็มีรองรับอย่างเต็มที่ ชนิดที่ว่า ถูกใจ ผู้รักความเงียบสงบ ท่ามกลางเสียงนก เสียงจักจั่น ขับกล่องเป็นเสียงเพลงตลอดเวลา
ศาลา 8 เหลี่ยม สำหรับผู้เข้ามาปฏิบัติธรรม ที่ต้องการทราบประวัติความเป็นมากิจกรรมที่ผ่านมา ก็จะมีให้อ่านที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น พระครูนำแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานส่งเสริมกิจกรรมเผยแพร่พุทธศาสนาและการพัฒนาชนบท เป็นศูนย์การค้นคว้า วิจัย อบรม การผลิต การใช้สื่อ เผยแพร่ศาสนา เป็นศูนย์การรวบรวมข้อมูลการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนและการดำเนินการด้านสังคมสงเคราะห์ แก้ไขปัญหาสังคม การพัฒนาสังคม เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชน เป็นศูนย์ประสานงานกับหน่วยงานรัฐ เอกชนและประชาชน ให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่ออนุรักษ์ บำรุง ทรัพยากรธรรมชาติ
ส่วนการสงบจิตใช้หลัก 3 ประการ คือพัฒนาจิตใจ เศรษฐกิจ สังคม ด้วยการพัฒนาจิตใจของข้าราชการ ประชาชน ส่งผลให้ครอบครัวมีความสงบสุข รวมถึงการพัฒนาชุมชนให้มีความสะอาด พัฒนาหมู่บ้านให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ด้วยตัวเอง
สำหรับพุทธสถานธรรมเทพนิมิต ปลูกฝังค่านิยมในการอนุรักษ์ รักษาธรรมชาติ จัดรวบรวมคำคม ต้นไม้พูดได้ มีคำคมคำสอนติดตามต้นไม้กว่า 500 ต้น เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ศึกษาของประชาชน
ส่วนหอแก้วสารพัดนึก มี 2 ชั้น ยอดสุด ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และชั้นล่าง ทำเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศาสนา มีธาตุเจดีย์ 4 ทิศ คือ1. ธาตุเจดีย์ 2. บริโภค เจดีย์ 3.ธรรมะเจดีย์ 4.อุเทสิกะ เจดีย์ เพื่อให้ญาติโยม พุทธศาสนิกชน เด็กและเยาวชน เข้ามาค้นคว้า ศึกษา เรียนรู้ ทางศาสนา จะได้มีความรู้ ความเข้าใจ ทางศาสนามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ด้านทิศเหนือ ภายในวัดเทพมงคล จัดทำเป็นที่แสดง ผลิตภัณฑ์สิ่งของโบราณ หลากหลายชนิด มีให้ชมและศึกษาของผู้สนใจ โดยเปิดให้ชมเวลา 09.00 – 16.00 น.ทุกวัน
ส่วนศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกภายในวัดเทพมงคล เปิดรับเด็กนักเรียน ลูกหลาน ที่มีบ้านพักอยู่ใกล้วัด และกันพื้นที่จำนวนหนึ่ง อนุญาตให้เทศบาล เปิดเป็นโรงเรียนเทศบาล 1 วัดเทพมงคล เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่อนุบาล 1 – ชั้น ป.6 เปิดมาแล้ว 15 ปี โดยไม่ได้คิดค่าเช่าใดๆเลย เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ไม่ต้องให้ลูกหลายไปเรียนไกลบ้าน
พระครูมงคลวรวัตร เจ้าอาวาสวัดเทพมงคลและรองเจ้าคณะอำเภอเมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ แสดงพระธรรมเทศนาว่า ชีวิตของมนุษย์และสัตว์ ทั้งในโลกนี้และโลกทิพย์มีส่วนสัมพันธ์กัน ก็อยู่ที่กฎแห่งกรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนในการเวียนว่ายตายเกิดไปๆมาๆ ที่จะไม่เคยเป็นญาติ เป็นเพื่อน ไม่เคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันไม่มี ชีวิตของทุกคนจึงมีส่วนสัมพันธ์กันไม่มากก็น้อย ทั้งส่วนดีมากและดีน้อย ทั้งส่วนเลวมากและเลวน้อย ทั้งในส่วนที่ทำให้เกิดความเครียดแค้นชิงชังมากชิงชังน้อย ทั้งในส่วนที่รักและอุปการะมากและน้อย นี่เป็นกรณีหนึ่ง
การได้ดีตกยาก เจ็บไข้ได้ป่วยของมนุษย์และสัตว์ ส่วนหนึ่งเกิดจากผลกรรม ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ อีกส่วนหนึ่งได้รับเหตุปัจจัยกระทบจากสิ่งรอบข้าง อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการกระทำของสิ่งลี้ลับที่เรามองไม่เห็น เช่น เทวดาช่วยเหลือ เทวนาให้โทษ ผีให้โทษ เจ้ากรรมนายเวรที่เคียดแค้น ชิงชัง ให้โทษ
คนเราทุกคนมีเทวดาอย่างน้อย 2 องค์ เป็นเทวดาประจำตัวติดตามช่วยเหลือ ให้เราประสบความสำเร็จ หรือช่วยเหลือปกป้องคุ้มครองให้เรารอดพ้นจากภัยอันตรายที่น่าหวาดเสียวได้อย่างอัศจรรย์ ซึ่งบางทีก็ยกให้เป็นคุณงามความดีของวัตถุมงคลที่แขวนคอเสียก็มี เด็กน้อยบางคนไม่มีวัตถุมงคลแขวนคอ แต่ตกบ้านด้วยความซุกซน แต่ไม่ได้รับอันตรายเหมือนมีใครมาอุ้มไว้ก่อนตกพื้น บุคคลบางคนไม่มีวัตถุมงคลติดตัว แต่สามารถรอดพ้นจากอุบัติเหตุและการดักทำร้ายของศัตรูมาได้อย่างปาฎิหาริย์ นั่นคือ การปกป้องรักษาจากเทวดาประจำตัวเขาและญาติในโลกทิพย์ของเขา
พวกเราชาวพุทธแต่ละคนล้วนเคยทำบุญให้ทานมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งในชาตินี้ ชาติก่อน ถ้าจะนับบุญ ก็คงจะใหญ่เท่าภูเขาเลากาหรือเท่าก้อนโลก แต่ไม่รู้จักใช้บุญของตนเองให้เกิดประโยชน์ในปัจจุบันชาติ จึงต้องรอตายแล้ว จึงไปรับบุญในสรวงสวรรค์ คนทำบุญ จึงชอบบ่นว่า ทำแต่บุญไม่เห็นได้ดีสักที ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเขาไม่เคยให้บุญแก่เทวาดารักษาตัวเอง ไม่เคยให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจ้องกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาและญาติทิพย์ที่อาศัย อยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้เทวดารักษาเจ้านายของตัว เทวดาเหล่านั้นบางองค์อาจมีบุญน้อย มีฤทธิ์น้อย จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับบุญจากเราบ่อยๆ เขาจะกลายเป็นเทวดาที่มีฤทธิ์อำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย บางคนอ้างว่า ทำบุญทุกครั้ง ก็กรวดน้ำให้เทวดา และเจ้ากรรมนายเวรทุกครั้ง ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง จะต้องเข้าใจเราให้ไม่เป็น เขาจึงไม่ได้รับ เช่น ให้ไม่เจาะจง หรือ แสวงบุญหมดแล้วจึงมากรวดน้ำให้ เขาก็ไม่ได้รับ พระครูมงคลวรวัตร เทศนาตอนหนึ่ง
นอกจากนี้ พระครูมงคลวรวัตร ยังได้รับกิจนิมนต์ ไปเทศนาตามงานสำคัญๆต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ หรือภาคเอกชน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากท่านจะเทศนาสั่งสอน เรื่องราว ความเป็นมาของหน่วยงานที่นิมนต์ไปแล้ว ท่านยังสอดแทรก คำสอน ให้ผู้ฟังเป็นคนดี มีความกตัญญู รู้คุณต่อ บิดามารดา และแผ่นดินเกิดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้วัดเทพมงคลจะเป็นวัดไม่ใหญ่ เป็นวัดขนาดกลาง ตั้งอยู่ในตัวเมืองอำนาจเจริญ ทว่าที่ผ่านมา จะมีพุทธศาสนิกชน ทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญๆเป็นประจำ และยังเป็นวัดยอดนิยม ที่มีผู้คนเข้ามาทำบุญ ทำทาน ปฏิบัติธรรม ฟังคำสอนจาก พระครูมงคลวรวัตร เจ้าอาวาสวัดเทพมงคลและเจ้าคณะอำเภอเมืองอำนาจเจริญ เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานชีวิตประจำวันและเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
พระครูมงคล วรวัตร เจ้าอาวาสวัดเทพมงคลและเจ้าคณะอำเภอเมืองอำนาจเจริญ เทศนาเรื่องการรักษาศีลว่า ศีลเบื้องต้นทั่วไป ที่พระพุทธเจ้า ทรงให้พุทธบริษัทรับไปนั้น คือ ศีล 5 ข้อ ได้แก่ ห้ามฆ่าสัตว์ ห้าพูดเท็จ ห้ามลักทรัพย์ ห้ามทำผิดในกามและห้ามดื่มสุรา ให้รับไว้ปฏิบัติชั่วชีวิต ไม่ใช่รับเฉพาะเมื่อเฉพาะยาม การรับศีลเป็นบางโอกาส เช่น ศีลอุโบสถ ไม่ได้รักษากันตลอดชีวิต รักษาเฉพาะวันพระ เดือนละ 4 ครั้ง ครั้งละ 24 ชั่วโมง แต่เช้าถึงวันรุ่งขึ้น วันนั้น เป็นวันรักษาศีลชั่วคราว แต่ศีล 5 นั้นเรียกว่า “ นิจศีล” แปลว่า ศีลที่ควรรักษากันเป็นนิจทุกวัน ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใด เราต้องรักษามั่นไว้ในใจของเรา ฉะนั้น การรักษาศีล 5 มีจุดอยู่ตรงนี้ ศีลแยกออกเป็น 2 อย่างคือ
โลกียศีล คือศีลของโลกียชน ซึ่งยังอยู่ในโลกียวิสัย เช่น ผู้สมาทานศีล ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 แล้วต้องระวังรักษาด้วยการบังคับกาย วาจา ให้งดเว้นจากข้อห้ามนั้นๆ ไม่ให้ด่างพร้อย แต่ไม่อยู่ในวิสัย ที่จะบังคับจิตใจ นี่เรียกว่า “โลกียศีล”
โลกุตรศีล คือ ศีลของพระอริยเจ้า ได้แก่ ผู้ที่บรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว เรียกว่า “อธิศีล” คือ ศีลอันยิ่งใหญ่ ได้แก่ ศีลที่มีอำนาจมากและมีการกำจัดความชั่วทุกหมด ที่เกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นปกติ ไม่ต้องรักษาเหมือนอย่างโลกียศีล ทั้งนี้ ย่อมเป็นไปตามสภาพจิตที่อบรมดีแล้ว ศีลแบ่งออกเป็นข้อย่อยๆ 4 ข้อ คือ
1.หานภาคิยศีล ได้แก่ ผู้ที่สมาทานศีล ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 และศีล 227 แล้วมักล่วงเกินสิกขาบท ที่ตนสมาทานและทำให้ขาดตกบกพร่อง ด่างพร้อย เรียกว่า หานภาดิยศีล
2.ฐิติภาคิยศีล ได้แก่ ผู้ที่สมาทานศีลแล้ว ไม่ทำให้ขาดตกบกพร่อง แต่ไม่ไหว้พระ ไม่สวดมนต์ เจริญภาวนา
3.วิเสสภาคิยศีล ได้แก่ ผู้สมาทานรักษาศีลได้อย่างบริบูรณ์แล้ว ยังได้สวดมนต์ไหว้พระ เจริญภาวนาด้วย
4.นิพเพธภาคิยศีล ได้แก่ ผู้มีศีลบริสุทธิ์แล้ว เจริญวิปัสสนาภาวนาต่อไป จนเกิดปัญหารู้แจ้งเห็นจริง เห็นเหตุการณ์ของรูป ของนาม ที่กำลังเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามสภาพที่แท้งจริง.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี