แม่เด็กนักเรียนวัย 9 ปีร้องสื่อ ถูกเพื่อนนักเรียนร่วมห้องใช้ดินสอแทงตาผ่านมา 6 เดือน ยังไม่ได้รับการเยียวยา
11 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวสุวิริภรณ์ อายุ 29 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ตำบลหันห้วยทราย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ได้นำเอกสารใบแจ้งความ สภ.บ้านหันห้วยทราย พร้อมด้วยเอกสารส่งตัวรักษาดวงตา ลูกชายน้อง FM วัย 9 ขวบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราช ร้องสื่อมวลชน หลังผ่านไป 6 เดือน ยังไม่มีการเยียวยาจากโรงเรียนและผู้ปกครองคู่กรณี กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 14.30 น แม่ของน้อง FM เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเกือบจะ 6 เดือนแล้ว ซึ่งช่วงที่เหตุเด็กกำลังศึกษาเล่าเรียน อยู่กับเพื่อนๆภายในห้อง โดยมีคุณครูประจำชั้น ได้ปล่อยให้นักเรียนอยู่กันตามลำพัง ระหว่างนั้นได้ถูกเด็กชายเอ นามสมมุติ ใช้เข่าแทงกลางหลังเด็กชาย FM จนทำให้ล้มลงต่อจากนั้น เด็กชายบี (นามสมมุติ) ได้ใช้ดินสอแบบเปลี่ยนไส้ได้ แทงเข้าที่ดวงตาด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บ ร้องด้วยอาการเจ็บปวด ซึ่งทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ห้องเดียวกัน
ต่อมาครูประจำชั้นเข้ามาภายในห้องและสอบถามว่าทำกันทำไม แต่ไม่ตรวจสอบหรือดูอาการบาดเจ็บของน้อง FM ในความปกครองให้ดี ซึ่งในระหว่างนั้นไม่มีคุณครูภายในโรงเรียน โทรแจ้งรถพยาบาลหรือพาน้อง FM ไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด
จนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียนพ่อของน้อง FM ได้รับกลับบ้าน และสอบถามว่าดวงตาบาดเจ็บเพราะอะไร หลังจากทราบเรื่องจึงได้พาน้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลประทายก่อนที่จะถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาอย่างเร่งด่วน โดยหมอแจ้งว่าดวงตาข้างซ้ายมองไม่เห็นต้องทำการผ่าตัดรักษาเป็นการเร่งด่วน แต่ไม่ยืนยันว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ปัจจุบันลูกชายได้มาพักรักษาตัวต่อที่บ้าน โดยดวงตาก็ไม่สามารถมองเห็นได้เหมือนเดิม จึงได้ทำการย้ายโรงเรียนซึ่งห่างจากโรงเรียนเดิมประมาณ 400 เมตร สาเหตุเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยของโรงเรียนที่ฝากบุตรหลานเอาไว้
อย่างไรก็ตาม ทางนายธีรพงษ์ ผอ.โรงเรียน พร้อมด้วยคณะครูและผู้ปกครองคู่กรณี ได้มีการนำเงิน 7 หมื่นกว่าบาท ช่วยเป็นค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น แต่จากการพูดคุยการเยียวยาดวงตาของลูกและอนาคตในวันข้างหน้า ครอบครัว ได้ขอการเยียวยาไป 3,000,000 บาท แต่ทางโรงเรียนยังไม่สามารถรับข้อเสนอดังกล่าวได้ อ้างว่าเกิดจากอุบัติเหตุ จึงเกรงกลัวถึงอิทธิพลและเรื่องจะเงียบจึงได้ร้องสื่อเพื่อขอความช่วยเหลือหรือมีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาช่วย
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านเพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริง โดยชาวบ้านแจ้งว่าทางโรงเรียนได้ทำการปิดโรงเรียนเพื่อนำนักเรียนไปทัศนศึกษาที่จังหวัดบุรีรัมย์
ด้านผู้ปกครองฝ่ายเด็กเอาดินสอแทงตาบอด โอดเรียกค่าเสียหายแพง ยันเป็นอุบัติเหตุเด็กเล่นกันเท่านั้น
ด้านผู้ปกครองของเด็กชายบี นามสมมุติ เด็กที่เอาดินสอแทงตา เปิดเผยว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 เวลา 14.30 น ในขณะนั้นมีนักเรียนอยู่ในห้องจำนวน 8-9 คน และได้เรียนหนังสือรวมถึงการหยอกล้อเล่นกัน จึงทำให้มีการบาดเจ็บที่ดวงตา โดยตนมองว่าลูกชายของตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายน้อง FM แต่อย่างใด มองว่าน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุมากกว่า และก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาได้มีการพูดคุย ตนก็ได้มอบเงินจำนวน 35,000 บาท ที่ไปหยิบยืมชาวบ้านมา เนื่องจากว่าตนก็หาเช้ากินค่ำ และเงินจากโรงเรียนอีก 35,000 บาท รวมทั้งหมด 70,000 บาท มอบให้กับครอบครัวน้อง FM ต่อมาได้มีการพูดคุย ทั้งทางโรงเรียน ผู้บาดเจ็บและคู่กรณี ได้มีการเรียกเงินจำนวนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งตนก็ไม่รู้จะไปหาจากไหนมาให้ หากพูดคุยตกลงกันไม่ได้ก็ต้องปล่อยไปตามคดีความในชั้นศาลต่อไป เพราะตนก็เป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ
นายธีรพงษ์ มะปะโท ผอ.โรงเรียน ได้เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า หลังจากที่เกิดเหตุ ทางคณะครูและโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามสอบถามอาการไปยังผู้ปกครองของน้อง FM อย่างใกล้ชิดอยู่ตลอด เพราะถือว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่ภายในโรงเรียนจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ แต่มันก็เป็นอุบัติเหตุที่นักเรียนหยอกกันจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งคณะครูก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะรุนแรงขนาดนี้
โดยเบื้องต้นทางโรงเรียนได้มีการช่วยเหลือไปแล้วประมาณ 80,000 บาท ยังไม่รวมค่าน้ำมันที่เดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยจากการพูดคุยกับครอบครัวของน้อง FM วัย 9 ปี นักเรียนชั้นป.3 ได้มีการยื่นข้อเสนอขอเยียวยาจำนวน 3 ล้านบาท โดยยังไม่สามารถที่จะตกลงกันได้ซึ่งทางคณะครูและผู้ปกครอง ยินยอมที่จะเยียวยาอยู่แค่ 2 แสนบาท จึงอาจจะต้องหาคนกลางมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย และขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี