วันนี้ (1 ธ.ค.65) เพจ "ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้โพสต์ภาพบรรยากาศการส่ง "น้องทับเสลา" ลูกช้างป่าหลงโขลงที่นำมาอนุบาลไว้ กลับคืนสู่ป่าอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 30 พ.ย.65 ที่ผ่านมา พร้อมข้อความระบุว่า #รู้จากข่าว..."ทับเสลา" สอบผ่านก่อนปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติพร้อมแม่รับ "วาเลนไทน์"
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 นายศุภกิจ วินิตพรสวรรค์ พร้อมด้วยสัตวแพทย์หญิงกิตติยาภรณ์ เอี่ยมสะอาด ในฐานะคณะทำงานกำกับ ดูแล และช่วยเหลือลูกช้างป่าพลัดหลง (ทับเสลา) ร่วมกับ นายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (สาขาลำปาง) เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์และสัตวบาลจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง เจ้าหน้าที่มูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย คณาจารย์ศูนย์สุขภาพช้างและสัตว์ป่า โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเครือข่ายรักช้าง รักษ์ป่า ดอยผาเมือง ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจปล่อยลูกช้างป่า (ทับเสลา) พร้อมแม่รับ (พังวาเลนไทน์) คืนสู่ธรรมชาติ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง จังหวัดลำปาง
โดยเมื่อปี 2563 "ทับเสลา" ได้รับการเคลื่อนย้ายมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่อมาดูแล ฝึก และปรับพฤติกรรมให้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ คณะทำงานฯ ได้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวช้างป่า (GPS Collar) ให้แก่ช้างแม่รับ และกำหนดแผนติดตามการดำรงชีวิต การเคลื่อนที่ และประเมินพฤติกรรมการปรับตัวให้เข้ากับสภาพธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ "ทับเสลา" ได้พลัดหลงจากโขลงเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 โดยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พบกับลูกช้างป่า (อายุประมาณ 2-3 เดือน) พลัดหลงแม่ เดินเข้ามาในหมู่บ้านไผ่งาม ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ โดยได้นำมาอนุบาลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จนกระทั่งวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 จึงเคลื่อนย้ายมาดูแลและปรับพฤติกรรมเพื่อจะได้นำไปปล่อยคืนสู่ป่าตามธรรมชาติในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง จังหวัดลำปาง
ทั้งนี้ "ทับเสลา" มีช้างแม่รับ คือ "พังวาเลนไทน์" เป็นช้างจากมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มาคอยดูแล และสอนลูกช้างป่าเรียนรู้และซึมชับพฤติกรรมการดำรงชีวิตตามธรรมชาติมาโดยตลอด ซึ่งลูกช้างป่าก็สามารถเลียนแบบพฤติกรรมช้างแม่รับในการดำรงชีวิตในป่าธรรมชาติได้ดี จึงได้มีการปล่อยช้างป่าคืนสู่ธรรมชาติในครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือสัตว์ป่าอย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี