เด็กนิเทศฯ DPU 'ไม่หยุดพัฒนา' ตั้งเป้าหมายปีใหม่ 2568 ยกระดับทักษะ เพิ่มโอกาสได้งาน เสริมศักยภาพความสำเร็จที่เหนือกว่าเดิม
ด้วยการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ที่มุ่งเน้นเติมเต็มทุกโอกาสนักศึกษาให้เติบโตในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ ทักษะ หรือการสร้างเครือข่าย หลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ พ.ศ. 2568 นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ จึงไม่ได้เพียงแค่เฉลิมฉลองเริ่มต้นปีด้วยการนับถอยหลัง แต่ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการตั้งเป้าหมาย (New Year's resolution) ที่ชัดเจนและพร้อมที่จะลงมือทำ อาทิ จะพัฒนาคอนเทนต์ใน Social Media ของตัวเอง จะเรียนรู้กฏหมายเบื้องต้น ฯลฯ เพื่อยกระดับทักษะ สร้างแต้มต่อในสนามการทำงานที่แข่งขัน และเสริมศักยภาพตนเองให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง รวดเร็ว ในอุตสาหกรรมบันเทิง เรามาฟังเรื่องราวและเป้าปณิธานในช่วงเริ่มต้นปีใหม่นี้ ของเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) มากความสามารถทั้ง 3 คน ซึ่งแม้จะเริ่มจากคำถามง่ายๆ อย่าง "ปีใหม่นี้ คุณตั้งเป้าหมายอะไรไว้?" แต่นั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และแรงบันดาลใจสำคัญที่จะผลักดันอนาคตให้มีชีวิตแบบชื่นมากกว่าช้ำ และดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา...
“ต้าวหยอง” จากหมอลำ สู่ นักแสดงนำโทรทัศน์-ภาพยนตร์
เริ่มกันที่คนแรกกับพระเอกหมอลำชื่อดังแห่งวงระเบียบวาทะศิลป์ “ต้าวหยอง-ยุคลเดช ปัจฉิม” ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศในตอนนี้ แต่ก็ยังมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองและสร้างอนาคตให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในปีใหม่ 2568 นี้ พระเอกหนุ่มได้ตั้งเป้าหมายเสริมศักยภาพตัวเองไว้ถึง 3 ข้อ ได้แก่
1.อยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ให้มากขึ้น เพราะในโลกของวงการบันเทิงมีการแข่งขันที่สูง การหยุดอยู่กับที่จึงเหมือนกับการถอยหลัง โดยเฉพาะด้าน “การแสดง” บทบาทใหม่ในฐานะศิลปินที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาเมื่อปี 2567 ที่ผ่าน ต้าวหยองยังทำผลงานได้ไม่ดีนัก และเพื่อให้ผู้ชมเห็นถึงพัฒนาการที่ชัดเจนขึ้น เขาจำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้จากภาควิชาการในห้องเรียนนำมาพัฒนาตนเอง เหมือนกับการฟังเสียงติชมจากแฟนเพลงที่ศิลปินเก็บมาปรับปรุงและพัฒนา
2.ปลูกบ้านให้พ่อแม่ เพื่อให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ ไม่ต้องทำงานหนัก มีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ให้ที่บ้านได้ทำ เช่น ปลูกผักปลอดสาร สำหรับนำไปขายสร้างรายได้และก็มีสุขภาพที่ดี
3.การเก็บเงินซื้อรถให้ครอบครัว สานฝันวัยเด็กและเป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิต โดยเขาเชื่อว่าการมีรถจะเป็นเหมือนการเติมพลังชีวิตให้ขับเคลื่อนก้าวไปข้างหน้า
