ชาวพังโคนกว่า 30 รายบุกร้องปลัดอำเภอ อ้างโดน จนท.อบต.แห่งหนึ่งหลอกเรียกรับเงินรายละ 450,000-600,000 บาท สอบเข้าเป็น ขรก.ท้องถิ่น แต่สุดท้ายแห้วหมด คาดเสียหายว่า 30 ล้าน ขณะที่นอภ.นำ 2 ฝ่ายมาซักถามกันต่อหน้า ยอมรับเป็นเรื่องจริง แต่อ้างโอนเงินไปให้คณะทำงานใน มท.ได้ค่าหัวรายละ 50,000 บาท สุดท้ายยอมลงบันทึกยอมชดใช้ทีละราย ขณะที่กองทุนขยะโผล่ฉาว เก็บเงินรายละ 300 บาทต่อเดือนเอาไปจ่ายให้กับสมาชิกที่เสียชีวิต แต่ผ่านมาหลายปียังไม่มีใครได้รับเงินสักราย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.66 ชาวบ้าน และผู้เสียอีกกว่า 30 คน รวมตัวเข้ามาร้องเรียนว่า พวกตนได้รับความเดือดร้อน จากการถูกเจ้าหน้าที่ของ อบต.แห่งหนึ่ง ใน อ.พังโคน โดยอ้างว่าโดนหลอกเอาเงินในเชิงฉ้อโกง โดยระบุว่า สามารถฝากสอบเข้าทำงานเป็น ขรก.ท้องถิ่นในตำแหน่งต่างๆ ได้ โดยเสียเงินให้รายละ 450,000 -600,000 บาท เหตุเกิดมาตั้งแต่ ปี 2562 จนปัจจุบัน มีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้ว 38 ราย รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 30 ล้านบาท เหยื่อบางรายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ ใน สภ.ที่เกิดเหตุหลายแห่ง แต่คดีไม่คืบหน้า เพราะจนท.รายดังกล่าว ยังมาทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผู้เสียหายรายหนึ่งบอกว่า ครั้งแรกได้มาหลอกว่าจะฝากสอบเป็น ขรก.ให้ได้โดยจะต้องจ่ายเงินให้ 150,000 บาท ก่อนแล้วบอกว่าใกล้จะสอบแล้ว หากต้องการจะได้ตำแหน่งที่ต้องการ จะต้องเสียเพิ่มเป็นเงิน 500,000-600,000 บาท สุดท้ายกลับไม่ได้ทวงถามก็ผลัดวันไปเรื่อยๆ
ขณะที่ น.ส.พรภิรมย์ ก้อนแพง ปลัดอำเภออาวุโสอำเภอพรรณานิคม ได้มารับเรื่องและนัดผู้เสียหายทั้งหมด มาที่ว่าการอำเภออีกครั้ง ในเวลา 15.00 น. โดยนัดนายอำเภอ, ผกก.สภ. พรรณานิคม นายก อบต.ช้างมิ่ง และ จนท.คนดังกล่าวมาเจอกัน เพื่อหาทางคลี่คลายปัญหา
ต่อมา เวลา 15.00 น. นายยรรยง พรมศร นายอำเภอพรรณานิคม พ.ต.ท.สนั่น คำสีเขียว รอง ผกก.สส.สภ.พรรณานิคม ได้ให้กลุ่มผู้เสียหาย และฝ่ายที่ถูกกล่าวหา ได้มาชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยทางฝ่ายผู้เสียหายได้มอบอำนาจให้นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ เป็นผู้ซักถามเจ้าหน้าที่ อบต.รายดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าได้ส่งเงินไปให้คณะทำงานของผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทย โดยตนได้ค่าแนะนำรายละ 50,000 บาท
เมื่อทนายถามว่า เงินที่ผู้เสียหายได้จ่ายไปนั้นจะชดใช้คืนอย่างไร เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุว่า ตนก็ขอเงินกับคนที่ตนได้ส่งเงินให้ โดยจะไปฟ้องเอาก็ไม่ได้ เพราะตำรวจบอกว่าเกิน 3 เดือนแล้ว ไม่สามารถฟ้องได้
ทนายสมเกียรติ ได้ซักถามต่อว่า มีการยักย้ายถ่ายเทสินทรัพย์ไปที่อื่นหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ อบต.รายนี้ ได้ตอบว่า ไม่จริง เงินที่ได้มาก็นำไปมอบให้กับคณะทำงานฯไปแล้ว จึงไม่มีคำตอบว่าจะชดใช้อย่างไร แต่จะพยายามชดใช้ทีละรายไป ทั้งหมดจึงทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่ากลุ่มฝากงานมีกี่ราย งานกู้ยืม เงินซื้องานรับเหมา จะต้องชดใช้โดยให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่เกี่ยวกับคดี เพื่อที่จะฟ้องร้องหากมีการบิดพลิ้วในภายหลัง
ด้าน นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้หากเจ้าตัวเกิดเบี้ยวขึ้นมาโดยไม่ชดใช้ให้กับผู้เสียหาย ก็สามารถที่จะฟ้องร้องได้ เพราะเจ้าตัวก็รับสารภาพแล้วว่าไม่มีการฝากงานจริง
ขณะเดียวกัน มีเหยื่อรายหนึ่งร่ำไห้เล่าว่า ตนไปยืมโฉนดที่ดิน 2 แปลง ไปจำนองกับนายทุน จำนวน 5 แสนบาท บัดนี้นายทุนจะยึดที่ดินนั้นแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ อบต.รายนี้ ไปพูดกับนายทุนให้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากประเด็นเรื่องโดนหลอกเรียกรับเงินเพื่อฝากสอบเข้าทำงานเป็น ขรก.ท้องถิ่นแล้ว ยังมีชาวบ้านใน ต.ช้างมิ่ง จำนวน 18 หมู่บ้าน กว่า 20 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนขยะ ของ อบต.ช้างมิ่ง กว่า 1 พันคน ได้มาร่วมร้องสมทบว่า ให้ข้อมูลว่ากองทุนขยะนี้ สมาชิกทุกคนจะถูกเรียกเก็บเงิน คนละ 300 บาท ต่อเดือน เพื่อนำเงินมาจ่ายให้กับสมาชิกที่เสียชีวิต รายละ 26,000 บาท แต่ปรากฏว่าหลายปีมานี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ราย ซึ่งยังไม่ได้รับเงินชดเชยแต่อย่างใด จึงต้องการให้ดำเนินการตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม น.ส.พูนศรี พงษ์เพชรดิถ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.สกลนคร กล่าวว่า ได้รับรายงานทางวาจาแล้ว เบื้องต้นได้แนะนำให้ผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่เกิดเหตุนั้นๆ แล้วเข้ามาร้องเรียนที่ ป.ป.ช.จังหวัดสกลนคร เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี