จิสด้า เผยจุดความร้อนไทยยังพุ่งสูงต่อเนื่อง พบ 1,713 จุด ในขณะที่ สปป.ลาว พีคสุด 4,284 จุด
วันที่ 23 มี.ค.2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 22 มีนาคม 2566 ว่า ไทยพบจุดความร้อน จำนวน 1,713 จุด ในขณะที่ สปป.ลาว ยังคงพบจุดความร้อนสูงสุดถึง 4,284 จุด ตามด้วยสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ 2,694 จุด เวียดนาม 1,356 จุด กัมพูชา 687 จุด และมาเลเซีย 11 จุด
สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นป่าอนุรักษ์ 647 จุด, พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 556 จุด , พื้นที่เกษตร 244 จุด, พื้นที่เขต สปก. 136 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 121 จุด, และพื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ แม่ฮ่องสอน 275 จุด น่าน 158 จุด และ กาญจนบุรี 139 จุด
ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมา พื้นที่หลายจังหวัดในภาคเหนือที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา ลำพูน ลำปาง เลย ตาก และ ชัยภูมิ ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อยู่ในระดับดี
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน คือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่าง ๆของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือ การสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ได้จากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรง และ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่.-008