วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ลดเสี่ยง‘ไฟดูด’ยามฝนตก-นํ้าท่วม

ลดเสี่ยง‘ไฟดูด’ยามฝนตก-นํ้าท่วม

วันอาทิตย์ ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2565, 06.15 น.
Tag : น้ำท่วม ฝนตก ไฟดูด เสาไฟฟ้าแรงสูง
  •  

เมื่อเข้าฤดูฝนสิ่งหนึ่งที่มักหลีกเลี่ยงได้ยากคือ “น้ำท่วม” อย่างในประเทศไทยที่กรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดต้องคอยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดเพราะฝนตกทีไรก็ต้องลุ้นว่าน้ำจะท่วม (หรือผู้หลักผู้ใหญ่บางท่านก็อยากให้เรียกน้ำขังรอการระบาย) หรือไม่ เพราะท่วมทีไรก็ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุเล นอกจากนั้นแล้วยังต้องพะวงกับอันตรายที่มากับน้ำ เช่น สัตว์มีพิษ จระเข้หลุดจากฟาร์ม ไปจนถึง “ไฟดูด” ที่มีข่าวพบผู้เคราะห์ร้ายอยู่เนืองๆ

สุพรรณ ทิพย์ทิพากร หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายความหมายของถ้อยคำที่ใช้เรียกอันตรายจากไฟฟ้าซึ่งพบบ่อยๆ ในสื่อ โดย “ไฟรั่ว”กับ “ไฟดูด” หมายถึงไฟฟ้าที่รั่วออกจากสายไฟหรือโครงโลหะของอุปกรณ์ที่มีความชำรุดแล้วดูดเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะแตกต่างจาก “ไฟช็อต” หรือ “ไฟฟ้าลัดวงจร” ที่มีสาเหตุจากตัวนำทองแดงภายในฉนวนของสายไฟมีการแตะถึงกัน ซึ่งกระแสไฟฟ้าลัดวงจรนั้นจะช็อตไหลลัดไม่ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยมีความรุนแรงและมีปริมาณกระแสที่สูงมาก เป็นเหตุให้เกิดอัคคีภัยได้


“ผู้ที่ถูกไฟดูดจากไฟรั่วขณะน้ำท่วมขัง หรือ Electric Shock Drowning (ESD) มักรู้สึกชา ขยับร่างช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงอาจเสียชีวิตจากการจมน้ำได้ด้วย นอกเหนือจากเสียชีวิตเพราะกระแสไฟฟ้าโดยตรง ปกติฉนวนที่หุ้มสายไฟอาจเปื่อยจากอายุการใช้งาน การถูกบาดเสียหายชำรุด หรือการต่อสายไฟภายในเสาไฟส่องสว่างที่ใช้เทปพันไม่ได้มาตรฐานแล้วทองแดงเปิด อาจไปถูกน้ำซึ่งเป็นสื่อนำไฟฟ้ารั่วไปยังเสาไฟยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะเสาไฟที่เป็นโลหะ ถ้ามีไฟเลี้ยงและมือเราไปแตะถูกโดยตรงโดยไม่ใส่สวมรองเท้ากั้นไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับพื้น กระแสไฟฟ้าที่รั่วก็สามารถวิ่งเข้าสู่มือผ่านเท้าลงดินหรือเรียกว่าถูกไฟดูดได้แต่ในกรณีน้ำท่วม แม้น้ำจะไม่ได้เป็นตัวนำไฟฟ้าได้ดีเท่ากับโลหะแต่น้ำที่ท่วมเปียกขาจะเป็นตัวกลางที่ทำให้กระแสไฟรั่วผ่านร่างกายไหล‘ครบวงจรลงดินได้’

ลักษณะไฟฟ้าที่รั่วจะคล้ายการช็อตปลาซึ่งกินบริเวณรัศมี Voltage Gradient ที่ส่งผลราว 1-2 เมตร อันตรายที่เกิดจากไฟรั่วขึ้นอยู่กับระยะเวลา ปริมาณกระแสไฟฟ้า และตำแหน่งที่ไฟฟ้ารั่วเข้าสู่ร่างกาย หากมือซ้ายสัมผัสจุดที่มีไฟรั่วและขายังแช่น้ำอยู่ ไฟฟ้ารั่วจะไหลผ่านหัวใจซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ ปริมาณกระแสเพียง 0.1แอมแปร์เพียง 2 วินาทีก็สามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นได้” อาจารย์สุพรรณอธิบาย

ในการลดความเสี่ยง อาจารย์สุพรรณ ย้ำว่า ต้องเตือนตนเองไว้เสมอ สายไฟฟ้าที่เห็นเบื้องหน้านั้นอาจมีไฟเลี้ยงอยู่ บริเวณโคนเสาไฟฟ้า เสาไฟส่องสว่าง หรือ สายไฟที่แช่น้ำ เป็นบริเวณที่ควรหลีกเลี่ยงที่จะเดิน ขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ผ่านเข้าไปใกล้ โดยเฉพาะช่วงน้ำท่วมขังจะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจมีสายไฟชำรุดและกระแสไฟฟ้ารั่วเป็นอันตรายได้ ขณะที่เมื่อประสบเหตุพบคนถูกไฟดูด “หากเหตุเกิดในอาคาร” ก่อนอื่นต้องตั้งสติพิจารณาว่าสามารถยกเบรกเกอร์เพื่อตัดวงจรไฟเลี้ยงที่ตำแหน่งนั้นได้หรือไม่

แต่ “หากเหตุเกิดนอกอาคาร” การแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเพื่อให้มาตัดกระแสไฟฟ้าอาจใช้เวลานาน ดังนั้นหากทำได้ควรสวมรองเท้าบู๊ทยาง หรือ อาจหุ้มด้วยถุงพลาสติกหนาใหญ่ๆ เพื่อไม่ให้เท้าเราสัมผัสเปียกน้ำก่อนเดิน และใช้วัสดุที่ไม่นำไฟฟ้า เช่น ไม้ ผ้า เสื้อเข็มขัด สายยาง เชือก ไม้กวาด ถุงมือยาง เพื่อเกี่ยวผู้ที่ถูกไฟดูดให้ออกไปจากบริเวณนั้นก่อน ทั้งนี้โดยห้ามสัมผัสกับตัวผู้ถูกไฟดูดหรือน้ำในบริเวณนั้น แล้วทำการ CPR หากผู้ถูกไฟดูดหัวใจหยุดเต้นแล้วเรียกฉุกเฉิน 1669 เพื่อนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

“ข้อควรตระหนักสำหรับเจ้าของหรือผู้ดูแลอาคาร” สำหรับอาคารที่มีความเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วม ควรย้ายตำแหน่งปลั๊กเสียบและย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าให้สูงขึ้นพ้นระดับน้ำ ส่วนคอยล์ร้อนของเครื่องปรับอากาศนอกตัวอาคารที่วางบนระดับพื้นดินควรยกติดผนังให้มีระดับสูงขึ้น และงดเสียบปลั๊กหรือกดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าหากตัวเปียกหรือเท้าแช่น้ำ ควรเช็ควงจรเบรกเกอร์ว่าจ่ายไฟให้ปลั๊กเสียบตัวไหน

โดยแยกเบรกเกอร์ที่คุมวงจรไฟฟ้าของชั้นล่างที่เสี่ยงถูกน้ำท่วม กับเบรกเกอร์ที่คุมวงจรไฟฟ้าชั้นบนให้เป็นคนละตัวกัน เพราะจะสามารถยกเบรกเกอร์ตัดวงจรที่ถูกน้ำท่วมชั้นล่างออก เพื่อความปลอดภัยโดยยังใช้งานไฟฟ้าของชั้นบนได้ แต่ถ้าเป็นอาคารชั้นเดียวที่มีน้ำท่วมขังก็ไม่ควรเสี่ยงใช้กระแสไฟฟ้า สำนักงานหรือโรงเรียนที่มีน้ำท่วมขัง ซึ่งจะทำให้คนต้องเดินสัญจรลุยน้ำ ก็ควรพิจารณาปิดทำการหรือหยุดเรียนเพื่อความปลอดภัย

นอกจากนั้น ควรติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟรั่วที่ได้มาตรฐานด้วย เพื่อเป็นอุปกรณ์เสริมเพิ่มจากระบบดินและเบรกเกอร์ตัดไฟ ซึ่งการทำงานของอุปกรณ์ตัดไฟรั่วจะวัดกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าวงจรเทียบกับกระแสไฟฟ้าที่ไหลออกจากวงจร หากมีค่าที่แตกต่างกัน (ตามมาตรฐานวิศวกรรมไฟฟ้า คือเกินกว่า 0.03 แอมแปร์) ซึ่งหมายถึง
ได้เกิดมีกระแสไฟรั่วไปที่อื่นนอกวงจรปกติ เครื่องตัดไฟรั่วจะทำหน้าที่ตัดไฟฟ้าออก, ควรมีไขควงเช็คไฟไว้ประจำเพื่อใช้ตรวจวัดไฟรั่วที่โครงอุปกรณ์ เช่น ฝาตู้เย็น เครื่องซักผ้า หากสงสัยว่าจะเกิดไฟรั่ว-ไฟดูด โดยไม่ต้องสัมผัสด้วยมือตนเอง, ตรวจสอบความชำรุดของสายไฟและจุดต่อสายไฟอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไฟรั่ว ยิ่งถ้าโดนแดดมีของกระแทก หนูกัดสายไฟ หรือใช้งานเกินพิกัดจนเกิดความร้อน สังเกตได้จากความร้อน สีเริ่มเปลี่ยน มีกลิ่นไหม้ รอยเขม่าดำอายุการใช้งานของสายไฟอาจลดน้อยกว่า 20 ปีที่กำหนด หากเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสายไฟชำรุด ไม่ควรซ่อมด้วยตัวเอง ควรเรียกช่างที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพช่างไฟฟ้า

สุดท้าย “ข้อควรตระหนักสำหรับผู้รับเหมาติดตั้งเสาไฟส่องสว่าง” ควรเอาใจใส่ในมาตรฐานการติดตั้ง เชื่อมต่อหรือการใช้เทปพันเก็บสายไฟ การตรวจสอบ ซ่อมบำรุงอุปกรณ์ที่ชำรุดและอยู่ใกล้บริเวณที่น้ำท่วมถึง!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปพิเศษ : กาง 9 มาตรการ ‘รับมือฝน’ ปี 2568 ‘เฝ้าระวัง-คุมเข้ม’ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก สกู๊ปพิเศษ : กาง 9 มาตรการ ‘รับมือฝน’ ปี 2568 ‘เฝ้าระวัง-คุมเข้ม’ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก
  • แนวหน้าวิเคราะห์ :  \'รัฐบาล\'มีแผนพร้อมรับ \'น้องน้ำ\'หรือยัง???? แนวหน้าวิเคราะห์ : 'รัฐบาล'มีแผนพร้อมรับ 'น้องน้ำ'หรือยัง????
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘กรุงเทพฯ’จมบาดาล  เกิดแน่หากไม่เร่งแก้จริงจัง สกู๊ปแนวหน้า : ‘กรุงเทพฯ’จมบาดาล เกิดแน่หากไม่เร่งแก้จริงจัง
  • รายงานพิเศษ : ปรับระบบเตือนภัย ‘น้ำท่วม-ดินถล่ม’  ทำ ‘แผนที่น้ำท่วม’ ลดความเสียหาย รายงานพิเศษ : ปรับระบบเตือนภัย ‘น้ำท่วม-ดินถล่ม’ ทำ ‘แผนที่น้ำท่วม’ ลดความเสียหาย
  • The Active Thai PBS ล้อมวงริมแม่น้ำกกระดมความเห็น\'ฟื้นฟูเชียงราย ช่วยกันเริ่มต้นใหม่ ให้แข็งแรงกว่าเดิม\' The Active Thai PBS ล้อมวงริมแม่น้ำกกระดมความเห็น'ฟื้นฟูเชียงราย ช่วยกันเริ่มต้นใหม่ ให้แข็งแรงกว่าเดิม'
  • รายงานพิเศษ : สกสว.ต่อจิ๊กซอว์‘โมเดลน่าน’  หนุนพื้นที่...พลิกวิกฤตน้ำ รายงานพิเศษ : สกสว.ต่อจิ๊กซอว์‘โมเดลน่าน’ หนุนพื้นที่...พลิกวิกฤตน้ำ
  •  

Breaking News

(คลิป) 'ฮุนเซน-ทักษิณ'ตราบาป! 'ไทย-กัมพูชา'

(คลิป) 'เจ๊ปอง'เปิดที่มา'ป้ามาลี' จากนักร้องสู่ยศพลโท

TMAC สรุป 11 วัน! กู้วัตถุระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชาใน 4 จังหวัด 483 รายการ

ระทึก! เครื่องบินเล็กตกกระแทกรันเวย์ ก่อนไถลพุ่งชนเครื่องบินหลายลำไฟลุกท่วม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved