จากที่แก๊สหุงต้มมีราคาแพง ทำให้หลายครอบครัว ต้องปรับตัว หันมาใช้ถ่าน ในการทำอาหาร ในครัวเรือนแทน เนื่องจากราคาถูก ประหยัดค่าใช้จ่าย แถมได้รสชาติในการปรุงอาหาร จากการใช้เตาถ่านแบบอิ่มอร่อยอีกด้วย
นายยอด ทองลา มีอาชีพทำนาปลูกข้าว แห่ง บ้านหนองชาด ต.นาจิก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ และ ช่วงว่างทำนา ก็จะเก็บเศษไม้ มาเผา เป็นถ่าน บรรจุกระสอบ ขายให้กับพ่อค้า เป็นประจำ เพื่อเป็นการเสริมรายได้ ประกอบกับ แก๊สหุงต้ม มีราคาแพง ความต้องการในการใช้ถ่านทำอาหารจึงเพิ่มขึ้น
นายยอด ทองลา อายุ 52 ปี บ้านหนองชาด ต.นาจิก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ขณะกำลังนำถ่านที่เผาเสร็จบรรจุกระสอบเพื่อใช้ในครัวเรือน และ แบ่งขายให้กับพ่อค้าเล่าว่า สมัยเป็นเด็ก ช่วงว่างทำนาปลูกข้าว เห็นบิดา เผาถ่าน ใช้หุงต้มอาหารในครัวเรือน เป็นประจำ และ เคยติดตาม บิดา ไปหาเก็บเศษไม้ จากต้นไม้ที่โค่นล้ม ตามหัวไร่ปลายนา หรือ ไม่ก็ป่าในดอนปู่ตา ทุกวัน ได้ช่วยบิดา เก็บเศษไม้ใส่รถเข็นจนเต็ม บรรทุกใส่รถเข็ญ ด้วยระยะทาง 1-2 กิโลเมตร แล้วนำมากองไว้ ต่อมา กำหนดบริเวณพื้นที่ว่างเปล่า เพื่อทำเป็นเตาเผาถ่าน หรือ อุโมงค์เผาถ่าน โดยการปรับพื้นดินให้พอเหมาะ ตามความต้องการ จากนั้นเริ่มต้น ขุดหลุม ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ลึก 1 เมตร ต่อมา นำเศษไม้ใส่ลงไปจนเต็ม จากนั้น นำดินเหนียวปั้นเป็นอุโมงค์ครอบให้มิดชิด ไม่ให้อากาศเข้าออกได้ และเจาะเป็นรูระบายอากาศ 1 จุด ส่วนด้านหลังทำเป็นที่จุดไฟ เพื่อให้ควันไฟรมเผาเศษไม้ ใช้เวลาประมาณ 10 วัน เศษไม้ที่ถูกควันไฟรมก็จะกลายเป็นถ่าน ช่วงนี้ จะต้องรดน้ำ จนถ่านเย็น ก็จะนำมาบรรจุกระสอบ ขนาด 50 กิโลกรัม เก็บไว้ เพื่อนำไปหุงต้ม ในครัวเรือน โดยไม่ต้องพึ่งพาแก๊สหุงต้มเลย และกระสอบถ่านส่วนหนึ่งจะแบ่งขายให้พ่อค้า ซึ่งทุก 10 วันจะมีพ่อค้ามาซื้อถึงที่นี่ กระสอบละ 130 บาท ได้เงิน 1,000 – 1,500 บาท/ครั้ง ก็จะเก็บไว้เป็นทุนทำนาปลูกข้าว ซึ่งพ่อค้าจะขายต่อในราคากระสอบละ 150 บาท และแม่ค้า ก็จะแบ่งถ่านใส่ถุง ขายในราคาถุงละ 45 บาท ส่วนเศษไม้ที่เหลือ จะเก็บไว้ ทำฟืน ก่อไฟผิงในช่วงฤดูหนาวต่อไป ซึ่งได้ซึมซับเรียนรู้กับบิดาทุกวัน
นายยอด ทองลา ชาวนาแห่ง บ้านหนองชาด ซึ่งนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้าน คือ เผาถ่าน มาใช้ประโยชน์ กล่าวว่า ประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าวมาตั้งแต่พ่อแม่ เรียกว่า นาปี และมีที่นามรดก จำนวน 26 ไร่ ซึ่งปลูกข้าวทั้งหมด ถึงฝนจะดี หรือ ฝนตกไม่ดี ก็ก้มหน้าก้มตาทำนาปลูกข้าว เป็นประจำทุกปี ส่วนปีที่ผ่านมา ฝนตกดีมาก แต่ฝนหมดเร็ว ทำให้ผลผลิตข้าวได้ไม่เต็มที่ ขายข้าวพอได้เงินบ้าง โดยไม่ขาดทุน
นายยอด ทองลา ผู้อนุรักษ์ธรรมชาติ รักสิ่งแวดล้อมกล่าวต่อไปว่า เป็นคนรักธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมาก จึงมีการอนุรักษ์ ป่าไม้ ด้วยการปลูกป่าบริเวณที่นา ซึ่งว่างเปล่า ตั้งใจจะปลูกป่าให้มีมากเต็มพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมา มีการปลูกป่าหลากหลายพันธุ์ไม้ เช่น ประดู่ ปลูกตามคันนา มะม่วงหิมะพาน จำนวน 100 ต้น พยุง ประมาณ 20 ต้น และต้นยางนาจำนวนหนึ่ง ซึ่งทุกวันนี้ มีการปลูกพันธุ์ไม้หายากอย่างต่อเนื่อง เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และลดโลกร้อนอีกด้วย.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี