วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปแนวหน้า : ‘กสม.’บทบาท2ทศวรรษ  เหลียวหลังแลหน้าสู่อนาคต

สกู๊ปแนวหน้า : ‘กสม.’บทบาท2ทศวรรษ เหลียวหลังแลหน้าสู่อนาคต

วันเสาร์ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : สกู๊ปแนวหน้า
  •  

สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จัดงาน “สมัชชาสิทธิมนุษยชน : เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ กสม.” ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เมื่อช่วงต้นเดือนก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมของงานคือการเปิดตัวหนังสือ และอภิปรายเรื่อง “เหลียวหลังแลหน้า2 ทศวรรษ กสม. : ความก้าวหน้าของพันธกิจด้านสิทธิมนุษยชน” โดยตัวแทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งแต่ชุดแรกจนถึงชุดปัจจุบันซึ่งเป็นชุดที่ 4

สุนี ไชยรส อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ชุดที่ 1) กล่าวว่า กสม. เกิดขึ้น ดำรงอยู่และทำงานได้ก็ด้วยพลังจากประชาชน โดย กสม. เป็นองค์กรอิสระที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 แต่กว่าจะได้เกิดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เรียกว่ามีข้อถกเถียงอย่างมากว่าสมควรให้เกิดขึ้นหรือไม่เมื่อเทียบกับองค์กรอิสระอื่นๆ แต่ด้วยอาศัยแรงสนับสนุนจากประชาชนจึงทำให้ กสม. ได้รับการรับรองเป็นองค์กรตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ


ต่อมาในสมัยรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ในช่วงแรกของการร่างรัฐธรรมนูญนั้นมีความพยายามจะให้ยุบเลิก กสม. หรือนำ กสม. ไปควบรวมกับผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่ก็ได้ประชาชนช่วยกันส่งเสียงเรียกร้อง ทำให้ กสม. ยังคงดำรงอยู่ล่าสุดกับรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ซึ่งเป็นฉบับปัจจุบัน ในช่วงกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ก็ยังมีความพยายามยุบหรือควบรวม กสม. ไม่ต่างจากสมัยร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550

“จุดท้าทายจุดแรกคือ อีกไม่นานจะมีการแก้รัฐธรรมนูญเพราะรัฐธรรมนูญ 2560 เองก็มีปัญหาหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องของกรรมการสิทธิด้วย เตรียม 2 อย่าง 1.ก็คือแก้ให้ดีขึ้น วันนี้รัฐธรรมนูญ 2560 ก่อให้เกิดปัญหาหลายเรื่องกับกรรมการสิทธิ 2.แก้ให้แย่ลงไปอีก เพราะฉะนั้นกระบวนการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญฉบับต่อไปนี้ มันมีทั้งบวกและลบ สู้ให้ดีขึ้นและไม่ให้แย่ลงไปกว่าเดิมที่แย่อยู่ในปัจจุบัน”สุนี กล่าว

ศ.อมรา พงศาพิชญ์ อดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ชุดที่ 2) กล่าวว่า กสม. ชุดที่ 2เข้าปฏิบัติหน้าที่ในปี 2552 ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ซึ่งมีการแก้ไขรายละเอียดที่เกี่ยวกับ กสม. แตกต่างไปจากเดิม ทำให้เมื่อไปประชุมในระดับสากลก็ถูกตั้งข้อสังเกตตั้งแต่กระบวนการสรรหากรรมการฯ ที่ต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 จึงเป็นคำถามว่าแล้วจะทำงานกับภาคประชาสังคม (NGO) ได้อย่างไร รวมถึงถูกจับตามองเพื่อนำไปสู่การลดระดับชั้นของ กสม. ไทยลง โดยมีข้อทักท้วงหลายเรื่อง อาทิ

“ความเป็นอิสระ” เช่น สถานะของเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน ในยุคแรกนั้นอยู่ในประเภทข้าราชการรัฐสภา แต่ต่อมา กสม. ก็สามารถคัดเลือกเจ้าหน้าที่ได้เอง รวมถึง
งบประมาณและสถานที่ก็มีความเป็นอิสระ “ความหลากหลาย”คณะกรรมการควรประกอบด้วยบุคคลจากหลากหลายภาคส่วน เช่น ภูมิภาค อาชีพ ดังนั้น ในเวลาต่อมา จึงมีการเขียนไว้ในกฎหมายว่าคณะกรรมการมาจากบุคคลที่หลากหลายใน 5 ด้าน

“กระบวนการสรรหา” สมัยรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ใช้กรรมการสรรหา กสม. ชุดเดียวกับที่สรรหาคณะกรรมการองค์กรอิสระอื่นๆ เพื่อความรวดเร็ว เนื่องจากยุครัฐธรรมนูญ2540 มีการตั้งกรรมการสรรหา กสม. และกว่าจะได้คณะกรรมการ กสม. จนครบชุดใช้เวลายาวนานเป็นปี แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้วิธีแบบรัฐธรรมนูญ 2550 ก็เกิดผลกระทบคือสัดส่วนกรรมการ กสม. มีอดีตข้าราชการเข้ามามาก

“การจัดทำรายงานล่าช้า” ซึ่ง กสม. จะจัดทำรายงาน2 ฉบับ คือรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน และรายงานผลการปฏิบัติการ “มีแต่หน่วยงานส่วนกลาง” กสม.ชุดที่ 2 ได้เริ่มตั้งสาขาของ กสม. ในพื้นที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) ต่อใน กสม.ชุดที่ 3 จึงได้ตั้งสาขาเพิ่มเติม ปัจจุบันมีรวมทั้งสิ้น 12 สาขาทั่วประเทศ “กลไกคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจสอบปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน” เช่น การถูกฟ้องร้อง ซึ่งมีข้อเรียกร้องให้เขียนไว้ในกฎหมาย

“ตอนเป็นกรรมการสิทธิแล้วต้องไปรายงาน สว. สส. เราซึ่งรวมถึงสำนักงานด้วย ส่งคำร้องไปขอแก้กฎหมาย เพราะกฎหมายเรามันปี 2542 เมื่อเรามีรัฐธรรมนูญ 2550 เราก็จะต้องแก้กฎหมายเราให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ 2550 คิวของเราขอทุกงวดที่เขาประชุม คิวของเราเข้าไปเป็นคิวที่ 3 แต่ถูกกดไว้แซงมาตลอด อยู่ตรงนั้น 6 ปีกว่า ที่ขอไปแต่ละครั้งถูกแซงหมด เราขอไปทุกครั้งแล้วก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คือเรื่องของการถูกลดเกรด สรุปที่ค้างคือเรื่องกระบวนการสรรหาและการแก้กฎหมายของเราให้สอดคล้อง” ศ.อมรา กล่าว

ประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ชุดที่ 3) กล่าวว่า กสม. ชุดที่ 3 อยู่ในยุคที่สถานการณ์หลากหลายมาก ทั้งการที่มีกรรมการถึง 11 คน แบ่งเป็นกรรมการจริง 7 คน และผู้ปฏิบัติหน้าที่กรรมการชั่วคราวอีก 4 คน อีกทั้งยังอยู่ในช่วงที่ กสม. ไทย ถูกประชาคมนานาชาติลดชั้นลงจาก A เป็น B ต่อมายังมีการเปลี่ยนไปใช้รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ทำให้ต้องร่างกฎหมายของ กสม. ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ฉบับใหม่ ในช่วงดังกล่าวมีความพยายามผลักดันให้แก้ปัญหาที่ทำให้ กสม. ไทยถูกลดสถานะ

เช่น ต้องเขียนในกฎหมายให้ชัดเจนเรื่องนิยามของคำว่าภาคประชาสังคม ที่เข้ามาร่วมเป็นกรรมการสรรหา กสม. รวมถึงกลไกคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจสอบปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน อันเป็นสิ่งที่ กสม. ทั่วโลกมี ซึ่งหากดำเนินการทั้ง 2 เรื่องนี้ได้ เชื่อว่า กสม. ไทย จะกลับขึ้นไปอยู่ระดับ A อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม กสม. ชุดที่ 3 ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไปหลังประกาศใช้ พ.ร.ป.กสม. ฉบับ 2560 จึงต้องให้ กสม. ชุดที่ 4 ดำเนินการต่อ

“รัฐธรรมนูญ 2560 มีทั้งข้อดีและข้อด้อย ข้อดีคือเขายกสถานะ กสม. เป็นองค์กรอิสระ สิ่งหนึ่งที่เรามีศักดิ์ศรีเท่ากับอีก 4 องค์กร แล้วเราสามารถเสนอกฎหมายเองได้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญของ กสม. มีข้อดีคือมาตรา 5 ถึงแม้สำนักงานเรายังเป็นราชการอยู่ แต่เราไม่จำเป็นต้องบริหารตามราชการ มาตรา 5 เขียนช่องให้เราสามารถออกระเบียบเองได้ เพราะกรรมการสิทธิเราไม่ได้ทำงานเหมือนองค์กรอิสระอื่นๆ อันนี้คือจุดดี และจุดดีสำคัญคือทำให้เราได้เงื่อนไขเลื่อนสถานะ A คืนกลับมา

แต่จุดด้อย สิ่งหนึ่งที่เขาบอกว่าอยากให้ A กสม. แต่ให้ไม่ได้ เพราะไปเขียนกฎหมาย มาตรา 247 (4) มาตรา 26 (4) ไปเขียนหน้าที่ที่ไม่มี กสม.ทั่วโลกเขามีกัน คือทำหน้าที่ชี้แจงในกรณีที่มีรายงานที่ไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรม เราพยายามบอกแล้วอย่าเขียนลงไป เราทำอยู่แล้ว ปีหนึ่งเราไปรายงานสถานการณ์สิทธิ ถ้าสถานการณ์สิทธิอะไรที่มันไม่ถูกต้องแล้วมีใครมาว่าประเทศเรา คนที่ต้องทำหน้าที่ชี้แจงทันทีคือรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพก็ชี้แจงได้ แต่ กสม. ท่านก็มาดูรายงานประจำปี ทำหนังสือสอบถามมาที่ กสม. ก็จะยืนยัน แต่อย่าให้ กสม. ไปชนเลย” ประกายรัตน์ กล่าว

พรประไพ กาญจนรินทร์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ชุดที่ 4-ชุดปัจจุบัน) กล่าวว่า สำหรับชุดที่ 4 อยู่ในช่วงที่สังคมเริ่มรับรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนมากขึ้น แต่ก็โชคดีที่ กสม. ชุดนี้มีกรรมการมาจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้าน จึงมั่นใจว่าจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำงานใน 2 ส่วนควบคู่กันไปคือ 1.แก้ไขปัญหาตามที่มีเรื่องร้องเรียนเป็นรายกรณี กับ 2.จัดทำข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงระบบในภาพรวม ร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งนี้ปัจจุบันภาคประชาสังคมเข้มแข็งขึ้นมาก ขณะเดียวกันภาครัฐก็ลดความระแวงลงและเข้าใจ กสม. มากขึ้น

“ถ้าถามว่ามีความท้าทายมากไหม? มากมายมหาศาลตัวช่วยที่จะเอามาช่วยก็คือการมีไอที มีการเสริมสร้างสมรรถนะเจ้าหน้าที่ของเราด้วย เพราะอันนี้เป็นด่านหน้าที่เราจะไปช่วยรับรู้เรื่องราวความเดือดร้อนของพี่น้องเพื่อนคนไทยในกลุ่มต่างๆ ต้องมีการสร้างเครือข่าย กสม. แต่ละท่านก็จะมีเครือข่ายของตัวเองที่จะช่วยในการขับเคลื่อนได้ผลตามที่ต้องการ แต่มันก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นเพราะเราเพิ่งมาได้ปีเดียว” พรประไพ กล่าว

SCOOP@NAEWNA.COM

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’ สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย
  • สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’ สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง
  • สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  •  

Breaking News

‘ตม.อุบลราชธานี’จับสาวเขมรอยู่เกินอนุญาต-ปรับเจ้าบ้านไม่แจ้งที่พักต่างชาติ

แค่วันแรกก็ละเมิดแล้ว! 'หมอวรงค์'ฉะ'ฮุนเซน'แพร่ข้อมูลเท็จ-ข่าวปลอม

เปิดเส้นทางชีวิต 'หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ' จากผู้ชายธรรมดา สู่นักสื่อสารกับโลกหลังความตาย

วิกฤตประชากร! ชาวญี่ปุ่นลดลงกว่า 9 แสนคนในปี 2024

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved