สำนักงานเกษตรจังหวัดสุโขทัยลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและเก็บข้อมูล เพื่อส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ศูนย์เครือข่ายของอำเภอศรีนคร ณ สวนอินทผาลัมบุณยวีร์ ซึ่งมีนางโสภี สายบัวต่อ หรือพี่ต๊อก อายุ 51 ปี เป็นเจ้าของสวน จากความชอบส่วนตัวสู่เจ้าของสวนอินทผาลัมผลสดของจังหวัดสุโขทัย

พี่ต๊อก เล่าว่า ชอบท่องเที่ยวและชอบทาน มองเห็นอนาคตของอินทผาลัมที่สามารถเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สามารถเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ จึงเริ่มปลูกอินทผลัมผลสดในพื้นที่ 3 ไร่ ที่บ้านน้ำขุม อำเภอศรีนคร จำนวน 100 กว่าต้น ใช้ต้นเนื้อเยื้อที่มีมาตรฐานเหมือนกันทุกต้น จึงทำให้ผลผลิตมีคุณภาพเหมือนกัน มี 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์โคไนซี่ (สีแดง) และสายพันธุ์บาฮี (สีเหลือง)

อินทผาลัมหลังการผสมเกสรในเดือนกุมภาพันธ์ สามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม พี่ต๊อกมีการจัดการเกษตรแบบประณีต คือ มีการตัดแต่งช่อดอกให้ความยาวเท่ากัน และคัดลูกเพื่อไว้ลูกให้ใหญ่สมบูรณ์ (น้ำหนักเฉลี่ย 8-12 กก./ช่อ) อีกทั้งปลูกแบบ GAP ใช้ปุ๋ยคอกปลอดสารเคมี ให้น้ำโดยการปล่อยน้ำบริเวณรอบโคน หมั่นตัดหญ้าให้สวนสะอาดอยู่เสมอ เพื่อลดแมลงศัตรูพืชและโรค จากการจัดการที่ใส่ใจนำไปสู่ผลผลิตที่มีคุณภาพ ทำให้อินทผาลัมของพี่ต๊อกมีผลดก เนื้อเยอะ เมล็ดเล็ก รสชาติหวานกรอบ ไม่ฝาด ผู้บริโภคชื่นชอบ เป็นที่ต้องการของตลาด คาดว่าสามารถสร้างรายได้ประมาณ 2-3 แสนบาทต่อปี ส่วนเทคนิคการเลือกอินทผาลัมที่มีรสชาติหวาน บริเวณผลถ้ามีรอยขีดเล็กๆ ลักษณะลูกลายๆ คือหวานพร้อมกิน

ปัจจุบันพี่ต๊อกขายอินทผาลัมผลสดผ่านช่องทางออนไลน์และส่งขายตลาดรอบชุมชน ราคาพันธุ์โคไนซี่ (สีแดง) กิโลละ 350 บาทรวมส่ง และสายพันธุ์บาฮี (สีเหลือง) กิโลละ 300 บาทรวมส่ง หากสนใจผลผลิตหรืออยากเที่ยวชมสวนสามารถติดต่อได้ทางเพจ Facebook : สวนอินทผลัม บุณยวีร์ - Date Palm garden หรือเบอร์ 089-965-4012 (พี่ต๊อก) - 003