เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดอินทรวิหารพระอารามหลวง ถนนวิสุทธิกษัตริย์ แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร น.ส.พรทิพา สุพัฒนุกูล หรือ ผอ.ฟ้า ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ฟ้าให้ทีวี พร้อมคณะได้นำหีบโบราณที่มีพระเครื่องพระสมเด็จจำนวน 3,000 องค์ บรรจุอยู่ในหีบ พร้อมจอทีวีสี 8K 55 นิ้ว 1 เครื่อง , ขาตั้งทีวีสั่งทำพิเศษ 1 ชุด , เครื่องส่องดูมวลสารพระ 1 ชุด พร้อมเงินสด 100,000 บาท มาถวายให้กับพระโสภณธรรมวงศ์ เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง โดยมี ม.ล.ภัทรสุดา กิตติยากร (คุณวงเวียน) บุตรสาว ม.ร.ว.สมลาภ กิตติยากร เลขานุการในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ที่ถึงแก่อสัญกรรมไปเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมด้วย ท่านพลเอก ณพล บุณทับ อดีตรองสมุหราชองครักษ์ในรัชกาลการที่ 9 ให้เกียรติมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย จากนั้นได้ร่วมกันนำพระเครื่องพระสมเด็จ ที่บรรจุอยู่ในหีบโบราณเดินเเห่รอบพระอุโบสถ จำนวน 9 รอบ เพื่อเสริมบารมีและความเป็นศิริมงคลให้กับชีวิต
ผอ.ฟ้า กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจมากที่ได้นำพระสมเด็จบางขุนพรหม กว่า 3,000 องค์ กลับคืนสู่วัดอินทรวิหาร และได้ถวายปัจจัย 100,000 บาท พร้อมจอทีวีสี 8K 55 นิ้ว 1 เครื่อง , ขาตั้งทีวีสั่งทำพิเศษ 1 ชุด , เครื่องส่องดูมวลสารพระ 1 ชุด ราคารวมกว่า 53,000 บาท จริงๆ แล้วตอนแรกไม่ได้คิดถึงขั้นจะนำพระมาถวายที่วัดอินทร์ บางขุนพรหม บังเอิญตนนั่งสมาธิ นั่งสวดมนต์ แล้วก็ทุกวันเราจะอธิฐานว่า ถ้าองค์สมเด็จปู่ต้องการให้ข้าพเจ้าทำการสิ่งใด ก็ขอให้ดลใจให้ข้าพระเจ้ากระทำการสิ่งนั้น อธิฐานแบบนี้ทุกวัน แล้ววันนึ่งนั่งสมาธิแล้วตัวเองเผลอหลับ เหมือนนั่งสมาธิแล้วหลับ เขาเรียกว่านิมิตรขึ้นมาแวบนึ่งเห็นวัดอินทร์ บางขุนพรหม และเคยพูดขึ้นมาครั้งหนึ่งว่าเห็นเจดีย์ของวัดอินทร์ บางขุนพรหม แต่ว่าสมเด็จบางขุนพรหม ที่บ้านที่เรามีไว้ใกล้จะหมดแล้ว จะมาถวายได้อีกกี่องค์ คิดว่าที่บ้านยังมีหีบที่ปิดล็อกก็ไม่รู้ว่าข้างในนั้นเป็นอะไร พอเปิดขึ้นมาหีบแรกเจอสมเด็จบางขุนพรหม คิดในหัวเราอีกว่าอุ้ยทำไมเราคิดแล้วก็ภาพนิมิตรขึ้นมา แล้วทำให้เรามาเปิดเจอท่าน 1 หีบ ที่ในใจเราไม่เคยคิดว่าจะได้ ก็เลยต้องนำมาถวาย เพราะว่าเป็นสิ่งที่เชื่อได้ว่าองค์สมเด็จท่านต้องการให้นำพระมาคืนวัด เพื่อที่จะบูรณะวัด หรือเอาพระมาไว้ที่นี้ ก็เท่ากับว่าให้ลูกหลานคนไทยที่มีความศัทธาต่อสมเด็จบางขุนพรหม และสามารถตรวจเช็คได้ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันสามารถเช็คได้ โดยการที่พระมาอยู่ตรงนี้ทุกอย่างก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และพระท่านไปอยู่ที่ ผอ.ฟ้า ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
"ผอ.เชื่อเรื่องสิ่งที่ถูกลิขิตไว้แล้ว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างพระมาอยู่กับ ผอ.ฟ้า อย่างที่ทุกคนเห็นว่า พระสามารถไปอยู่ในมือคนไทยได้ โดยไม่ต้องใช้เงินก็ได้ พระแท้ไม่ต้องใช้เงินสักบาทเดียวก็เกิดบารมีได้ ปีที่เปิดกรุพระคือปี 2,500 คือกรุใหม่ของวัดบางขุนพรหม แต่คำว่ากรุใหม่ไม่ได้แปลว่าพระสร้างใหม่ สร้างและพระจมใต้เจดีย์ไปเป็น 100 กว่าปี ซึ่งมาเปิดกรุเอาปี 2,500 ซึ่งตราปั้มเป็นเอกลักษณ์ก็คือตราปั้มสีม่วง ซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์ของเขา แล้วก็เนื้อหาของพระความยุบแยกย้นการแตกขององค์พระ กับการสึกหลอของที่จมอยู่ใต้น้ำ แล้วก็สิ่งสำคัญคราบกรุ คราบเศษไม้หรือเศษดินของที่นี้ ก็ต้องกลับมาอยู่ที่นี้ แล้วก็สามารถเช็คได้ว่าใช่หรือไม่ใช่
ด้าน พระโสภณธรรมวงศ์ เจ้าอาวาส กล่าวว่า ถ้าหากญาติโยมท่านใดมาร่วมทำบุญที่วัด แล้วมีความประสงค์ที่จะนำพระไปบูชาที่บ้าน อาตมาก็จะมอบให้ อาตมาจะทำตามเจตนารมณ์ของสมเด็จท่านที่ตั้งใจทำไว้แจก ใครร่วมทำบุญเราก็แจกไป อย่างที่อาตมาได้บอกไปก่อนหน้านี้ถึงความเกี่ยวข้องของสมเด็จพุฒาจารย์โต ว่าเกี่ยวข้องกับวัดอินทรวิหาร อย่างไร แล้วมีความผูกพันธ์ที่ยั่งยืนอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าสมเด็จพุฒาจารย์โต ท่านจะอยู่ที่ไหน แต่ถ้าหากเราเข้าถึงท่านแล้ว เมื่อนึกถึงท่าน ทำบุญทำกุศลทำคุณงามความดี ตามที่ท่านได้สั่งสอนอาตมาเชื่อว่าสมเด็จพุฒาจารย์โต ก็จะประทานพรให้ทุกคนทุกที่ทุกเวลา ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นที่วัดอินทรวิหาร ขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามคำสั่งสอนของสมเด็จพุฒาจารย์โต และความศักดิ์สิทธิ์นั้นจะบังเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลายอย่างแน่นอน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี