พญานาคสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามคติความเชื่อทางพุทธศาสนา มักพบเห็นรูปปั้นพญานาค ปรากฏอยู่ตามวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับพญานาคคู่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ภายในบริเวณ วัดศรีสุทธาราม (วัดกำพร้า) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
รูปปั้นพญานาคคู่ ณ สถานที่แห่งนี้ มีความยาวตนละ 17 เมตรและมีที่มาน่าสนใจ เนื่องจากเป็นการปั้นโดยลำพังเพียงคนเดียวของ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกำพร้า พระมหาไพศาล กิตติโก และใช้เวลาต่อเนื่อง 4 ปีจึงจะปั้นจนสำเร็จ ซึ่งจะมีพิธีบวงสรวง สมโภชองค์พญานาคในเดือนธันวาคม 2566 นี้
พระมหาไพศาล กิตติโก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกำพร้า เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการปั้นพญานาค เกิดมาจากการได้เดินทางไปเห็นองค์พญานาคที่วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีความสวยงามและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว พุทธศาสนิกชนให้เข้าวัดทำบุญ ประกอบกับวัดกำพร้ามีพื้นที่กว้างขวาง และติดกับปากแม่น้ำท่าจีน มีความเหมาะสมที่สร้างองค์พญานาค เพื่อดึงดูดให้ผู้คนหันมาสนใจที่จะมายังวัดกำพร้า จึงได้นำความคิดที่จะสร้างพญานาคไปปรึกษากับเจ้าอาวาส แต่เมื่อได้มีการสอบถามราคาจากช่างที่ปั้นพญานาคโดยเฉพาะ ทำให้พบว่ามีราคาค่าจ้างสูงถึงเกือบ 2 ล้านบาท และเป็นราคาที่ยังไม่ได้รวมค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
ความคิดดังกล่าวจึงถูกปฏิเสธจากเจ้าอาวาส เนื่องจากต้องใช้ปัจจัยที่สูงเกินกำลัง แต่ความคิดที่จะสร้างองค์พญานาคก็ไม่หมดไป พระมหาไพศาล กิตติโก ได้ติดต่อไปยังเพื่อนสมัยที่ยังเป็นฆราวาส ซึ่งพอมีทักษะฝีมือช่างปั้นอยู่บ้าง ให้มาช่วยทำงานนี้และขอให้คิดค่าแรงเป็นรายวัน โดยพระมหาไพศาล จะมาเป็นลูกมือช่วยปั้นองค์พญานาคและช่วยทำงานต่างๆ จึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการปั้นพญานาค แต่ก็เพียงไม่นานเมื่อทางวัดขาดปัจจัยไม่สามารถจ้างช่างปั้นได้ต่อไป ทำให้ทุกอย่างที่เริ่มต้นต้องหยุดลง
ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นทำให้ พระมหาไพศาล กิตติโก ตัดสินใจลงมือปั้นพญานาคด้วยตนเอง เพื่อทำงานที่เริ่มต้นไว้ให้สำเร็จลุล่วง แม้จะไม่มีความรู้ด้านนี้มาก่อน แต่ด้วยมีใจรักในศิลปะและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ลงมือปั้นพญานาค จึงได้เริ่มปั้นองค์พญานาคทั้ง 2 ตน อีกครั้ง โดยมีคนงานชาวเมียนมาหนึ่งคนเป็นลูกมือช่วยผสมปูน ซึ่งในช่วงแรกอาศัยการศึกษาเรียนการออกแบบ งานเขียน งานเชื่อม ปั้นลวดลายต่างๆจากยูทูป ส่วนงานโครงสร้างได้ใช้ช่างที่มีประสบการณ์เพื่อความแข็งแรง และได้ลองผิดลองถูกในลักษณะทำไปแก้ไป จนเริ่มมีฝีมือและประสบการณ์ ทั้งในเรื่องการเลือกวัสดุอุปกรณ์ ชนิดของปูนที่นำมาปั้น ชนิดของกระเบื้องโมเสคที่มาติดประดับองค์พญานาค และอื่นๆ
สำหรับ พญานาคทั้ง 2 ตนนั้น พระมหาไพศาล กิตติโก ได้บอกว่ามีชื่อ พญานาคโอตตัปปะวุฒิ และ พญานาคหิริวุฒิ เป็นพญานาคผู้รักษาพระธาตุพนม โดยปัจจุบันได้ปั้นจนสำเร็จเรียบร้อยเหลือเพียงการเก็บงานติดกระเบื้องโมเสค ที่พื้นด้านล่างเพียงเล็กน้อย และได้มีการวางแผนที่จะจัดพิธีบวงสรวงในช่วงเดือนธันวาคม 2566 แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยสำหรับการทำพิธี เนื่องจากยังไม่มีเจ้าภาพโดยตรง
ช่วง 4 ปี ที่ลงมือปั้นพญานาค พบกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ จนหลายครั้งเกิดความท้อแท้ แต่ด้วยความรักและมีความสุขที่ได้ลงมือทำงาน จึงทำให้มีความอดทนและก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคต่างๆมาได้ แม้บางครั้งการทำงานต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากขาดปัจจัยในการซื้อวัสดุอุปกรณ์ แต่ก็เหมือนกับเป็นโชคชะตาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาล ให้มีคนใจบุญเข้ามาถวายปัจจัยเพื่อนำไปซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถทำงานต่อไปได้จนสำเร็จลุล่วง
พระมหาไพศาล กิตติโก ปัจจุบันอายุ 44 ปีพรรษา 14 พรรษา ได้กล่าวทิ้งท้ายฝากไปยังญาติโยม ขอให้ทุกคนมีความวิริยะอุตสาหะ และรักในสิ่งตนเองทำ ตั้งใจทำอย่างมีความสุข มีความอดทน และดูตัวอย่างการปั้นพญานาคที่แม้จะใช้เวลาถึง 4 ปี และต้องพบเจอกับปัญหาอุปสรรค ความท้อแท้มากมาย แต่ก็สามารถผ่านพ้นมาได้ด้วยขันติและความวิริยะอุตสาหะ ซึ่งเป็นธรรมะที่ทุกคนพึงกระทำ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี