“เกษตรคนเมือง” ไม่ได้มีแต่ในบ้านพักอาศัย บนดาดฟ้า และ พื้นที่เล็กๆบนคอนโดมิเนียมเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการขยายความรู้เกษตรเข้าไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อปลูกฝังความรู้ในการทำเกษตรอินทรีย์ให้กับนักศึกษา
“ผศ.ดร.มาโนช ชุ่มเมืองปัก” หัวหน้าหลักสูตรภาพยนตร์ และ สื่อดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผู้ริเริ่มโครงการ “มากินผักที่มอเรามั้ย” ซึ่งต้องการให้โครงการดังกล่าว “ต่อยอด” งานด้านวิชาการให้กับนักศึกษา ทั้งในคณะนิเทศศาสตร์ , คณะวิศวกรรมศาสตร์ , คณะบริหารธุรกิจ และ ฯ เพราะงานด้านเกษตรนั้นนับเป็นต้นน้ำ ที่จะเชื่อมโยงกับงานด้านอื่นๆได้ เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์อาจมาต่อยอดโดยวางเรื่องระบบน้ำ ส่วนคณะบริหารธุรกิจอาจมาต่อยอดด้วยการนำไปวางแผนนวัตกรรมการทำธุรกิจ และ การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับธุรกิจ เป็นต้น
อาจารย์มาโนชเล่าว่า เริ่มต้นโครงการนี้ด้วยกลุ่มอาจารย์ในคณะนิเทศศาสตร์ 2-3 คน ที่มองเห็นว่า เรื่องเกษตรยั่งยืน และ เกษตรสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่จะไปได้อีกไกล ตามข้อกำหนดของสหประชาชาติ (UN) มหาวิทยาลัยจึงให้งบประมาณเริ่มต้นในการทำโครงการนี้ 20,000-30,000 บาท ซึ่งมาเป็นระยะเวลา 6 เดือนแล้ว นับแต่ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคมถึงกันยายนนี้
“ผมเริ่มจากทำแปลงปลูกผักเพียง 2 แปลง กว้างคูณยาวประมาณ 2 คูณ 1.30 เมตร และ นำยางรถยนต์ที่ไม่ใช้แล้วมาซ้อนๆกันเพื่อมาทำแปลงปลูกผัก 4-5 วง โดยเน้นปลูกผักสลัด เคล และ ผักโขม ซึ่งผลผลิตที่ได้ส่วนหนึ่ง นำแจกจ่ายให้กับแม่บ้าน และ รปภ.ของมหาวิทยาลัย ขณะที่ผลผลิตอีกนส่วนหนึ่งจำหน่ายให้กับบุคลากรในมหาวิทยาลัย และ ผู้ปกครองของนักศึกษา ทำให้ตอนนี้มีจำนวนผักไม่พอที่จะจำหน่าย เพราะประกอบกับเข้าช่วงฤดูฝน ซึ่งกำลังมองว่าอาจจะต้องมาปลูกผักที่มีความแข็งแรงทนต่อสภาพอากาศ เช่น แตงกวา , คะน้า และ ผักสวนครัวต่างๆ” อาจารย์มาโนช เล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเอง
ขณะที่ “สหประชาชาติ” (UN) ดำเนินการส่งเสริมการลงทุนในวิสาหกิจคาร์บอนต่ำ โดยสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้ประยุกต์ใช้แนวปฏิบัติด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ในกรอบงบประมาณด้านสภาพอากาศ (climate budgeting frameworks) ส่งผลให้ปริมาณการปล่อยคาร์บอนโดยรวมลดลง 14,000 ตัน ขยะมูลฝอยปริมาณกว่า 210,000 ตันต่อปี ถูกใช้ไปผลิตไฟฟ้าได้ 266,000 เมกะวัตต์)
อาจารย์มาโนชยังเล่าอีกว่า ตั้งใจจะทำให้โครงการ “มากินผักที่มอเรามั๊ย” เป็นโมเดลการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงให้เห็นความสำคัญของการจัดการเศษขยะที่มาจากอาหาร และ นำมากลับใช้ใหม่ หรือ รีไซเคิล (Recycle) โดยนำขยะของร้านอาหารที่ใกล้กับคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์มาหมักเป็นปุ๋ย เพื่อนำมาใช้กับแปลงปลูกผัก และ ปัจจุบันอาจารย์มาโนชนำโมเดลแปลงปลูกผักนี้มาทำบอร์ดเกม เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจเรื่องการปลูกผักปลอดสารเคมีผ่านการเล่นบอร์ดเกม
สำหรับอาจารย์มาโนชนั้นมีดีกรีจบปริญญาด้วยทุนของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยลา ทรูบ ( La Trobe University) เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย /และ จบปริญญาตรีและโท คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจารย์มาโนชพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการไปเรียนรู้การจัดการขยะกับบางกอก รูฟท๊อป ฟาร์มมิ่ง (bangkokrooftopfarming) อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีโมเดลในการจัดการขยะที่ใช้ในห้างเซ็นเตอร์วัน นำมารีไซเคิลเป็นปุ๋ยและนำมาปลูกผักสลัดต่างๆ เพื่อจำหน่ายต่อ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อจัดการขยะโดยการนำขยะในแต่ละวันกลับมาหมุนเวียนใช้ต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากนั้นอาจารย์มาโนชได้มีโอกาสไปเป็นอาสาสมัคร ที่ชุมชนนิเวศสันติวนา ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ทำให้อาจารย์มาโนชนำความรู้ด้านเกษตรคนเมืองมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการทำโครงการ “มากินผักที่มอเรามั้ย” ได้อย่างลงตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี