21 พ.ค.66 กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังตามลำน้ำชีในพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัยจังหวัดมหาสารคามเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากปลานิลที่เลี้ยงไว้ในกระชังทยอยตายแล้วกว่า 10 ตันมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาทค่าสาเหตุเกิดจากอากาศร้อนน้ำในแม่น้ำชีมีน้อยและค่าออกซิเจนในน้ำไม่เพียงพอ
นางสาววุฒินี ภู่ระย้า เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง บ้านกอก ตำบลหนองบัว อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ตนเองเลี้ยงปลากระชังไว้ทั้งหมด 30 กระชังรวมของผู้เลี้ยงคนอื่นๆในละแวกนี้รวมแล้วก็กว่า 100 กระชัง โดยปลาเริ่มทยอยตายตั้งแต่เมื่อวานนี้ รวมแล้วกว่า 10 ตัน ทำให้ต้องเกณฑ์คนมาช่วยกันเอาปลาขึ้นจากน้ำซึ่งปลาที่ลอยขึ้นมาแล้วไม่สามารถขายได้ต้องขอดเกล็ดควักไส้ทำความสะอาด ทำเป็นปลาร้าเท่านั้น
ส่วนปลาที่ยังพอขายได้จากเดิมหากได้จับขายตอนนี้ราคารับซื้อจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 63 บาทแต่ก็ต้องจำใจขายไปกิโลกรัมละเพียง 10 บาทเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็จะไม่ได้อะไรเลย เพราะปลาก็ทยอยตายอย่างต่อเนื่อง
เบื้องต้นทางผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.หนองบัว และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาที่ได้รับผลกระทบได้เดินทางไปที่ฝายมหาสารคาม เพื่อขอให้ทางฝายเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้มีน้ำไหล ปลามีออกซิเจนในน้ำเพิ่มมากขึ้น โดยทางฝายมหาสารคามแจ้งว่า จะเปิดประตูระบายน้ำให้ 5 ซม. แต่ช่วงเย็นก็จะปิดเหมือนเดิม แต่ชาวบ้านอยากให้เปิดตลอดเพราะกว่าน้ำจะมาถึงปลาก็จะยิ่งตายไปเรื่อย ๆ สร้างผลกระทบให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังเป็นอย่างมาก อีกทั้ง ผู้เลี้ยงปลากระชังตลอดลำน้ำชีในพื้นที่ท้ายน้ำอย่างอำเภอกันทรวิชัยและอำเภอเมืองมหาสารคามก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ทั้งนี้ ตนเองลงทุนทั้งค่าอาหารและพันธุ์ปลารวมแล้วกว่า 800,000 บาท ปลากำลังจะจับขายได้ในอีก 1-2 วันนี้แต่ยังไม่ทันได้จับขายก็มาตายเสียก่อนหากจะนับมูลค่าความเสียหายเฉพาะบริเวณนี้หากเสียหายทั้งหมด มีกระชังปลาประมาณ 100 กระชัง แต่ละกระชังลงปลา 600-800 ตัวน้ำหนักที่จะได้ต่อ 1 กระชังจะเท่ากับประมาณ 500-700 กิโลกรัม หากจับขายกิโลกรัมละ 63 บาท จะได้เป็นเงิน 31,500- 44,100 บาทต่อ 1 กระชังบริเวณนี้เลี้ยงปลาประมาณ 100 กระชังมูลค่าความเสียหายจะอยู่ที่ 3,150,000-4,410,000 บาท ตอนนี้ทุกคนต้องช่วยเหลือตนเอง อย่างกระชังของตนก็ต้องติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำ ต่อท่อ PVC เจาะรู ปั๊มน้ำส่งขึ้นไปตามท่อ พร้อมๆกับแล่นเรือเล็กบริเวณกระชัง เพื่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำ เพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำและภาวนาขออย่าให้ปลาตายไปมากกว่านี้
ด้านนายยงยุทธ สุดมี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สำนักงานประมงจังหวัด กล่าวว่า ภายหลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านก็ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ตอนนี้เท่าที่สำรวจมี 2 เจ้าสาเหตุที่ปลาตายคาดว่าเกิดจากปริมาณน้ำน้อย การเคลื่อนไหวของน้ำไม่มี ค่าออกซิเจนในน้ำน้อย พอตกกลางคืนออกซิเจนก็จะยิ่งน้อยลงจึงทำให้ปลาทยอยตายอย่างต่อเนื่อง ก็จะได้สำรวจว่าแต่ละกระชัง มูลค่าความเสียหายเท่าไหร่ จากนั้นก็จะได้แจ้งไปยังประมงจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดและอธิบดีกรมประมง เพื่อดำเนินช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรต่อไป.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี