"นายนิพนธ์ พิลา" เจ้าของพิลาฟาร์ม สตูดิโอ (PILA Farm Studio) วัยเพียง 39 ปี มีดีกรีจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ ด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยทุน "จุฬาชนบท" และได้เข้าทำงานในธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง และในบริษัทออร์แกนไนซ์เซอร์แห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงระดับแถวหน้าของเมืองไทย โดยระหว่างที่นายนิพนธ์กำลังทำงานประจำอยู่นั้น ก็ได้หาโอกาสไปเรียนต่อทางด้านการตลาด ที่มหาวิทยาลัยมหิดล และ เรียนด้านออกแบบแฟชั่น ที่สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ ซึ่งก่อตั้งโดยสมเด็จพระญาณวชิ โรดม (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) โดยนายนิพนธ์ได้รับแรงบันดาลใจด้านการออกแบบมาจากพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ และ เดินหน้าเป็นเจ้าของธุรกิจห้องเสื้อ ที่สุขุมวิท 95 กรุงเทพมหานคร
ระหว่างที่ลงทุนทำห้องเสื้ออยู่ในช่วง 3 ปีแรก เป็นจังหวะที่โควิดแพร่ระบาด ทำให้ใน พ.ศ.2562 นายนิพนธ์ต้องกลับบ้านที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ต้องกลับไปดูแลบิดาซึ่งมีอายุกว่า 70 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งที่กระดูกไขสันหลัง โดยบิดามารดาของนิพนธ์เป็นเกษตรกร และ ตระกูลพิลามีอาชีพเป็นเกษตรกรมาแต่ดั้งเดิม ทำให้เขานำพื้นฐานความเป็นครอบครัวเกษตรกร เนรมิตพื้นที่ 20 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 81 หมู่ 10 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็น “พิลา ฟาร์ม สตูดิโอ” ให้เป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์ครบวงจร และ ศึกษาเรื่องอาชาบำบัด พร้อมกับการทำตลาดสินค้าเกษตรแปรรูปของชุมชนในทุกมิติ โดยเริ่มทำในรูปแบบพิลาฟาร์มอย่างจริงจังมาได้ 2 ปี
"งานดีไซน์เนอร์ เป็นงานที่เรามี Passion แต่งานด้านเกษตร เหมือนกับเราเป็นลูกหลานเกษตร เป็นรากเหง้าของเรา ก็ชอบ เพราะเติบโตมากับธุรกิจการเกษตรและการเป็นเกษตรกร ของคุณพ่อกับคุณแม่ โดยเป็นชาวไร่ ปลูกข้าว ปลูกยาสูบ ปลูกพืชผัก อดีตก็เคยปลูกมะขามด้วย จริงๆ อย่างผมโตมากับผู้สูงอายุ เมื่อก่อนผู้สูงอายุจะเป็นช่าง ในบ้านจะทอผ้าใช้กันเอง คุณปู่ก็ตีมีดใช้ มันก็เหมือนกับว่าเราโตมากับต้นกำเนิดงานหัตถกรรม งานผ้า งานสิ่งทอ และ งานเกษตรกรรมของคุณพ่อคุณแม่อย่างคุณยายก็นั่งทอผ้า คุณปู่ก็ตีมีดเองกับมือ ซึ่งทำให้ผมโตมากับสายช่าง สายออกแบบ งานผ้า งานเกษตร ต่อมาพอผมได้เรียนในระดับปริญญาตรี ผมได้ทุนจุฬาชนบท โดยในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลายผมจบที่หล่มสัก"
"พอมาเรียนที่จุฬาฯ คณะนิเทศศาสตร์ ด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ พอจบปุ๊บก็ใช้ความรู้ที่เรียนมา ทำงานในองค์กร ด้านสื่อสารการตลาด ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ และทำงานกับทางบริษัทที่ทำอีเว้นท์ อย่าง ซีเอ็ม ออร์แกนไนเซอร์ เรียกว่า ไดนามิค เพราะใช้ความรู้ที่ทำมา และก่อนที่จะมีโควิด ผมก็เริ่มทำธุรกิจเล็กๆ เพราะผมก็ไปเรียนต่อการการตลาด ปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคอินเตอร์ พอเรียนจบแล้ว ก็ไปเรียนด้านออกแบบแฟชั่นต่อ เรียนที่สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ ก็เป็นแรงบันดาลใจ เพราะหลวงพ่อฯ ก็มองเรื่องการสร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ ผ่านงานดีไซน์ จริงๆก็นับถือหลวงพ่อฯด้วย ทำให้การเรียนออกแบบก็ลงตัวกับการใช้ชีวิตของเรา เพราะชอบ และพอเรียนจบก็ออกจากงานประจำมาทำธุรกิจเลย มาทำธุรกิจเสื้อผ้า ออกแบบสูท ทำได้ 3 ปี และ ตัดสินใจกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ ซึ่งตอนนั้นตรงกับปี 2562 คุณพ่ออายุเยอะ 70 กว่าปีแล้ว และเป็นมะเร็งที่ไขกระดูกสันหลัง ทำให้ช่วงโควิดก็ได้กลับไปอยู่ที่บ้าน ไปดูแลพ่อด้วย และ ไปดูแลพื้นที่ที่บ้าน ทำให้ได้เห็นโอกาสในช่วงโควิด" นายนิพนธ์เล่าอย่างเป็นกันเอง
ช่วงโควิดแพร่ระบาด เป็นวิกฤตที่ทำให้คนจำนวนมากตกงาน แต่สำหรับนายนิพนธ์ ได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส โดยนำเวลาช่วงดังกล่าว เรียนรู้งานด้านเกษตรกรรมจนสามารถทำมาผสมผสานกับงานด้านออกแบบได้อย่างลงตัว และ ล่าสุดได้รับรางวัล “ธุรกิจสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมของภูมิภาคอาเซียน” (The Asean’s Best Creative Business Award 2022” ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา รวมทั้งยังได้จัดงาน “Space PILA FARM” เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเนรมิตคอกม้ามาเป็นตลาดรวมงานศิลปะและเกษตรกรรม ที่เป็นเกษตรอินทรีย์โดยเฉพาะ พร้อมทั้งคอนเสริต์ขนาดย่อมมาไว้ที่หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เรียกว่า เป็นแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่นำศิลปะมาผสมผสานงานเกษตรกรรม และ สร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยนายนิพนธ์พร้อมเปิดรับหน่วยงานราชการ และ องค์กรภาคเอกชนที่ต้องการสนับสนุนให้แหล่งท่องเที่ยวชุมชนเกิดขึ้นในมิติของเกษตรกรรมที่มีกลิ่นอายของความเป็นดีไซน์เนอร์ ซึ่งงานแต่ละชิ้นที่นำมาจำหน่ายนั้นมีราคาจับต้องได้ และ ทำให้ชุมชนเกิดธุรกิจชุมชนอย่างยั่งยืน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรจัดงานประจำปีส่งท้ายปี 2565 โดยมีการเสวนา “แรงบันดาลใจสู่เกษตรไทยเข้มแข็ง” ขึ้นเวทีเสวนาให้เกษตรกรทั่วประเทศได้รับแรงบันดาลใจ โดยมีวิทยากรร่วมเสวนาได้แก่ นายสุพจน์ โคมณี เกษตรกรตัวอย่าง จ.นครสวรรค์, นางสาวนัยนา ยังเกิด เจ้าของฟาร์มเห็ด, นายนิพนธ์ พิลา เจ้าของพิลาฟาร์ม สตูดิโอ และ นายสันติภาพ จุลิวัลลี เกษตรกร จ.ลพบุรี
จะเห็นว่า การเกิดขึ้นของ “พิลาฟาร์ม สตูดิโอ” ในช่วงโควิดแพร่ระบาดนั้น นับเป็นการเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสที่สำคัญของคนรุ่นใหม่ ซึ่งต่อสู่กับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างลงตัว จนเป็น “ตัวอย่าง” ของการทำฟาร์มอินทรีย์รูปแบบใหม่ที่มีการผสมผสานกับงานดีไซน์เนอร์ ที่สะดุดตาและโดนใจ โดยมีรางวัลการันตีผลงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอนาคตเจ้าของพิลาฟาร์มสตูดิโอ ก็ตั้งความหวังไว้ว่าจะปั้นพื้นที่เกษตรกรรมในหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี