โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ มุ่งพลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทย ตั้งเป้าผลักดันรายได้การท่องเที่ยวรวม 2.38 ล้านล้านบาท พร้อมยินดีที่ Agoda ยก‘กรุงเทพฯ’เป็นที่ 1 จุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลกประจำปี 2565 ด้าน‘รองโฆษกฯ’เผยนายกฯชื่นชม‘การบินไทย’ต่อยอดความสัมพันธ์ไทย- ซาอุดีอาระเบีย เกิดผลเป็นรูปธรรม เปิดเส้นทางบินใหม่‘กรุงเทพ-เจดดาห์’ดึงนักท่องเที่ยวเยือนไทยเพิ่มสิบเท่า
27 กรกฎาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งเดินหน้าแผนพลิกฟื้นตลาดการท่องเที่ยวไทยปี 2566 ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าผลักดันรายได้การท่องเที่ยวรวม 2.38 ล้านล้านบาท พร้อมยินดีที่อโกด้า (Agoda) แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก จัดอันดับให้กรุงเทพมหานครเป็นที่ 1 ด้านจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั่วโลกในถดูร้อนประจำปี 2565
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ทำแผนการตลาดปี 2566 เดินหน้าฟื้นการท่องเที่ยวไทย เตรียมผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างสมดุลทุกมิติ เน้นการสร้างคุณค่าการเดินทาง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (High Value Sustainable Tourism) ด้วย 4 กลยุทธ์ ได้แก่ 1. กระตุ้นความต้องการเดินทาง (Drive Demand) 2. สร้างประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) 3. ต่อยอดพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Shape Supply) ซึ่งนำไปสู่ 4. ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (High Value and Sustainability) และผสมผสาน Soft Power ของไทย รวมทั้ง บูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วน เพื่อปักหมุดหมายการท่องเที่ยวของไทยเป็น World Class Destination
ในส่วนการท่องเที่ยวในประเทศ ททท. จะกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย ผ่านแคมเปญ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย...เที่ยวได้ทุกวัน” ชูเอกลักษณ์ของแต่ละภาค เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ และเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว สำหรับทิศทางในระยะยาว จะทำการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และเปิดตลาดเชิงพื้นที่ใหม่ ๆ สร้างการรับรู้และส่งเสริมตลาดในประเทศใหม่ เช่น ซาอุดีอาระเบีย และขยายพื้นที่ไปเมืองรองในตลาดเดิม เช่น ตอนกลางของสหรัฐ ตั้งเป้าว่าจะดันรายได้การท่องเที่ยวปี 2566 รวม 2.38 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ Agoda.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ได้ทำการจัดอันดับจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั่วโลกประจำปี 2565 หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ดีขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด19 ในหลายประเทศทำให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ซึ่งผลการจัดอันดับพบว่า กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ประเทศไทย ติด 10 อันดับประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในฤดูร้อนประจำ ปี 2565 โดยกรุงเทพมหานคร ครองอันดับ 1 และ เมืองพัทยา ครองอันดับ 8 ของโลก
“นายกฯ ชื่นชมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้บูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในการส่งเสริมนโยบาย ตอบรับดำเนินตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่งผลให้การท่องเที่ยวประเทศไทยกลับมาเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมกำชับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเดินหน้าสร้างการรับรู้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยว เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประเทศไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน สอดรับกับสภาพแวดล้อมด้านการแข่งขัน และความท้าทายด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่” นายธนกร กล่าว
ด้านนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า ตนได้เป็นตัวแทนรัฐบาลร่วมงานเปิดตัวเส้นทางใหม่ของการบินไทย “กรุงเทพ~เจดดาห์” เที่ยวแรกให้บริการ 19 สิงหาคม 2565 ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากคำชื่นชมไปยังบริษัทการบินไทย ที่ได้ต่อยอดความสัมพันธ์ “ไทย-ซาอุดีอาระเบีย” ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการที่นายกฯได้ไปเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบ 30 กว่าปีของการเยือนระดับผู้นำรัฐบาล โดยการเปิดเส้นทางการบินเส้นนี้ เป็นการเน้นย้ำถึงสัมพันธภาพที่ดียิ่งระหว่างสองประเทศ และระหว่างประชาชนต่อประชาชน รวมถึงโอกาสทางธุรกิจที่จะเพิ่มมากขึ้นตามมา มากไปกว่านั้น ทางการบินไทย ยังแสดงเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริม Soft power ของพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ครอบคลุมเรื่อง การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อาหาร งานฝีมือชาวบ้าน ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเทียวซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางอีกด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าเส้นทางบินตรงกรุงเทพ-เจดดาห์ จะทำให้มีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นสิบเท่า จากเดิมที่มีประมาณ 3 หมื่นคนต่อปี ซึ่งต้องเดินทางผ่านประเทศอื่นก่อนเข้าไทย ทุกๆปี มีคนไทยเดินทางไปซาอุดีอาระเบียจำนวนมาก ทั้งคนไทยมุสลิม โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ ที่เดินทางไปเพื่อแสวงบุญ และคนไทยที่ไปทำงาน ขณะที่ชาวซาอุดิอาระเบียมีความนิยมมารับการรักษาสุขภาพ ช้อปปิ้ง และท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างมาก ส่วนความน่าสนใจของเมืองเจดดาห์ คือ เป็นประตูหลักสู่เมกกะ เมืองท่าที่มีธรรมชาติอันสวยงาม และศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจของตะวันออกกลาง
สำหรับการส่งเสริม Soft power ตามนโยบายรัฐบาลนั้น นางสาวรัชดา กล่าวว่า นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะให้การสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะในฐานะสายการบินแห่งชาติ การบินไทยพร้อมร่วมขับเคลื่อนในเรื่องนี้ และที่ผ่านมา ทางบริษัทก็ได้ดำเนินการมาโดยตลอด และขณะนี้ได้วางแผนจะใช้เส้นทางกรุงเทพ-เจดดาห์ เพื่อการโปรโมทอัตลักษณ์ของพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่มีความโดดเด่นเรื่องสังคมพหุวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น และวิถีชีวิตชาวบ้าน ในเบื้องต้นจะร่วมมือกับภาครัฐ ในการดำเนินการ เช่น 1)การคัดเลือกสินค้าท้องถิ่นเข้าวางขายในร้าน “ไทยช็อป” ซึ่งมีลูกค้าจากทั่วโลกสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ 2)การศึกษาศักยภาพ วัตถุดิบท้องถิ่น เพื่อนมาต่อยอดให้บริการบนเครื่องบิน อาทิ เกลือหวานจากปัตตานี ลูกหยีนราธิวาส และกล้วยหินยะลา และ 3)การร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยการพาผู้สื่อข่าวจากประเทศซาอุดิอาระเบีย มาทัศนศึกษาประเทศไทย และจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมต่อไป
“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสำเร็จของบริษัทการบินไทย ที่นอกจากจะสามารถฟื้นฟูกิจการได้อย่างรวดเร็ว ยังริเริ่มเปิดเส้นทางการบินใหม่ที่เป็นทั้งโอกาสทางธุรกิจของบริษัท และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้านการท่องเที่ยวและด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นช่องทางสู่การขยายโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยสู่ประเทศอื่นๆในภูมิภาคตะวันออกกลาง และที่สำคัญ การที่บริษัทฯยื่นมือเข้ามา โปรโมท Soft power ของจังหวัดชายแดนใต้ ถือเป็นตัวอย่างที่น่าประทับใจ เพราะนอกจากจะทำให้ต่างชาติเข้าใจถึงพหุสังคมวัฒนธรรมในท้องถิ่นแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการสร้างรายได้แก่ประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอีกด้วย” นางสาวรัชดา กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี