ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก จังหวัดราชบุรี ชวนปลูกเลมอนสายพันธุ์ยูเรก้า ทดลองปลูกในบ่อซีเมนต์ให้ผลผลิตดี โตวัย เป็นที่ต้องการของตลาด โรงแรม ภัตตาคารเริ่มให้ความสนใจ มีการรับซื้อผลผลิตคืนจากเกษตรกรที่นำไปปลูกให้ราคาดี

เลมอนพันธุ์ยูเรก้า มีถิ่นกำเนิดในแคลิฟอร์เนีย ลักษณะรูปทรงรีปลายแหลม เปลือกหนา เป็นพืชที่โตวัย ในประเทศแถบยุโรปหรือ อเมริกานิยมใช้เฉพาะเปลือกทำค็อกเทลและปรุงอาหารหลายอย่าง การติดดอกง่าย ให้ผลไว้ 8-10 เดือนก็เริ่มให้ดอกแล้ว จะออกดอกที่ปลายกิ่ง เป็นช่อ ดอกตรงกลางจะใหญ่และยาวกว่าดอกอื่น ๆ การติดผลส่วนใหญ่จะมีผลเดี่ยว จะมีบางช่อบ้างเล็กน้อย ขนาดผลบางผลจะใหญ่มาก 2-300 กรัม ผิวไม่ค่อยเรียบ รสชาติจะเปรี้ยวแต่ไม่จี๊ดจ๊าดมากเท่ามะนาว มีกลิ่นหอม มีโรคน้อย การดูแลง่าย ทำให้เกษตรกรหลายรายให้ความสนใจนำมาทดลองปลูกในพื้นที่

นายราเชนทร์ สุขหวานอารมณ์ เกษตรกรชาวหมู่ที่ 7 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก อ.บางแพ ได้นำกิ่งเลมอนกว่า 500 กิ่ง มาทดลองปลูกในบ่อซีเมนต์ โดยนำดิน ปุ๋ยคอก ปุ๋ยมูลสัตว์ที่หมักไว้แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำกิ่งพันธุ์ปลูก ใช้เวลาไม่ถึงปีก็เริ่มติดดอกและเริ่มให้ผลผลิตแล้ว 

นายราเชนทร์ สุขหวานอารมณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก อ.บางแพ เจ้าของสวน เปิดเผยว่า ประโยชน์ของเลมอนจะใช้น้ำ ส่วนผลจะนำไปตกแต่งบนจานอาหาร โดยเลมอนที่ปลูกเป็นสายพันธุ์ยูเรก้านำเข้าจากต่างประเทศ ปลูกได้ค่อนข้างดี ทนต่อโรค เก็บผลผลิตได้เร็ว ภายใน 1 ปี ก็สามารถเก็บผลผลิตจำหน่ายได้แล้ว ถือเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มองว่าตลาดเมืองไทย การท่องเที่ยวเริ่มคึกคักเข้ามามากขึ้น ส่วนใหญ่โรงแรมจะใช้เลมอนเป็นหลักในการจัดอาหาร มีข้อดีคือ เก็บไว้ได้นาน กินได้ทั้งผิว ไม่มีรสขม น้ำก็ดี 

สำหรับช่วงการปลูกปีแรกจะมีผลลักษณะผิวไม่ค่อยสวย เปลือกหนา แต่เมื่อผ่านไป 4-5 ปีแล้วก็จะเริ่มมีลักษณะผิวเรียบสวยมากขึ้น ผลจะเล็กลง ตรงตามต้องการของตลาดที่จะนำไปแต่งบนจานเมนูอาหารตามโรงแรม ภัตตาคาร แต่หากเป็นลูกใหญ่แบบนี้จะดีสำหรับคั้นเป็นน้ำ และแปรรูปอบแห้ง ทำเบเกอร์รี่ น้ำเลมอนผสมน้ำผึ้ง ส่วนราคาหากขายส่งกิโลกรัมละ 72 บาท โดยจะมีค่าแพ็กกิ้งบรรจุภัณฑ์จะมาถึงมือเกษตรกรอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 30-50 บาท แต่เมื่อมีการปลูกกันในพื้นที่จำนวนมาก ยังสามารถนำลูกเลมอนไปใช้แทนมะนาวในเมนูส้มตำยังช่วยเพิ่มกลิ่นหอมได้อีกด้วย

ส่วนกิ่งพันธุ์ที่สวนยังมีจำหน่ายกับผู้ที่สนใจในเชิงพาณิชย์ หรือจะมาขอคำปรึกษาการปลูกได้ เนื่องจากมองว่าตลาดกำลังต้องการสูง สนใจมีให้เลือก 2 แบบ เป็นกิ่งที่ตัดจากต้นขายกิ่งละ 100 บาท แต่หากนำกิ่งชำลงกระถางพร้อมปลูกขายต้นละ 150 บาท ขณะนี้มีเกษตรกรสนใจซื้อกิ่งพันธุ์ไปทดลองปลูกในพื้นที่แล้วแต่ไม่มาก ซึ่งหากปลูกในเชิงพาณิชย์ในจำนวนที่น้อยจะขายไม่ได้ เพราะทำตลาดไม่เพียงพอต่อการค้า ทางสวนจึงอยากได้พันธมิตรที่สนใจมาร่วมกลุ่มกัน หรือมาขอความรู้การปลูก หรือซื้อพันธุ์ไปแล้วทางสวนสามารถซื้อผลผลิตกลับคืนมาได้ ปัจจุบันสามารถทำตลาดการค้าส่งท็อปซุปเปอร์มาเก็ต และยังมีห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ที่ติดต่อเข้ามา แต่ทางสวนมีสินค้ายังไม่เพียงพอ อย่างวันนี้มีออเดอร์เข้ามา 940 แพ็ค แต่สามารถจัดส่งได้เพียง 200 แพ็ค เท่านั้น  

สำหรับเกษตรกรหรือผู้สนใจที่อยากจะทดลองปลูก สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่คุณราเชนทร์ สุขหวานอารมณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก อ.บางแพ จ.ราชบุรี ได้ที่เบอร์โทรหมายเลข 086-0419571 - 003