ต้าวหยอง กล่าวด้วยความมุ่งมั่นอีกว่า เขาจะตั้งใจทำงาน ขยัน และอดทน และเชื่อว่าการทำตามแผนที่วางไว้จะทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ เพราะนอกจากการมาเรียนในคณะฯ ที่มีอุปกรณ์ครบครันและหลักสูตรที่เน้นปฏิบัติจริง ทำให้เขาได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง อาจารย์ในมหาวิทยาลัยยังมองเห็นโอกาสและเป็นนักสนับสนุนสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา
“ตอนที่ผมมาแสดงคอนเสิร์ตในงาน DPU Wonder Fest @คลองประปา ท่านอธิการบดี DPU ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ ได้เห็นศักยภาพและแนะนำให้ผมมาศึกษาที่คณะนิเทศฯ ระดับปริญญาตรี เพื่อจะได้พัฒนาตัวเองไปอีกขั้น คำนี้จุดประกายความคิดให้ผมรู้สึกว่าการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มันเป็นโอกาสที่ดีมาก แล้วพอได้ลองเรียนจริงจัง ก็ได้โอกาสดีๆ ได้บทเพิ่มขึ้น เร็วๆ นี้ก็จะมีออนแอร์เรื่อง "ไอ้หนุ่มรถไถ" รับบทเป็นตัวรองพระเอก ออกอากาศทางช่อง 8 ในวันที่ 28 มกราคม นี้ครับ”
"มาร์เวล" ตั้งเป้าสูง ไปไม่ถึงก็ได้มากกว่าเก่า
ต่อกันด้วยเรื่องราวของ “มาร์เวล-ณัฐพล พรเพชรฤกษ์” นักสร้างคอนเทนต์วัย 24 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ DPU ที่ถึงแม้จะเข้าเรียนช้ากว่าเพื่อน แต่ไอเดียเต็มไปด้วยกระบวนการคิดและฝีมือที่ดีจนสร้างชื่อและฐานแฟนคลับบนถนนออนไลน์ได้อย่างน่าทึ่ง ในปี 2568 นี้ก็เช่นกัน เขายังคงมีเป้าหมายที่แจ่มชัดในการเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จอีกเหมือนเคย โดยเริ่มที่ 1.ทำงานหนักเพื่อเก็บเงิน สำหรับเป็นทุนรอนต่อยอด โดยไม่ว่างานนั้นจะหนักแค่ไหนงานนั้นถือเป็นโอกาสที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และเขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้เต็มที่เพื่อพิสูจน์ความสามารถของตนเอง
2.ได้เกรด A ทุกวิชา เพื่อแสดงและเปรียบเทียบให้รุ่นน้องได้เห็นเป็นตัวอย่างว่า การเรียนเป็นเรื่องที่ง่ายเมื่อเทียบกับชีวิตการทำงาน และถึงต่อให้เรียนช้าแต่ก็ยังสามารถทำได้ดีถ้าตั้งใจ
3.มีแฟน เพราะความรักทำให้ชีวิตดีขึ้น เหมือนกับ "คนเก่งๆ ที่มักมีคนรักอยู่เบื้องหลัง" การมีคนรักที่ดีเขาเชื่อว่าจะช่วยให้มีกำลังใจและคอยให้คำปรึกษาในยามที่เหนื่อยล้าให้กลับมาลุกขึ้นสู้
มาร์เวล ยังได้แชร์เคล็ดลับการไปสู่เป้าหมายสามารถทำได้หลายอย่าง อาทิ การตั้งเป้าหมายให้สูงเกินจริง เพราะถึงแม้จะไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์ที่ได้จริงก็จะมีค่ามากกว่าเป้าหมายเดิม การทำงานอย่างสม่ำเสมอ และการมีความยืดหยุ่น ไม่ควรกดดันมากเกินไปเพราะจะส่งผลเสียมากกว่าดี นอกจากนี้เขายังให้ความสำคัญกับโอกาสที่ได้รับ โดยเปรียบเทียบความสำเร็จเสมือนเหรียญที่มีสองด้าน คือ ความสามารถ 50% และ โอกาส 50% ซึ่งปัจจุบันถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจในความสามารถของตนเองแล้ว แต่ก็ยังคงมองหาและสร้างโอกาสอื่นๆ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่มากขึ้นต่อไป
“สิ่งสำคัญที่ผมไม่เคยได้รับจากที่ไหนคือ ‘โอกาส’ มหาวิทยาลัยยื่นโอกาสให้ผมทั้งทุนการศึกษา และโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่คณะนิเทศฯ จัดขึ้นแทบทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นเหมือนเวทีให้ผมได้แสดงออกและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้ทำ อย่างวันนี้ได้มาออกสื่อและให้สัมภาษณ์เป็นประสบการณ์ที่ผมสนใจและช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารที่สำคัญในยุคนี้ ถ้ามีความสามารถแต่ไม่สามารถสื่อสารได้ ก็เหมือนตัดโอกาส และเป็นส่วนสำคัญในการก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้”
“ออมเล็ต” คนเก่งแพ้คนขยัน
ปิดท้ายกับอินฟลูเอนเซอร์สาว นักแสดง พิธีกรและดาว Tiktoker “ออมเล็ต-สิริยากร ธีรทองดี” นักศึกษาปี 4 คณะนิเทศศาสตร์ DPU ที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาตนเอง โดยมีคำขวัญประจำใจที่ได้มาจากคุณแม่ "คนเก่งแพ้คนขยัน" เป็นแรงผลักดันสำคัญในการตั้งเป้าหมายปีใหม่ของเธอ โดยเป้าหมายแรกคือ การผลิตคอนเทนต์ให้ดียิ่งขึ้น และต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตนเองดีกว่าเดิม นอกจากนี้ออมเล็ตยังตั้งเป้าหมายที่จะลดน้ำหนักและสร้างคอนเทนต์ด้านสุขภาพควบคู่ไปด้วย
เป้าหมายที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของออมเล็ตก็คือ “การศึกษาต่อด้านนิติศาสตร์” ซึ่งเธอได้รับแรงบันดาลใจจากการเรียนวิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิเทศศาสตร์ในมหาวิทยาลัย ทำให้เธอตระหนักถึงความสำคัญของกฎหมายในสังคม และอยากช่วยเหลือผู้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ
“ในยุคดิจิทัล AI มีบทบาทมากขึ้นกับชีวิตเรา อินฟลูเอนเซอร์ก็ต้องรู้ด้านกฎหมายจะได้เข้าใจข้อจำกัดและขอบเขตการใช้งาน ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ใคร อีกอย่างทนายบางคนหรือว่านักกฎหมายบางคนสมัยนี้ก็เหมือนขาดจริยธรรม บางคนโดนเอาเปรียบแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ หนูก็อยากตื่นมาแล้วเป็นประโยชน์ต่อ พัฒนาสังคมให้ดีขึ้น”
สำหรับแผนการเพื่อไปสู่เป้าหมายออมเล็ตเน้นย้ำถึง ความสำคัญของการมีคนคอยให้คำปรึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรึกษาพ่อแม่ ซึ่งเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนเธออย่างดี นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนที่สำคัญ โดยที่การให้โอกาสเธอในการรับทุนและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเปิดโอกาสให้เธอได้แสดงความสามารถจนกระทั่งได้เป็น TikToker ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 2.1 ล้าน ก่อนจะตามมาด้วยงานพิธีกร งานแสดง MV ซีรีส์และภาพยนตร์
นอกจากนี้ออมเล็ตยังมองว่า หลักสูตรที่เรียนมีความทันสมัยและครอบคลุม เน้นให้ปฏิบัติทดลองเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ ช่วยให้สามารถสร้างตัวตน สร้างความน่าเชื่อถือได้ด้วยตนเอง และยังพัฒนาการทำคอนเทนต์ให้ดีขึ้น โดยเธอได้ยกตัวอย่าง “คลิปเต้นในลิฟต์” ที่ได้รับความนิยม มียอดวิวหลักแสนและผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลมาจากการนำความรู้และทักษะที่ได้เรียนมาประยุกต์ใช้
“หนูเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมรอบข้างมีความสำคัญต่อความสำเร็จ การอยู่กับคนที่รักและสนับสนุนจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ที่นี้เหมือนบ้านหลังที่ 2 มีเพื่อนและอาจารย์คอยสนับสนุน ยิ่งตอนตัดสินใจเรียน อาจารย์ก็รีบหาทุนหารายละเอียดให้ หนูรู้สึกโชคดีที่ได้เรียนในมหาวิทยาลัยที่มีสังคมที่ดี และหนูจะทำให้เต็มที่กับทุกงานที่เข้ามา”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี