ครูวงเดือน 1 ใน 4 ทหารเสือศิลปาชีพ น้อมรำลึก 22 ปี รับเหรียญทองคำรางวัลผ้าไหมจากพระหัตถ์ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" สุดปลาบปลื้มทรงตรัส "สวยงามมาก" ทอผ้าไหมยาว 90 เมตรถวายเนื่องในวันแม่แห่งชาติ
วันที่ 11 ส.ค.65 นางวงเดือน อุดมเดชาเวทย์ หรือครูวงเดือน อายุ 84 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ทหารเสือศิลปาชีพ อดีตข้าราชการสาธารณสุข อ.นาหว้า จ.นครพนม ในฐานะประธานกลุ่มศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านวัดธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า มูลนิธิศิลปาชีพพิเศษ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งเป็นกลุ่มทอผ้าไหมแห่งแรกของ จ.นครพนม เปิดเผยว่า นับเป็นความภาคภูมิใจ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหามหาราชินี
ตนในฐานะพสกนิกรชาวไทยที่ได้สนองพระราชปณิธาน สืบสานอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้านทอผ้าไหมพื้นเมืองมานานกว่า 50 ปี หลังจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึง อ.นาหว้า จ.นครพนม และได้ทรงทุ่มเทพระวรกาย เพราะเห็นความสำคัญของการส่งเสริมอาชีพทอผ้าไหม พร้อมได้พระราชทานก่อตั้งกลุ่มศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านวัดธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า ซึ่งเป็นกลุ่มทอผ้าไหมแห่งแรก จ.นครพนม ในมูลนิธิศิลปาชีพพิเศษ ขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2515 จนกระทั่งมีการพัฒนาต่อยอดมาถึงปัจจุบัน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ เปลี่ยนชีวิต ชาวบ้านที่ยากจน ให้มีอยู่มีกิน มีรายได้ยั่งยืน จากอดีตถึงปัจจุบัน ด้วยการทอผ้าไหมส่งขายให้กับศูนย์ศิลปาชีพ
ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 90 พรรษา ตนน้อมรำลึกเล่าถึงความปลาบปลื้มปิติ ครั้งหนึ่งในชีวิตได้นำความรู้ความสามารถที่สืบทอดมาจากพ่อแม่ ถวายผ้าไหมทอมือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อประมาณปี 2542 โดยได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดเมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม และทรงตรัสว่า "สวยงามมาก" ยังอยู่ในความทรงจำมาถึงทุกวันนี้
ครูวงเดือนกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสทอผ้าไหมพื้นเมือง ร่วมประกวดผ้าไหมไทย จนได้รับรางวัลพระราชทาน เมื่อปี 2543 เป็นรางวัลชนะเลิศ และรางวัลรองชนะเลิศ ผ้าไหมสวยงาม พร้อมได้รับเหรียญทองคำพระราชทาน เป็นรูปคู่ในหลวงรัชกาลที่ 9 กับสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นเหรียญทองคำ น้ำหนัก 1 บาท รวมถึงสร้อยทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 4 บาท เงินสดอีก 50,000 บาท นับเป็นความประทับใจ เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น นอกจากนี้ ยังได้ส่งผ้าไหมเข้าร่วมประกวด ได้รับรางวัลพระราชทานมาถึง 9 เหรียญ
มาถึงวันนี้เนื่องในวโรกาสมหามงคล อยากเชิญชวนพสกนิกรชาวไทย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยตลอดมา โดยเฉพาะได้พระราชทานก่อตั้งศูนย์ศิลปาชีพทั่วประเทศ จึงทำให้พสกนิกรในถิ่นทุรกันดาร พลิกชีวิตจากความยากจนสู่ความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งกลุ่มศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้าน อ.นาหว้า เป็นกลุ่มทอผ้าไหมแห่งแรกของ จ.นครพนม ในมูลนิธิศิลปาชีพ ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาถึงปัจจุบัน จึงขอเป็นตัวแทนพสกนิกร ร่วมน้อมใจถวายพระพรชัยมงคลให้พระองค์มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน มีสุขภาพพระพลานามัยแข็งแรง
สำคัญที่สุดในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา เหล่าสมาชิก กลุ่มศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้าน อ.นาหว้า ซึ่งเป็นกลุ่มทอผ้าไหมแห่งแรกในมูลนิธิศิลปาชีพ น้อมใจทอผ้าไหมถือว่ายาวที่สุดในโลก เป็นความยาว 90 เมตร เป็นลายสีฟ้ามงคล เพื่อนำไปถวายน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในเดือนมหามงคลสิงหาคม 2565 นี้ โดยได้มีการทอถวายต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ตามวโรกาสมหามงคลต่างๆ ถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของพสกนิกรชาว อ.นาหว้า จ.นครพนม - 003