11 ต.ค.65 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิประบุข้อความว่า "ชายข้างในหมู่บ้านครับพฤติกรรมชอบหาเรื่องคนอื่นล่าสุดควงปืนทบรถ คนในหมู่บ้านผวาอยู่กันจะไม่ได้แล้ว ผู้ชายคลังในหมู่บ้านครับพฤติกรรมชอบหาเรื่องคนอื่นล่าสุดควงปืนทบรถชาวบ้านก่อนหน้านี้เพื่อนบ้านต้องย้ายออกหลายหลังเนื่องจากถูกดักทำร้ายแต่ผู้ชายคนนี้ถูกตำรวจจับไปวันสองวันเขาก็ปล่อยออกมาก่อเหตบ่อยครั้ง พิกัดบ้านกล้วยไทรน้อยบางบัวทอง นนทบุรี "เหตุเกิดวันที่ 9 ตุลาคม2565"
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดังกล่าว พบนายอู๋ ไกรฤกษ์ อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของรถ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ที่ถูก
นายจิรศักดิ์ (นามสกุลสมมุติ) อายุ 31 ปี อาศัยบ้านห่างกันประมาณ 5 หลัง คลุ้มคลั่งกระโดดขึ้นไปบนรถใช้ด้ามปืนทุบกระจกหน้ารถได้รับความเสียหายก่อนจะโยนปืนทิ้งเข้าไปในบ้านผู้เสียหายและหยิบเซ็นเซอร์รถปาขึ้นบนหลังคาบ้าน
นายอู๋ ไกรฤกษ์ อายุ 45 ปี กล่าวว่า วันที่ 9 ต.ค. เวลาประมาณ 07.30 น. ตนนอนอยู่แล้วได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเลยเดินมาดูเห็นผู้ก่อเหตุกำลังทุบรถตน ตนไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีเหตุผล ไม่รู้จักไม่เคยมีเรื่องอะไรกับเขา หลังจากนั้นตนมาดูที่รถจึงบอกให้ภรรยาเรียกตำรวจ เขาก็สิ่งหนีไปหลบใต้รถเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไป พอวันจันทร์ส่งฟ้องศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน ส่วนค่าเสียหายยังไม่มีการพูดถึง ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ตรงนี้ประมาณ 6 เดือน เมื่อ 3 เดือนที่แล้วตนนั่งอยู่ที่บ้าน และเขามาตะโกนด่าตนหน้าบ้านหาว่าตนไปมองหน้าเขา ซึ่งตนไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นเขา และไม่เคยไปมองหน้า ตนอยู่ในบ้านของตน ตนเชื่อว่าทุกท่านในหมู่บ้านในซอยเดือดร้อนกับบุคคลคนนี้มากเหมือนกับตน อยากจะขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เป็นไปได้อยากให้ติดต่อญาติมารับตัวไปอยู่ที่อื่น อย่าให้มาอยู่ที่นี่เลย ทุกคนต้องอยู่อย่างหวาดกลัว อยู่กันอย่างหวาดวิตกมาเป็นปีๆ ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ก็หวาดวิตกไปด้วย ต้องกั้นประตูเพราะมันน่ากลัว ตนลองดูในข่าวพบว่าเมื่อ 6 ปีที่แล้วเขาได้ก่อเหตุจับลูกวัย 10 เดือนเป็นตัวประกันและตำรวจมากันเยอะเลย มีการซ้อมภรรยาด้วย ตนเพิ่งย้ายมาไม่ค่อยทราบแต่ดูจากข่าว
น.ส.ธนาภา อ่อนมิ่ง อายุ 39 ปี เล่าว่า ตนทราบว่าเขาอยู่กับครอบครัว แต่ไม่ทราบว่าเขาเป็นคนยังไงเพราะไม่ได้ใส่ใจ ต่างคนต่างอยู่ แต่ที่พอทราบและมีเหตุการณ์ที่หนักคือเขาจับลูกกับภรรยาเป็นตัวประกัน ประมาณปี 55-56 ซึ่งพอเจอเคสนั้นตนรู้สึกผู้ชายคนนี้ไม่ปลอดภัย ตอนที่เขาจับลูกกับภรรยาเป็นตัวประกันเหมือนเขาเสพยาแล้วหลอน และในหมู่บ้านเราตั้งแต่มาอยู่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งหลังจากนั้นตนต้องระวังตัวเองอยู่ตลอด ต้องปิดบ้านให้แน่นหนา ต้องเซฟตัวเอง ซักพักก็เห็นเขาออกมาแล้ว มาออกกำลังกายวิ่งผ่านหน้าบ้านตนทุกวัน ตนก็ไม่รู้ว่าจะโดนอะไร หลังจากที่เขาโดนจับไปยังไม่แน่ใจต้องถามพี่ที่เขาโดนทุบรถ ซึ่งเห็นในกลุ่มหมู่บ้านว่าญาติเขาจะติดต่อกลับมาเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ยังเงียบอยู่ ตนอยู่ในซอยเดียวกัน ติดตามเรื่องตลอดทุกช่องทางเพราะในกลุ่มหมู่บ้านก็ไม่ค่อยลงข้อมูลอะไร แต่ตนจะติดตามจากคนในหมู่บ้านว่าผู้ชายคนนี้ทำอะไรบ้าง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก
ก่อนหน้านี้เขาจะถือมีดเดินเข้าไปในบ้านคนอื่น ซึ่งบ้านใครไม่ล็อคก็จะซวย เขาเดินเข้าไปทุกบ้าน บ้านเลขที่ 7 เขาเดินถือมีดเข้าไปและไปทำลายข้าวของเขา จนบ้านหลังนั้นต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น คนในหมู่บ้านก็จะขายบ้านหนีกันไปหมดแล้วเพราะเขากลัว 2 หลังนั้นก็โดนมาแล้ว เดินไปก็ไปบ้วนน้ำลายใส่หน้าบ้านคนอื่น ด่าทอคนอื่น เรื่องพวกนี้เกิดมานานแล้วไม่ใช่ครั้งแรก แต่ทุกคนไม่กล้าที่จะพูดเพราะเขาเคยบอกแล้วว่าถ้าเขาออกมาได้ทุกคนจะเดือดร้อน เขาไม่ปล่อย ตนก็มองว่ามันไม่ปลอดภัยใครจะมาช่วยเรา ถ้าป่วยก็ให้ญาติพาไปรักษาไปอยู่ในที่ควรจะอยู่ ไม่ใช่ให้มาอยู่ใช้ชีวิตปกติกับคนอื่น และวันนึงถ้าเขาคลั่งขึ้นมาเราจะไปเรียกร้องจากใคร ถ้าเกิดเหตุไปแล้วจะมาวัวหายล้อมคอกไม่ใช่ ไม่มีอะไรมารับผิดชอบชีวิตเราได้เลย ต้องระวังตัวเอง ใครจะช่วยเราได้บ้าง จับไปก็ปล่อยมา อีกเดือนนึงออกมาเราจะมั่นใจได้ยังไง บางทีขี่รถสวนกันยังกลัวเลย ทำตัวอย่างกับเป็นเจ้าถนน
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุได้ถูกสายตรวจจับไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ ศาลตัดสินให้จำคุก 1 เดือน ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนปลอม จากการตรวจสอบประวัติการ คนร้ายเคยก่อเหตุจับลูกเป็นตัวประกันเมื่อหลายปีก่อน.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี