ที่อ่างเก็บน้ำโคกก่อ หมู่ 19 ตำบลโคกก่อ เมืองมหาสารคาม ประชาชนจำนวนมากพาบุตรหลาน กลุ่มเพื่อนและครอบครัว มาลงเล่นน้ำคลายน้ำ นั่งชิลในแพริมน้ำรับลมริมอ่างเก็บน้ำ ภายหลังจากที่อุณหภูมิในช่วงกลางวันพุ่งสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ชาวบ้านในพื้นที่มีการนำห่วงยางมาให้เช่าและนั่งบานาน่าโบ๊ท บางส่วนนอกจากจะเล่นน้ำแล้วก็ยังมีการเก็บหอยเล็บม้า ซึ่งเป็นหอยน้ำจืดในท้องถิ่น กลับไปประกอบอาหารที่บ้านด้วย

นางสาวธัญลักษณ์ ไชยสันต์ แม่ค้าขายอาหารบริเวณอ่างเก็บน้ำโคกก่อ กล่าวว่า ปกติพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำโคก่อ เป็นอ่างเก็บน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและจ่ายน้ำเพื่อทำการเกษตรให้ประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอเมืองและใกล้เคียง แต่เมื่อถึงช่วงฤดูแล้งปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลง จนทำให้สามารถลงไปเล่นนำได้ ซึ่งชาวชุมชนได้มองเห็นโอกาสจึงร่วมกันพัฒนาพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในช่วงหน้าแล้งหรือช่วงฤดูร้อน ทำให้ประชาชนมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจคลายร้อน และชาวบ้านมีที่ค้าขายอาหารและบริการ ทำให้กระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น 

ในอ่างเก็บน้ำโคกก่อบริเวณนี้จะมีแพลอยน้ำของชาวบ้านให้บริการประมาณ 80 แพ ซึ่งตนเองได้ประกอบขึ้นมาให้บริการนักท่องเที่ยวจำนวน 10 แพ ลงทุนสร้างแพประมาณแพละ 7,000-8,000 บาทโดยคิดให้ลูกค้ามาเช่าแพในราคาชั่วโมงละ 50 บาท ส่วนห่วงยางให้เช่าเล่นครั้งละ 30 บาท พร้อมทั้งขายอาหารและเครื่องดื่มในราคามิตรภาพ ลูกค้าสามารถสั่งอาหารที่ซุ้มแล้วใช้เวลาไม่นานก็จะมีเด็กเสิร์ฟไปบริการส่งถึงแพ ซึ่งจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงนี้จนล่าสุดช่วงกลางวันจะสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้แต่ละวันมีคนมาเที่ยวจำนวนมาก   

ด้านนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง กล่าวว่า ช่วงนี้สภาพอากาศร้อนมาก จึงได้พาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนในวันหยุด โดยระหว่างพาลูกลงเล่นน้ำก็ได้จับดูที่พื้นน้ำพบว่ามีหอยเล็บม้าซึ่งเป็นหอยน้ำจืดในท้องถิ่น อยู่บริเวณริมตลิ่งอ่างเก็บน้ำเป็นจำนวนมาก จึงไปหยิบถังและถุงมาช่วยกันงมและเล่นน้ำไปด้วย แถมระยะเวลาไม่นานก็สามารถงมหอยได้จนเกือบเต็มถัง ซึ่งหากหาได้ในปริมาณมาก ก็จะสามรถนำไปขายได้ เพราะหอยชนิดนี้ถือเป็นเมนูเด็ดของคนในท้องถิ่นที่นิยมนำมาผัดกับใบโหระพาหรือต้มกินกับน้ำจิ้มแจ่วได้ รวมถึงนำไปประกอบอาหารเป็นเมนูอื่น ๆ ได้อีกหลากหลาย โดยราคาขายในตลาดจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท ดังนั้นหอยที่งมได้จึงทำให้ประหยัดค่าอาหารไปได้อีก 1 มื้อ

ขณะที่นายแพทย์ภาคภูมิ นโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม ได้แจ้งเตือนประชาชน เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้ร้อนจัด ส่งผลให้เกิดโรคลมแดด หรือฮีตสโตรกได้ ซึ่งเกิดจากการที่อยู่ท่ามกลางอากาศร้อนมากเกินไป ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติ ร่างกายปรับสภาพไม่ทันอาจส่งผลให้ช๊อค หมดสติได้ ดังนั้นหากพบเห็นผู้มีอาการลักษณะนี้ให้รีบพาเข้าที่ร่ม หาน้ำให้จิบ และโทรเรียก 1669 เพื่อรับการรักษาในทันที เพราะอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ หากได้รับการรักษาที่ล่าช้า อาจทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ - 003