เมื่อเวลา  09.30 น.วันที่ 7 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่า พบชายอายุประมาณ 50 ปีเดินเข็นรถวิลแชร์ให้กับหญิงอายุประมาณ 60 ปีที่ขาด้านซ้ายหักดามเหล็ก มาบนถนนสาย 304 มุ่งหน้า จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนถึงโรงเรียนสายมิตรศึกษา ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีท่าทีอ่อนแรง จากการสอบถามทราบชื่อหญิงที่นั่งรถวิลแชร์ นางนพรัตน์ สุขกลิ่น อายุ 59 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.กาญจนบุรี มาอยู่ที่โครงการวัดสวนแก้วของพระพยอม กัลยาโณ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยทางศูนย์พักพิงคนไร้ที่พึ่งได้ส่งตัวมาอยู่ในโครงการวัดสวนแก้ว ได้ประมาณ 10 เดือนแล้ว เพื่อให้มีรายได้หาเลี้ยงชีพ ก่อนหน้านี้างนพรัตน์ ยึดอาชีพขอทานอยู่กินกับสามีมีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นชายชื่อนายอนันต์ 

หลังจากสามีเสียชีวิตลูกชายได้ไปอยู่ที่ภาคใต้จนถึงขณะนี้ก็ยังติดต่อลูกชายไม่ได้ จึงอยากให้ลูกชายมารับแม่ไปอยู่ด้วย เนื่องอยู่ที่นี่ลำบากมากต้องอาศัยคนอื่นคอยดูแล ขาด้านซ้ายหักดามเหล็ก วันนี้มารับยาที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี โดยมีนายประทุม บัวลอย อายุ 51 ปี เข็นรถวิลแชร์ให้ เนื่องจากนายประทุม รักและนับถือนางนพรัตน์ เป็นเหมือนพี่สาว แต่ตัวของนายประทุม เองก็พิการตาบอดข้างซ้าย 1 ข้าง และมือขวาพิการ ได้อาสาพานั่งรถวิลแชร์มารับยาที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ตั้งแต่เวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา โดยนายประทุม ได้เดินเข็นรถวินแชร์ออกจากโครงการวัดพระพะยอม ระยะทาง 6 กิโลเมตรถึงโรงพยาบาลกบินทร์บุรีเวลา 05.00 น. หลังจากรับยาแก้เบาหวานความดันเสร็จจึงเดินทางกลับที่พัก

สำหรับนายประทุม บัวลอย คนเข็นรถวีลแชร์ บ้านเดิมอยู่ที่ ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อก่อนเคยมีครอบครัว แต่ไม่มีลูกด้วยกันและแยกทางกับภรรยามานานแล้ว ตาบอดข้างซ้าย 1 ข้าง มือขวาพิการถูกส่งตัวมาอยู่ที่โครงการพระพยอม กัลยาโณ  เช่นเดียวกัน และได้รู้จักกับนางนพรัตน์ และสงสารจึงอาสาพามาส่งรับยาที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี - 003