กลุ่มช่างแกะสลักต้นเทียนพรรษา ทั้งรุ่นใหญ่และวัยเยาว์จาก 6 คุ้มวัดในพื้นที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ต่างร่วมมือร่วมใจกันแกะสลักต้นเทียนพรรษา เพื่ออนุรักษ์งานฝีมือการแกะเทียนพรรษา ที่ได้มีการถ่ายทอดฝีมือกันจากรุ่นสู่รุ่น ก่อนจะเตรียมนำไปประดับขบวนรถแห่เทียนพรรษาที่จะนำไปอวดโฉมให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับชม ในงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอประโคนชัย ประจำปี 2566 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 ส.ค.ที่จะถึงนี้
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่างแกะสลักเทียนพรรษา ทั้งวัยผู้ใหญ่ วัยกลางคน และวัยเด็กจากทั้ง 6 คุ้มวัด ในเขต ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการแกะสลักต้นเทียนพรรษา ให้เป็นลวดลายต่างๆ ตามจินตนาการ ที่ได้มีการแกะผสมผสานระหว่างลวดลายไทยกับลวดลายขอม เพื่อบอกเล่าถึงงานศิลปะท้องถิ่น และเรื่องราวของพุทธประวัติ โดยช่างแกะสลักต้นเทียนพรรษา ทั้ง 6 คุ้มวัด ในทุกรุ่นได้มีการหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันเข้ามา ทำการแกะสลักต้นเทียนพรรษา กันทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งช่างแกะสลักต้นเทียนพรรษาหลายราย ถึงกับต้องอาศัยกินนอน อยู่ในบริเวณสถานที่แกะสลักต้นเทียนพรรษา ที่แต่ละคุ้มวัดได้จัดสถานที่ไว้สำหรับการแกะสลักต้นเทียนพรรษาด้วย
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมให้ทัน ในการนำไปร่วมงานขบวนแห่ต้นเทียนพรรษา ในงานประเพณีแห่เทียนพรรษา อ.ประโคนชัย ประจำปี 2566 ซึ่ง จ.บุรีรัมย์ โดย อ.ประโคนชัย ร่วมกับ อบจ.บุรีรัมย์ , ทต.ประโคนชัย , อบต.ประโคนชัย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กำหนดจัดขึ้น ที่บริเวณริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม หน้าสำนักงาน ทต.ประโคนชัย ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ในระหว่างวันที่ 2-3 ส.ค.66 ที่จะถึงนี้โดยใช้ชื่อว่า “มรดกวัฒนธรรมอันล้ำค่า มหัศจรรย์เทียนพรรษาประโคนชัย”
เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นชาว อ.ประโคนชัย ที่ได้มีการจัดสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน และเพื่อเป็นการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์ฝีมือการแกะสลัก การประดับต้นเทียนพรรษา อันวิจิตรงดงามของช่างฝีมือชาว อ.ประโคนชัย ที่ไม่แพ้ช่างฝีมือใด ให้สาธารณชนได้รับรู้
เนื่องจากทั้ง 6 คุ้มวัด นอกจากช่างแกะสลักต้นเทียนพรรษา ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยผู้ใหญ่ และวัยกลางคนแล้ว ยังมีเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 13-20 ปี จากชุมชนโดยรอบคุ้มวัด ได้อาศัยช่วงเวลาว่างเว้นหลังจากเลิกเรียน มาเป็นลูกมือช่าง เพื่อฝึกหัดการแกะสลักต้นเทียนพรรษา และฝึกปรือฝีมือการแกะสลักต้นเทียนพรรษา จากช่างแกะสลักต้นเทียนรุ่นพี่ ในการร่วมอนุรักษ์และสืบทอดงานฝีมือ การแกะสลักต้นเทียนพรรษา ให้คงอยู่กับชาว อ.ประโคนชัย ซึ่งสิ่งสำคัญของการจัดงานแห่เทียนพรรษา อ.ประโคนชัย ไม่ใช่อยู่แค่เฉพาะการเฟ้นหาคุ้มวัด ที่ได้รับชัยชนะจากการประกวดขบวนแห่เทียนพรรษา หรือเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเท่านั้น
แต่ขบวนแห่เทียนของทุกคุ้มวัด จะเน้นเป็นตัวละครในวรรณคดี การเล่าเรื่องราวความเป็นมาทางพุทธประวัติ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอันดีงามของไทย และการแสดงความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยไม่ล้อเลียนการเมือง เพื่อเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีกัน ระหว่างผู้คนในแต่ละชุมชนทั้ง 6 คุ้มวัด จากการอาศัยความร่วมไม้ร่วมมือกันระหว่าง 3 สถาบัน คือ “บ้าน วัด และโรงเรียน” หรือ บวร.ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์ ขบวนแห่เทียน ให้มีความสวยงามตามแบบฉบับของชาวประโคนชัย
นายชยพล ภูมิประโคน อายุ 52 ปี ช่างแกะสลักเทียนพรรษา จากคุ้มวัดโพธิ์ ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย กล่าวว่า ในทุกๆ ปีชาวบ้านจะมารวมตัวกัน ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน เพื่อร่วมกันออกแบบและแกะสลักเทียนพรรษา ส่งเข้าร่วมประกวดขบวนแห่เทียนพรรษา ซึ่งถือว่าเป็นงานประจำอำเภอของ อ.ประโคนชัย ที่ได้มีการจัดมาอย่างยาวนาน โดยในปีนี้ทางวัดโพธิ์ยังคงรูปแบบการแกะสลักต้นเทียนพรรษาเหมือนทุกปี คือเป็นเรื่องราวบอกกล่าวถึงพุทธประวัติ
ซึ่งสมาชิกที่มาร่วมแกะเทียนพรรษา จะมีตั้งแต่ช่างแกะสลักเทียนระดับนายช่างใหญ่ที่มีความชำนาญสูง ลูกศิษย์ลูกหา และเด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่จากชุมชนรอบวัดที่สนใจศิลปะการแกะเทียน เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10-20 คน ได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน และวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เพื่อเข้ามาเรียนรู้ ฝึกฝนฝีมือ การแกะสลักเทียน เพื่อสืบทอดงานฝีมือการแกะสลักเทียนไม่ให้จางหายไปกับรุ่นพี่ๆ ซึ่งช่างแกะสลักเทียนส่วนใหญ่ไม่ได้จบช่างศิลป์ แต่มีจบช่างศิลป์มาบ้าง ก็นำความรู้ความสามารถของแต่ละคนที่มีมาฝึกปรือร่วมกัน และขอเชิญชวนน้องๆเยาวชนที่สนใจ และมีความรักในเรื่องของงานศิลป์ มาร่วมอนุรักษ์งานฝีมือการแกะสลักเทียนพรรษา ซึ่งทุกคุ้มวัดรวมถึงวัดโพธิ์ ก็ได้มีการสานต่องานฝีมือการแกะสลักเทียนพรรษาจากรุ่นสู่รุ่น
ด้าน ด.ช. นิชคุณ ไชยประโคน หรือ น้องฟลุ้ค อายุ 13 ปี นักเรียนโรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม ที่มาร่วมแกะสลักต้นเทียนพรรษา วัดโพธิ์ บอกว่า ตนเองสนใจและเริ่มเข้ามาร่วมการแกะสลักเทียนมาตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ โดยแรกเริ่มจากการเป็นลูกมือของรุ่นพี่ จากนั้นสอนการเทเทียน แล้วค่อยๆเริ่มเรียนรู้ในด้านต่างๆตามลำดับต่อไป ซึ่งจะมีรุ่นพี่คอยสอนแนะนำตลอดเวลา ซึ่งงานการแกะสลักเทียนถือเป็นงานที่ยากพอสมควร ทำให้ตนได้รับความรู้ และยังเป็นการฝึกให้ตนมีสมาธิด้วย เชื่อว่าในอนาคตจะสามารถต่อยอดวิชาความรู้ สร้างอาชีพให้กับตนเองในอนาคตได้อย่างแน่นอน นอกจากตนเองแล้วยังมีเพื่อนๆกว่า10-20 คน สนใจมาร่วมการแกะสลักเทียนด้วย
ขณะที่ นายมาโนช แน่ประโคน อายุ 50 ปี นายช่างใหญ่ วัดกลาง อ.ประโคนชัย ซึ่งเป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่กับวงการแกะสลักเทียนพรรษา มากว่า 20 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นอาจารย์สอนอยู่โรงเรียนเมืองตลุงพิทยาสรรพ์ ซึ่งโรงเรียน กับชุมชน และวัดกลาง อยู่ในพื้นที่ร่วมกัน ตนจึงได้มาช่วยกันแกะสลักต้นเทียนพรรษาเป็นประจำทุกปี โดยรูปแบบต้นเทียนและขบวนเทียนพรรษาของแต่ละวัด รวมถึงทางวัดกลางในทุกๆปี จะมีการออกแบบขบวนแห่เทียนที่ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ซึ่งจะเน้นเป็นตัวละครในวรรณคดี และเกี่ยวกับเรื่องความเป็นมาทางพุทธประวัติ เพื่ออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม และเพื่อแสดงถึงความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
นายมาโนช เล่าให้ฟังต่อว่า สำหรับขบวนต้นเทียนของวัดกลางในปีนี้ จะเน้นเป็นลวดลายงานศิลป์ของขอม ที่มีลวดลายที่ชัดเจน ดุดัน มีมิติ ผสมผสานกับลายเส้นของไทยที่มีความอ่อนช้อย งดงาม เพื่อแสดงออกถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา ที่มีความสัมพันธ์ทั้งทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมมาตั้งแต่อดีต ในการบอกเล่าถึงเรื่องราวของท้องถิ่น จ.บุรีรัมย์ ที่เป็นพื้นที่อารยธรรมขอมโบราณ จึงได้จัดเป็นลวดลายของพนมรุ้งและองค์พระศิวะร่ายรำ ที่เปรียบเสมือนเอกลักษณ์ของ จ.บุรีรัมย์ มาไว้บริเวณด้านหน้าขบวนเทียน ส่วนภายในขบวนเทียน จะเป็นเรื่องราวของพุทธประวัติ ที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากโปรดพุทธมารดา
นอกจากนี้ ยังได้มีเด็กและเยาชนจิตอาสา รวมถึงตนก็ได้นำเด็กนักเรียนชุมนุมศิลปศึกษา มาศึกษาเรียนรู้งานฝีมือการแกะสลักต้นเทียนพรรษา ในช่วงเวลาว่างหรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อให้เขาเหล่านี้ ได้ซึมซับในงานศิลปะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สืบสานงานฝีมือการแกะสลักเทียนพรรษาให้คงอยู่ไว้ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี