เป็นเวลา 130 ปีแล้วนับจากปี 2435 ที่ เจสซี วิลฟอร์ด เรโน (Jesse Wilford Reno) นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ได้จดสิทธิบัตรสิ่งที่ต่อมาจะถูกเรียกว่า “บันไดเลื่อน (Escalator)” และเริ่มก่อสร้างให้ใช้งานกันในปี 2439 ณ บริเวณด้านข้างของท่าเรือโอลด์ ไอรอน (Old Iron) ย่านโคนีย์ ไอส์แลนด์ (Coney Island)เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่ง กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Records) ได้รับรองให้สิ่งประดิษฐ์ของ เรโน เป็นบันไดเลื่อนที่ใช้งานได้จริงแห่งแรกของโลก แม้จะมีนักประดิษฐ์หลายคนจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์แนวเดียวกันไว้ก่อนหน้าก็ตาม
สำหรับประเทศไทย คนไทยได้สัมผัสบันไดเลื่อนกันเป็นครั้งแรกในปี 2507 ในการเปิดตัว “ห้างไทยไดมารู” ซึ่งห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ยังเป็นห้างแห่งแรกที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศด้วย ก่อนที่บันไดเลื่อนจะกลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกคู่ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และระบบสาธารณูปโภคอย่าง “สถานีรถไฟฟ้า” ที่เพิ่งจะมีข่าวเกิดอุบัติเหตุไปเมื่อช่วงกลางเดือน ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ สุพรรณ ทิพย์ทิพากร หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง อุบัติเหตุบันไดเลื่อนที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นเกิดฝนตก ประกอบกับบริเวณดังกล่าวมีการจัดงานคอนเสิร์ต ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลบฝน แย่งกันขึ้นบันไดเลื่อนจนออกันหนาแน่นด้านบนของบันไดเลื่อนตรงชานชาลา ไม่มีการเคลื่อนตัว แต่บันไดเลื่อนยังคงทำงานอยู่ ดันคนจากข้างล่างขึ้นไปอีกจนทำให้มีคนเสียหลัก ล้มจากด้านบนเป็นโดมิโน่ทับกันลงมาได้รับบาดเจ็บนับสิบราย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจารย์สุพรรณแสดงความเป็นห่วงบันไดเลื่อนอีกกว่า 40,000 เครื่อง ที่ใช้งานอยู่ทั่วประเทศไทย ซึ่งบันไดเลื่อนสมัยใหม่ในไทยจะมีระบบเพื่อความปลอดภัยตามข้อกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของระบบบันไดเลื่อนและทางเลื่อนอัตโนมัติ พ.ศ.2565 ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งพัฒนามาจากมาตรฐานยุโรป EN 115-1:2017 Safety of Escalators and Moving Walks
โดยจะมีเซ็นเซอร์ (Sensor) อยู่ 15 ตำแหน่ง และปุ่มกดหยุดด้วยมือฉุกเฉินอยู่ แต่สำหรับบันไดเลื่อนสาธารณะที่ใช้ขนส่งมวลชนที่สถานีรถไฟฟ้า BTS นั้น ควรจะมีระบบความปลอดภัยที่มากกว่าบันไดเลื่อนที่ใช้งานในสถานที่ทั่วไป เช่นตามโรงแรม เนื่องจากในแต่ละวัน มีผู้ใช้รถไฟฟ้าทั้งระบบประมาณ 800,000-900,000 คน ชั่วโมงบริการยาวนานและมีความแออัดมากกว่า
“ทาง BTS ควรมีเจ้าหน้าที่ของสถานีคอยสังเกต ในช่วงที่มีคนใช้บริการจำนวนมากเกินความปลอดภัย ต้องมีการจัดการกั้นไม่ให้คนขึ้นมาเพิ่มจากด้านล่าง และจัดคิวให้คนทยอยขึ้น-ลง พัฒนาเสริมระบบความปลอดภัยมีอุปกรณ์ตรวจจับแบบอัตโนมัติ (Sensor) ให้บันไดเลื่อนหยุดการทำงานเมื่อมีคนหยุดยืนออกันที่ด้านบน ไม่ให้ดันคนขึ้นไปเพิ่ม
และอาจเสริมด้วยเทคโนโลยี IoT (อินเตอร์เนตของสรรพสิ่ง) เพื่อแจ้งเตือนเหตุไปยังศูนย์ควบคุมแบบ Real-time และ AI (ปัญญาประดิษฐ์) เพื่อจำแนกอุบัติเหตุ, การหกล้ม (Real-time Fall Detection) ของคนบนบันไดเลื่อนเพื่อสั่งการหยุดการทำงานของบันไดเลื่อนได้ทันท่วงที ในฮ่องกงยังมีการใช้ AI เพื่อทำนายคาดการซ่อมแซมบันไดเลื่อนก่อนที่จะเกิดเหตุชำรุดขึ้นจริงอีกด้วย” อาจารย์สุพรรณ กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ศิรดล ศิริธร ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมและประธานหลักสูตรขนส่งทางราง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “แม้หลักการออกแบบการพัฒนาที่ดินรอบสถานีขนส่งมวลชน คือจะต้องวางตำแหน่งสถานีให้ใกล้กับแหล่งชุมชนและแหล่งกิจกรรมเพื่อให้ผู้เดินทางเดินถึงได้ง่าย แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับแหล่งกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการเดินทางจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ” เช่น สนามกีฬา โรงละคร หรือสถานที่จัดคอนเสิร์ต
ซึ่งหลายประเทศยุโรปซึ่งเข้มงวดในความปลอดภัยมักจะวางตำแหน่งสถานีไว้ไกลจากแหล่งกำเนิดการเดินทางใหญ่ๆ ราว 1-2 กิโลเมตร ดังตัวอย่าง อัลลิอันซ์ อารีน่า สนามฟุตบอลใหญ่ที่สุดในเยอรมนี เมืองมิวนิค ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า เฟิร์ทมานนิ่ง (Fröttmaning) 1.1 กม. โรงละครรอยัล อัลเบิร์ต ฮอล ในลอนดอน ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเซาท์เคนซิงตัน (South Kensington) 1 กม. ทั้งนี้เพื่อให้ฝูงชนขนาดใหญ่ค่อยๆ กระจายความหนาแน่นลงขณะที่เดินมาสู่สถานี ทำให้ชานชาลาและพื้นที่อื่นๆ ของสถานีสามารถรองรับผู้โดยสารได้
“บ้านเรามีสถานีรถไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้าและสนามกีฬาอยู่บ้าง แต่ที่ผ่านมายังไม่มีปัญหารุนแรงมากไปกว่าสภาพผู้โดยสารคับคั่งในบางช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ กรณีเหตุที่สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ จึงควรถือเป็นกรณีศึกษา อีกไม่นานเราจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพู ซึ่งใกล้แล้วเสร็จที่เชื่อมต่อกับ ราชมังคลากีฬาสถาน จุคนได้ 50,000-80,000 คน และ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม อิมแพ็ค จุ 15,000 คน
การย้ายคงเป็นไปไม่ได้ แต่ยังมีมาตรการการบริหารจัดการเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ ที่สามารถทำได้ เช่น การจัดกิจกรรมหลังจากจบคอนเสิร์ต หรือหลังแมทช์การแข่งขันซึ่งจะสามารถดึงดูดคนส่วนหนึ่งให้เข้าสถานีรถไฟฟ้าช้าลง การจัดระเบียบหรือการสร้างแถวคอยก่อนเข้าสู่สถานี ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ได้”อาจารย์ศิรดล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี