หนุ่มวัย 36 ปีชาวตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เผยแพร่คลิปเหตุการณ์คุณแม่วัย 62 ปีถูกแมววิ่งชนขาอย่างแรงจนล้มก้นจ้ำเบ้า โชคดีที่ศีรษะไม่กระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บ เผยสาเหตุที่โพสต์ เพื่อเตือนภัยใกล้ตัวให้ผู้สูงอายุที่มีสัตว์เลี้ยงในบ้านเพิ่มความระมัดระวัง เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้รับอันตรายตลอดเวลา
วันที่ 2 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟสบุ๊ก ชื่อ กันตพัฒน์ ตรีศาสตร์ ได้โพสต์คลิปวีดีโอเตือนภัยที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน โดยเป็นภาพเหตุการณ์หญิงคนหนึ่ง เดินถือถังน้ำและขันตักน้ำเดินเข้ามาบริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่จะไปหยุดอยู่ใกล้กับตุ่มน้ำและวางถังน้ำ แล้วกำลังจะใช้ขันตักน้ำล้างเท้า จังหวะนั้นมีแมวสีขาวตัวหนึ่ง วิ่งด้วยความเร็วมาจากทางหน้าประตูบ้าน แล้วพุ่งชนเข้าที่ขาข้างซ้ายของผู้หญิงคนนั้นอย่างแรง ส่งผลให้ผู้หญิงคนนั้นร้องขึ้นด้วยความตกใจและล้มทั้งยืนก้นกระแทกพื้น โชคดีศีรษะไม่กระแทกพื้น จากนั้นมีภาพผู้หญิงอีกคนและผู้ชายเดินเข้าไปถามอาการ
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อและลงพื้นที่ไปสอบถามกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไปที่ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 416 บ้านตูม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้พบนางอนงค์ ตรีศาสตร์ อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านและเป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปถูกแมววิ่งชนและล้มทั้งยืนดังกล่าว
นางอนงค์ กล่าวว่า ผู้ที่โพสต์คลิปดังกล่าวคือนายกันตพัฒน์ลูกชาย วันนี้ไปธุระที่ต่างจังหวัด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ เนื่องจากมีแมวตัวหนึ่งชื่อ “อีเป้า” สีขาวแกมเหลือง เดิมเป็นแมวจรจัด เข้ามาอยู่ในบ้านได้ประมาณ 1 เดือน ตนสงสารจึงให้อาหาร แมวอีเป้าจึงคุ้นเคยกับตน และช่วงเช้า-เย็น มักจะมาเคลียคลออยู่ที่บริเวณขาของตนตลอดเวลา ส่วนช่วงเวลากลางวันไม่รู้หายไปไหน
นางอนงค์ กล่าวอีกว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้นเป็นเวลาเช้า ประมาณ 06.42 น.ตนใช้ถังตักน้ำรดไม้ดอกไม้ประดับตามแนวรั้วบ้านตามปกติ พอรดน้ำต้นไม้เสร็จก็จะนำถังน้ำและขันไปเก็บไว้ข้างตุ่มน้ำ และจะล้างเท้าก่อนเข้าบ้าน จู่ๆก็เหมือนมีวัตถุนุ่มๆบางอย่างพุ่งเข้ามาชนที่บริเวณเหนือส้นเท้าข้างซ้าย ลักษณะคล้ายถูกเตะตัดขาทีเผลอ ทำให้ตนที่ไม่ทันระวังตัวเสียหลักก้นจ้ำเบ้า หรือที่เรียกว่าล้มทั้งยืน โชคดีที่มีสติและคล่องตัว เนื่องจากออกกำลังกายบ่อย ด้วยการปั่นจักรยานและท่ากายบริหาร จึงใช้มือทั้ง 2 ข้างยันตัวเองกับพื้นไว้ทัน ก่อนที่จะบาดเจ็บมากกว่านี้ แต่ก็ทำให้รู้สึกเคล็ดที่บริเวณข้อมือและข้อศอกนิดหน่อย
“หลังจากเกิดเหตุ แมวอีเป้าก็หายตัวไปเลยไม่กลับมาคลอเคลียขาตนอีก มันคงจะสำนึกผิดก็ได้ที่ทำให้ตนได้รับอุบัติเหตุ ทีแรกตนก็นึกโกรธมันเหมือนกัน หากพบตัวจะใช้แส้ตีให้เจ็บ แต่พอนึกได้ว่ามันคงจะไม่เจตนา คงจะวิ่งมาเคลียคลอขาตนด้วยความรัก แต่มันคงจะดีใจเกินไปจึงวิ่งมาด้วยความเร็วและชนแรงๆอย่างนั้น อีกอย่างตอนนี้แมวอีเป้ากำลังท้องโต ใกล้คลอด ก็จึงให้อภัยและไม่โกรธมันแล้ว ส่วนสาเหตุที่ลูกชายโพสต์นั้น เพื่อเตือนภัยไปถึงผู้สูงอายุ ที่มีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว ที่ชอบมาคลอเคลียบริเวณขาให้เพิ่มความระมัดระวัง ที่อาจจะเกิดสะดุดเสียหลักหกล้มและบาดเจ็บได้ง่าย” นางอนงค์กล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี