ถ้านึกถึงงานศิลปะที่โดดเด่นท่ามกลางต้นไม้ ในวงการตกแต่งบ้านสไตล์คนเมืองที่รักการผสมผสานระหว่างงานเกษตรและงานด้านศิลปะ จะต้องนึกถึง “สนิท” ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันในวงการบ้านและสวน ซึ่งโดดเด่นสะดุดตาผู้เข้าชมงานบ้านและสวน 2022
ที่สำคัญเจ้าของธุรกิจไอเดียบรรเจิดนี้ คือ นางนุชนารถ รัตนเวโรจน์ ภรรยาของนายจอห์น รัตนเวโรจน์ หนึ่งในศิลปินนักร้องและนักดนตรีวง “นูโว” ซึ่งนำความชอบด้านงานศิลปะมารังสรรค์ผสมผสานกับงานต้นไม้ได้อย่างลงตัวในราคาตั้งแต่หลักร้อยบาทไปจนถึงหลักแสนบาท โดยใช้ชื่อร้านว่า “สนิท” (SANIT) และ ปัจจุบันมี 2 สาขา คือ สาขาแรกที่หมู่บ้านสัมมากร รามคำแหง ซอย 110 และ คลองเตย กรุงเทพมหานคร ตกแต่งสไตล์โมรอคโค และ สาขาที่สอง อยู่ที่คลองเตยตกแต่งสไตล์ Chi art serie Hotel รูปแบบถ้ำสีแชมเปญแอฟริกันสไตล์
นางนุชนารถเล่าถึงที่มาการสร้างสรรค์งานศิลปะที่มาพร้อมกับสายกรีนอย่างยั่งยืนว่า มาจากแรงบันดาลใจเมื่อครั้งหนึ่งได้มีโอกาสไปทำรายงานโทรทัศน์ที่ประเทศญี่ปุ่น และ มีการสอนปั้นเซรามิกส์ ซึ่งงานศิลปะนี้สามารถเข้าไปแก้ปัญหาผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื่องกล้ามนิ้วมือและผู้สูงอายุได้
“นุชอยู่ในวงการโทรทัศน์มา 30 กว่าปี เราอยู่กับครอบครัวที่พ่อแม่เป็นผู้สูงอายุ คุณพ่อเป็นสถาปนิก คุณแม่เป็นแม่บ้าน ทั้งสองท่านรีไทร์ทั้งคู่ แล ะเริ่มป่วย เริ่มเครียด และ เราก็รู้สึกเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงคนที่เขาเกษียณ เขาไม่มีอะไรทำ เราก็ต้องเริ่มดูแลเป็นพิเศษ วันหนึ่งก็ไปที่จังหวัดหนึ่งในญี่ปุ่น ไปทำรายการ เราได้เห็นคนที่มีปัญหาเรื่องกล้ามนิ้วมือ และ ผู้สูงอายุ มีอะไรทำระหว่างวัน ระหว่างที่เราทำก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปั้นดิน ทำให้ได้รับแรงบันดาลใจซึ่งมาจากสิ่งที่เราเห็นผู้คนในขณะนั้น และไปที่ญี่ปุ่น เราก็เห็นว่าการปั้นนี้ดีน่ะ เราก็รู้สึกภาคภูมิใจ และ เก็บเกี่ยวความรู้สึกนี้ไว้ วันหนึ่งก็ไปเห็นเครื่องปั้นดินเผาที่ตุรกี และ อิตาลี ก็ไปทำรายการแล้วก็ได้ไปเห็นงานศิลปะ นุชก็พริ้นท์ภาพถ่ายสวยๆเหมือนเป็นเรฟเฟอร์เรนท์ คุณพ่อก็งงว่า เอาอะไรมาให้เขาปั้น เครื่องมือก็ซื้อมาให้แบบเต็มเรียบร้อย เพราะว่าเราก็ต้องไปทำงานต่างประเทศ ปรากฎว่าเป็นทริปที่คุณพ่อและคุณแม่ไม่โทรหาเรา และ หลังๆก็มีน้อยมากที่จะโทรหาเรา พอกลับมาจากทำรายการ มาเห็นผลงานของคุณพ่อและคุณแม่ก็เลยรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือ คุณพ่อปั้นสวยมาก ภาพแรกเป็นปราสาทอยู่หน้าภูเขา ซึ่งความรู้เรื่องแลนสเคป (Landscape) ของคุณพ่อทำให้ออกมาสวยมาก และ คุณแม่ก็ช่วยทาสี ตอนนั้นท่านก็ปั้นเยอะเลย ต่อมาก็นำชิ้นงานมาผสมผสานกับต้นไม้ที่เราชอบ เพราะเราชอบต้นไม้ มีปราสาทในแฟนตาซี พอปั้นไปเรื่อยๆคุณพ่อเองไม่ต้องการตัวอย่างแล้ว ซึ่งตอนนี้คุณพ่ออายุจะ 81 รู้สึกว่า การที่ท่านแสดงออกงานปั้นผ่านงานศิลปะ เป็นตัวของตัวเอง เราไม่เคยเห็นที่ไหน อย่างงานเลดี้กับผู้หญิง และตอนนี้งานปั้นของคุณพ่อมีเป็นหมื่นๆชิ้น ก็ประทับใจ แล้วก็มันเริ่มเยอะขึ้น และก็เริ่มให้ซื้องานของคุณพ่อให้ลูกน้องก่อน และ ต่อมาก็ให้เพื่อนมาช่วยซื้อ งานปั้นมีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทจนถึงแสนบาท เราก็เลยต้องใช้ความรู้ ความสามารถเกี่ยวกับเรื่องการตลาด และ เรื่องดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง ตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้ว เพราะเราต้องทำแพลตฟอร์มของออนไลน์ เช่น เรื่องยูทูบ อินสตราแกรม เฟสบุ๊ค” นางนุชนารถเล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเอง
สำหรับชื่อ “สนิท” นั้น นางนุชนารถเล่าว่า ชื่อ “สนิท” มาจากนามสกุล “กลิ่นสนิท” ซึ่งเป็นความภูมิใจที่นำท้ายนามสกุลมาตั้งชื่อร้าน และ เป็นการสื่อว่าร้านนี้จะเป็นพื้นที่ที่ทำให้ผู้คนได้มาสนิทกัน
“อย่างคนที่มาเรียนที่นี่ไม่รู้จักกัน ก็มาสนิทกัน เป็นคอมมูนิตี้ (community)เล็กๆ ต่อมาก็ทำการตลาดออนไลน์ขึ้นมา โดยเปิดพื้นที่สวนในบ้านทีี่สัมมากร เปิดสอนจนรถจอดหน้าบ้านเต็ม ก็ต้องไปเช่าบ้านเพิ่ม คุณพ่อพอได้มาสอน จากที่เคยป่วยทุกโรค ก็หายทุกโรค เพราะจับเงิน คุณแม่ก็สุขภาพดีขึ้น น้องสาวจบเพาะช่าง ชื่อลาวัลย์ทิพย์ กลิ่นสนิท หรือ ครูอพอลโล ก็ให้มาช่วย จากที่เขาก็มีธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว ส่วนพี่ชายอีก 2 คน เป็นสถาปนิก ก็มาช่วยกันวางแผนคิดโน่นคิดนี่ พี่น้องไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยๆ ทำให้เรามีความสุขมาก ทำให้เห็นว่า เราได้อยู่กับครอบครัวซึ่งพื้นที่ร้านที่สนิทปรากฎว่า มีลูกค้าที่เป็นหมอที่ทำงานเครียด เอเจนซี่ที่ต้องทำงานให้ลูกค้า พนักงานประจำที่ทำงานเครียด หรือ บางคนที่ทำงานเครียดมาก ก็จะหนีมาหา “สนิท”
เราก็รู้เลยว่า เขาต้องการความสงบ ต้องการสมาธิ หรือ ต้องการฉีกจากโลกที่เขาอยู่ นุชก็เลยมีเพื่อนหลากหลายอาชีพ ทำให้ธุรกิจในช่วงแรกๆเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ก็ขยับขยายไปเรื่อยๆตั้งแต่ เริ่มซื้อหลังคา เก้าอี้ แอร์ตู้ และ เริ่มเกรงใจเพื่อนบ้าน เพราะที่จอดรถหน้าบ้านเริ่มเต็ม ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่มีโควิด ซึ่งนุชชอบทำอาหาร ทำส้มตำ เอามะละกอหลังบ้านมาทำ เราจะชอบการจัดอาหารสวยๆ เราทำอาหารเลี้ยงกินกันฟรี ก็แชร์กันปากต่อปากว่า มาเรียนที่สนิทแล้วแล้วมีอาหารเลี้ยงฟรี ต่อมาเราก็คิดว่า ถ้าธุรกิจจะเจริญรุ่งเรืองได้ ต้องวางแผนที่เหมาะสม
เราก็เลยขยายเรื่องพื้นที่สอน ก็ได้ที่ตรงนี้ติดกับทะเลสาป ทำให้สนิทเต็มรูปแบบ เป็นสไตล์โมรอคโค โดยเธอเล่าวว่า เป็นคนที่ชอบสไตล์โมรอคโค ซึ่งมีสีสันที่สัมผัสแล้วไม่ง่วง ทำให้คนที่เข้ามาในร้านจะมีความรู้สึกแอคทีฟ
“สไตล์โมรอคโคจะเป็นศิลปะที่ทำให้มีมุมที่ถ่ายรูปสวย และ แตกต่างกันในแต่ละมุม และที่สำคัญจะมีงานศิลปะหลอกหลอนเราในแต่ละที่ รวมทั้งด้วยความชอบทำอาหารนุชกับลูกชายคนโตคือ น้องจัสติน หรือ นายมหาสมุทร รัตนเวโรจน์ ไปเรียนเลอ กอร์ดอง เบลอ และ เรียนดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง มาด้วยกัน ตั้งแต่ 7-8 ปีที่แล้ว นุชก็จะสนิทกับลูกชายคนโตมาก และ นุชใช้หลักบริหาร 3 แปดให้ได้ คือ นอน 8 ชั่วโมง ทำงาน 8 ชั่วโมง ให้ครอบครัว 8 ชั่วโมง รวมไปถึงยังมองว่าการทำงานยุคนี้ต้อง Passive income คือ ทางรอดของธุรกิจยุคนี้ ดังนั้น ความรู้ความสามารถที่เรามีอยู่ เรามาสอดแทรกในงานศิลปะ และ จิวเวอร์รี่ ถ้าคนมาเรียนเราจะถามก่อนว่า เรียนเป็นงานอดิเรก หรือ เรียนเป็นอาชีพ ถ้าเรียนเป็นอาชีพเราก็จะใส่เรื่องดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งให้” นางนุชนารถทิ้งท้ายเรื่องมุมมองการนำศิลปะมาประยุกต์กับโลกยุคดิจิตอล ซึ่งเมื่อพัฒนารูปแบบงานศิลปะสู่โลกแห่งต้นไม้แล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นั้นคือเรื่องหลักการตลาดและการบริหารงานนั่นเอง โดยเธอนำความละเอียดในการบริหารงานนี้ ส่วนหนึ่งมาจากงานอาชีพเดิมคือ การเป็นแอร์โฮสเตส ในสายการบินเจแปน แอร์ไลน์
นอกจากนี้ งานปั้นทุกชิ้นในร้าน “สนิท” ยังนำดินที่เหลือจากการปั้น และ ผลงานเก่าๆ มารีไซเคิลทำใหม่ เพื่อดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วย
สำหรับท่านใดที่สนใจงานศิลปะที่เหมาะกับคนเมืองสายกรีนนั้น สามารถไปได้ที่ร้าน “สนิท” เลขที่ 245/7 หมู่บ้านสัมมากร ถ.รามคำแหง 110 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. 10240 หรือ โทร.081-818-1148
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี