ไม่สู้ก็ตาย! เล่ากี่ครั้งก็ระทึก! เปิดใจ"หนุ่มแจ็ค"อดีตทหารรักษาพระองค์ แรงงานไทยชาวอุดรธานีที่ไปทำงานในอิสราเอลฮึดสู้กลุ่มฮามาสถูกมีดปาดคอ ปักหัว รอดตายปาฏิหาริย์
วันที่ 13 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 8 บ้านสระคุ ต.หนองหัวคู่ อ.บ้านผือ จ.อุดธานี พบกับ น.ส.วาสนา หรือ "อ้อน" ภรรยานายวิทวัส กุลวงศ์ หรือ "แจ็ค" อายุ 34 ปี ชาว อ.ม่วงสมสิบ จ.อุบลราชะานีแต่มาได้ภรรยาที่ อ.บ้านผือ หนึ่งในแรงงานไทยในอิสราเอล โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งเป็นเงินที่นายแจ็ค ส่งมาให้ภรรยาสร้าง
โดย น.ส.วาสนา ได้เปิดเผยวีรกรรมของนายแจ็ค ซึ่งเป็นสามีที่ฮึดสู้กับกลุ่มก่อการร้ายเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะถูกมีดปาดคอและปักที่ศีรษะ นึกว่าเสียชีวิตแล้ว แต่สุดท้ายนายแจ็ค ก็รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ต้องเดินกึ่งคลานไปหาเพื่อนไกลกว่า 1 กิโลเมตรเพื่อให้เพื่อนช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลจนรอดชีวิตมาได้เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค.66 ที่ผ่านมาว่า สามีไปประมาณที่อิสราเอลเกือบ 4 ปีแล้ว ซึ่งปกติจะวีดีโอคอลคุยกับสามีทุกวัน วันเกิดเหตุตอนเช้าวันที่ 7 ต.ค. สามีได้ไลฟ์สดเห็นควันและเสียงระเบิดและเห็นมีกลุ่มฮามาสบุกเข้ามาในที่ทำงาน จากนั้นสามีก็วีดีโอหาตนเองมีกลุ่มคนบุกเข้ามาและก็บอกให้ตนเองวางสายและยังไม่ให้โทรไปหา จากนั้นปรากฎว่าก็ติดต่อสามีไม่ได้อีกเลย มารู้อีก 3 วันโดยได้ติดต่อเพื่อนไป แต่เพื่อนของสามีไม่ได้เล่าว่าสามีถูกกลุ่มก่อการร้ายทำร้ายเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่สุดท้ายก็ยอมบอกว่านายแจ๊ค ถูกกลุ่มฮามาสปาดคอสาหัส ตกใจมากยิ่งทำให้เป็นห่วง จนมารู้ข่าวว่าตอนนี้สามีปลอดภัยดี ถือว่าเป็นความโชคดีของพี่เขาที่รอดตายมาได้ อยากให้เขากลับมาเร็วๆ
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสามีเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่าได้ต่อสู้กับกลุ่มฮามาส ขณะที่อยู่ในโรงเลี้ยงไก่ โดยสู้กันแบบตัวต่อตัว สู้กันอยู่เป็นชั่วโมงสามีถูกทำร้ายสาหัส กลุ่มฮามาสนึกว่าตายแล้วจึงปล่อยทิ้งไว้ แต่สามีมาได้สติจึงกึ่งเดินกึ่งคลานไปหาเพื่อนช่วยเหลือรอดชีวิตมาได้ ดีใจมากที่สามารถรอดชีวิต อย่างวันนี้ก็มาล้างรถยนต์เตรียมไปรับสามีที่สนามบินเพื่อกลับบ้าน แต่บินวันไหนยังไม่รู้ หลังเกิดเหตุการณ์แบบนี้คงไม่ให้สามีไปอีกแน่" น.ส.วาสนา กล่าว
นางคำสี พิมพ์สุวรรณ อายุ 61 ปีแม่ยายนายแจ็ค บอกว่า สงสารลูกเขยเขาไปทำงาน 4 ปีกว่าแล้วส่งเงินมาให้ทางบ้านทุกเดือนใช้หนี้เพิ่งหมด กำลังจะก่อสร้างบ้าน แต่ก็ดีใจที่ลูกเขยรอดชีวิตกลับมาได้ คงไม่ให้ไปอีกแล้ว
ขณะที่นายวิทวัส หรือ "แจ๊ค" วีดีโอข้ามโลกมาเล่าเหตุการณ์ระทึกให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นตอนเช้าวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ตอนเช้ามีกลุ่มฮามาสทั้งทหารและพลเรือนบุกเข้ามาที่ตนเองทำงานอยู่ ตนก็วิ่งไปหลบสักพักได้ออกมา ปรากฎว่ากลุ่มนี้กลับมาใหม่ ไปประจันหน้าแบบตัวต่อตัวกับกลุ่มฮามาส เขาบอกให้ผมนอนลงแล้วเอามือประสานท้ายทอย แต่ผมไม่ทำตามจึงเกิดต่อสู้กันขึ้นแบบตัวต่อต่อ เขามีอาวุธมีด สู้กันอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง เขาพยายามปาดคอและมีดปักที่ศีรษะ จึงหักมีดออก คิดว่าตัวเองตายไปแล้ว ต่อมาก็ได้สติทั้งเดินทั้งคลานไปหาเพื่อนเกือบ 1 กม.ให้เพื่อนช่วยเหลือ ดีใจที่รอดมาได้ ไม่คิดว่าจะมีชีวิตกลับมาแล้ว
"ตอนที่ต่อสู้ก็คิดว่า สู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย เลยฮึดสู้สักครั้ง คือต้องใจสู้ เป็นไงเป็นกัน ผมเคยเป็นทหารรักษาพระองค์อยู่ ร.1 พัน 2 ถนนแจ้งวัฒนะปี 53 ปลดประจำการปี 54 ก็จดจำและเรียนรู้ความอดทน การเป็นเลือดนักต่อสู้จากการเป็นทหารได้รับการฝึกจากครูฝึกมาใช้ด้วย ดีใจที่รอดมาได้ ตอนนี้อาการดีขึ้นเป็นลำดับ ส่วนจะกลับเมืองไทยวันไหนยังไม่รู้แน่ชัดและเมื่อผมกลับเมืองไทยคงไม่ไปอีกแล้วอิสราเอล และขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงเป็นใยครับ" นายแจ็ค กล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี